รถที่ผู้จัดการเหลยขับเป็นเพียงโฟล์คสวาเกนธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่รถโฟล์คเภาตันที่อวดรวยโดยเฉพาะอย่างฉีเติ่งเสียน
เติ่งเสียนรู้สึกว่าตระกูลเหลยนั้นถ่อมตัวมาก มีบ้านมีธุรกิจใหญ่โต แต่กลับใช้แค่รถธรรมดาแบบนี้?
แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลที่ตระกูลเหลยทำแบบนี้
ตอนนี้ความคิดคนเปลี่ยนไปมากแล้ว คุณงามความดีที่ตระกูลเหลยเคยทำไว้ก็เป็นเรื่องหลายปีที่แล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังนึกถึงความดีนี้ของตระกูลเหลย ถ้าตระกูลเหลยทำตัวโอ้อวดมากเกินไป ก็คงจะนำปัญหามาสู่ตระกูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเซียงซานที่เป็นเมืองนานาชาติ ปีนั้นตระกูลเหลยแอบลักลอบเข้าไปในประเทศมี่และแถบประเทศที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตก หากจะบอกว่าชาวต่างชาติเหล่านั้นไม่โกรธเคืองตระกูลเหลยเลย ก็คงจะเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป
คฤหาสน์ตระกูลเหลยตั้งอยู่บนยอดเขา ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าสามพันตารางเมตร
นี่คือของขวัญที่ชาวหัวกั๋วมอบให้เหลยเทียนซื่อในปีนั้นเป็นการขอบคุณ นอกจากนี้ ตระกูลเหลยยังมีสิทธิในที่ดินผืนนี้ตลอดไปด้วย
ทางภาคใต้นี้ โดยเฉพาะเซียงซาน มีฮวงจุ้ยค่อนข้างดีมากและมีสถานศึกษามากมาย
ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะความเชื่อก็คงไร้เหตุผลเกินไป แม้แต่คนใหญ่คนโตในเมืองหลวงก็ยังหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้ ถึงขนาดที่ว่าเวลาจะจัดงานสำคัญอะไรก็ยังต้องเชิญปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงมาดูวันให้
ฮวงจุ้ยของเซียงซานนี้ถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่มีใครที่จะทำธุรกิจแล้วไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย!
ถึงชื่อเสียงของฉีเติ่งเสียนที่อาปินและโหวหลงเทาต่างรู้จักในนามของคนป่าเถื่อน แต่จริงๆเขาอ่านหนังสือเยอะมาก นอกจากนี้ เขาเรียนต่อสู้ก็ต้องเรียนเรื่องรอบตัวทั้งแปดทิศด้วย ดังนั้นเขาจึงมีความเข้าใจเรื่องฮวงจุ้ยอยู่บ้าง
ตำแหน่งที่ตั้งคฤหาสน์ตระกูลเหลยเป็นศูนย์รวมพลังฮวงจุ้ย ในตำแหน่งที่ดีแบบนี้สามารถติดอันดับฮวงจุ้ยดีอันดับที่สามได้อย่างสบายๆ
ด้วยความที่ฝีมือการต่อสู้ของเขาถึงระดับสูงสุดแล้ว ดังนั้นจึงค่อนข้างอ่อนไหวต่อหนามแม่เหล็กของโลก เพียงก้าวเข้าสู่เขตภูเขาเขาจึงรู้สึกสบายใจมาก แต่ลึกๆกลับแอบรู้สึกว่าสถานที่นี้มีบางอย่างผิดปกติ
"ประธานหลี่ ถึงแล้วครับ" ผู้จัดการเหลยเปิดประตูรถ เรียกสติฉีเติ่งเสียนคืนมา
ฉีเติ่งเสียนลงจากรถก่อนจะมองไปรอบๆ ตอนนี้เขามาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเหลยแล้ว "เมื่อสักครู่ตอนขึ้นเขามา ผมกำลังตะลึงกับทิวทัศน์อยู่ ไม่ทันได้สนใจทางนี้ ขอโทษนะครับ!"
"ประธานหลี่เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลเหลย ไม่ต้องเกรงใจครับ" ผู้จัดการเหลยตอบ
"ผู้อาวุโส!"
ผู้จัดการเหลยรีบหันหลังกลับไปโค้งคำนับให้ชายชราในชุดแบบสมัยราชวงศ์ถังสีขาวคนหนึ่งทันที
ชายชราคนนี้อายุเจ็ดสิบปีได้แล้ว ผมสั้นของเขาเป็นสีขาว คิ้วเองก็เป็นสีขาวแล้ว ใบหน้าผอมเรียวดูใจดี ทุกย่างก้าวเดินอย่างมั่นคงและทรงพลัง แฝงความดื้อรั้นตามแบบฉบับผู้อาวุโส
"คุณต้องเป็นผู้อาวุโสเหลยเทียนซื่อแน่ๆ ตอนเด็กผมรู้จักชื่อเสียงของคุณดี ในหนังสือเรียนมักจะเอาคุณเหลยมาเป็นแบบอย่างในการรับใช้ประเทศ" ฉีเติ่งเสียนพูดพลางประสานมือคารวะเหลยเทียนซื่อ
เขาค่อนข้างนับถือเหลยเทียนซื่อมาก นับย้อนไปตอนที่เซียงซานถูกควบคุมโดยชาวต่างชาติ จนชาวเซียงซานเองไม่ได้มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเซียงซานหลงเหลืออยู่เลย
แต่เหลยเทียนซื่อนั้นแตกต่างออกไป ตอนนั้นเขาช่วยมาตุภูมิของตัวเอง ให้ผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากนั้นมาได้อย่างยากลำบากและอันตราย หากถูกคนพวกนั้นจับได้ หัวก็หลุดออกจากบ่าได้ทุกเมื่อ
จนกระทั่งสองปีที่ผ่านมา เหลยเทียนซื่อถูกเปิดเผย จึงต้องหนีไปกบดานที่หนานหยางอยู่พักหนึ่ง
จนกระทั่งอิทธิพลของหัวกั๋วที่มีต่อเซียงซานถึงจุดสูงสุด เหลยเทียนซื่อจึงกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองได้อีกครั้ง
เหลยเทียนซื่อเองก็ประสานมือคารวะให้ฉีเติ่งเสียน "ประธานหลี่เกรงใจเกินไปแล้ว คุณเองก็ช่วยตระกูลเหลยของเราไว้เยอะ ถ้าไม่ได้คุณช่วยเหลยเจิ้นฉีลูกชายของผมเอาไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปเหมือนกัน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...