ดูเหมือนว่าสวี่ฉางเกอจะประสบปัญหาทางด้านเงินทุนและมีการเจรจาหารือด้านความร่วมมือกับหยางกวนกวนเมื่อวานนี้
ตอนนี้เขาจะต้องระดมทุนเพื่อริเริ่มโครงการนี้ด้วยกันกับหยางกวนกวน หากเงินไม่พอ เปอร์เซ็นต์สิทธิ์ในการถือหุ้นจะต้องลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ต่ำกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
“ลุงสวี่ ลุงขาดเงินอีกเท่าไหร่” ฉีเติ่งเสียนเดินเข้าไปถามเมื่อเห็นสวี่ฉางเกอวางสายโทรศัพท์
“ประมาณร้อยล้าน นายต้องขายใบชาอัดแท่งสักอันละร้อยสองร้อยหยวน” สวี่ฉางเกออดหัวเราะหยอกเย้าไม่ได้
จ้าวซินหลานที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงเย็น “เธอถามไปก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วจะถามทำไม? คุณสวี่ งั้นฉันชวนคุณชายเหอมากินข้าว ให้เขาเข้ามาช่วยดีไหม!"
แต่สวี่ฉางเกอกลับเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจและกล่าวว่า “เหอติ้งคุนมาเพื่อลูกสาวของเราใช่ไหม? ฉันบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่าเอาเรื่องธุรกิจกับความรักของลูกสาวมาปะปนกัน!"
จ้าวซินหลานเอ่ยอย่างโมโหว่า “ทั้งหมดที่ฉันทำก็เพื่อครอบครัวของเราไม่ใช่เหรอ? ถ้าธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ มันจะยิ่งขึ้นสูงไปอีกระดับแน่นอน!"
สวี่ฉางเกอไม่อยากจะพูดเยิ่นเย้อกับผู้หญิงคนนี้ เขาไต่ขึ้นมาจากชั้นล่าง จ้าวซินหลานก็เช่นกัน เขาอยู่ในมุมสูงแล้ว แต่จ้าวซินหลานยัง
และจากจุดนี้เราสามารถมองเห็นคุณสมบัติของสวี่ฉางเกอได้ ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าระดับวิสัยทัศน์ของจ้าวซินหลานจะยังอยู่ไกลจากวิสัยทัศน์ของเขา แต่เขาก็ยังปฏิบัติต่อเธอด้วยหัวใจ
สวี่อี้หรูบังเอิญเดินออกมาพอดี เมื่อได้ยินว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันอีกครั้งเพราะตัวเธอ เธอก็แอบถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
ความจริงเธอยังมีความขัดแย้งอยู่ภายในใจ เธอควรเชื่อฟังตามที่พ่อแม่จัดการให้ หรือว่าควรมองหาผู้ชายที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงโดยที่ไม่ต้องสนเรื่องภูมิหลังของเขา
เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉีเติ่งเสียน
อันที่จริงเธอยังมีความรู้สึกชอบพอฉีเติ่งเสียนอยู่มาก ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่มีความยุติธรรม นอกจากนี้ผู้ชายอารมณ์ขันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะมีให้เห็นเยอะ
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มีภูมิหลังที่หนักแน่นนัก แถมยังเป็นคนหนานหยาง ยิ่งไปกว่านั้นยัง... อ้วนนิดหน่อย
เธออยู่ในสถานะและอยู่ในวัยที่ค่อนข้างสับสนเกี่ยวกับอนาคต
ในช่วงบ่ายวันนี้ เถ้าแก่กวนผู้ก่อความเสียหายไว้อย่างหนักเมื่อคืนโทรมาหาฉีเติ่งเสียน มาร้องขอความเมตตาจากฉีเติ่งเสียนและบอกว่าจะยอมจ่ายให้ห้าสิบล้าน
ฉีเติ่งเสียนฟังจนจบและไม่พูดอะไรเลยสักคำจนกระทั่งกดวางสาย ห้าสิบล้านให้ขอทานนะสิ พวกพี่ๆ ออกโรง มีครั้งไหนบ้างที่ได้น้อยกว่าร้อยล้าน?
เถ้าแก่กวนเองก็มึนงงเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้โทรมาอีก
ในเวลาเดียวกันนั้น ฉีเติ่งเสียนสั่งให้เฉินหยูเริ่มดำเนินการทางนั้นโดยมอบบริษัทยาทั้งหมดในหนานหยางให้เขา นอกจากนี้ยังใช้ทรัพยากรของตระกูลเฉินมาสร้างสิ่งกำบังให้ หลีกเลี่ยงไม่ให้ใครขุดคุ้ยความจริงได้
นอกจากนี้เขายังสังเกตว่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยท้องถิ่นไม่ได้จับตามองเขาแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
“จัดการเรื่องต่างๆ ในมือก่อน จากนั้นค่อยไปหากวนกวนกับหวงชง” ฉีเติ่งเสียนคิดวางแผนอยู่ในใจ เป็นความคิดที่ชัดเจนมาก
จากนั้นเขาจึงติดต่อกับหลี่อวิ๋นหว่านซึ่งอยู่ประเทศมี่ เธอไปต่างประเทศแล้ว ดังนั้นการที่ฉีเติ่งเสียนติดต่อกับเธอจึงไม่มีความเสี่ยงอะไรมากนัก
หลังจากที่หลี่อวิ๋นหว่านรับโทรศัพท์ เธอก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโมโหว่า “รอโทรศัพท์จากคุณโคตรนาน ยังกลัวอยู่เลยว่าสักวันอาจจะได้ยินข่าวว่าคนตดแตก! ฉันมาอยู่ที่ประเทศมี่ได้พักใหญ่แล้ว แต่คุณเพิ่งจะติดต่อหาฉันเนี่ยนะ”
ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “คุณใจเย็นแล้วฟังผมก่อน... ผมสั่งให้กูซินสกี้ช่วยชักใยกลุ่มนายทุนบอสตันให้คุณ คุณสามารถยืมมือกลุ่มนายทุนบอสตันเป็นฉากหน้าก่อตั้งบริษัทอัญมณีที่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องทอง เครื่องเงินและหยกได้ ส่วนเรื่องสินค้า ผมจะขอให้ตระกูลเฉินทางนี้เตรียมเสนอมาก่อน จากนั้นคุณค่อยควบคุมบริษัทนี้มาเจรจาข้อตกลงเรื่องอัญมณีกับตระกูลเหอที่เซียงซานแล้วนำเข้าหยกจำนวนมากของพวกเขา!”
“อืม... มัดจำ จะให้มากหน่อยก็ได้ ขาดทุนสักหน่อยก็ไม่เป็นไร ต้องให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าประเทศมี่กำลังเตรียมจะทำธุรกิจเครื่องหยก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...