เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ยินคำว่า“เหยียนมู่หลง”สามคำนี้ แววตาได้ปรากฏความเยือกเย็นสายหนึ่งวาบผ่าน!
เขาไม่มีทางลืมเรื่องที่เหยียนมู่หลง จ้าวถูหลง เซี่ยขวางหลงสามคนนี้ที่ได้ทำกับเขาไว้ ถึงแม้ว่าเซี่ยขวางหลงจะถูกเขาฆ่าแล้ว แต่ยังมีอีกสองคนที่ยังรอดอยู่
“จริงๆแล้ว เหยียนต้งคนนี้เป็นน้องของเหยียนมู่หลงนี่เอง แบบนี้เขาก็ยิ่งสมควรตายละ” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อผู้จัดการเหลยได้ยินชื่อนี้เข้า ก้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
วินาทีถัดมา เขาก็พูดขึ้นมาว่า“ดูเหมือนว่า พวกเธอจะไม่ได้สนใจคำพูดของฉันซินะ?ถึงได้เอาชื่อเสียงของนายพลเหยียนมาขู่ฉัน?”
“แน่นอนว่าฉันไม่กล้าที่จะแหย่ตระกูลเหลย เพียงแต่ว่า ฉันต้องการที่จะพูดให้มันชัดเจนแค่นั้น!” ฉู่อวี่พูด
“หน้าตาของนายพลเหยียน ฉันต้องให้อยู่แล้ว!แต่เมื่อครู่ฉันได้พูดออกมาแล้ว ชีวิตของเธอ ฉันไม่เอา แต่ขาทั้งสองข้างของเธอ คงจะเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!” ผู้จัดการเหลยกล่าว
ทันทีที่เสียงของผู้จัดการเหลยดังขึ้น ร่างกายราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน!
ลูกน้องของตระกูลเย่ว์ที่อยู่ข้างฉู่อวี่นั้นหน้าซีดกันเป็นแถบ พร้อมกับเดินถอยหลัง ไม่กล้าที่จะลงมือ
เพียวแค่วินาทีฉู่อวี่ก็ถูกผู้จัดการเหลยบีบเข้าที่คอ เห็นแค่ ผู้จัดการเหลยยกขาขวาขึ้น เกิดเสียงดังสองครั้งบริเวณที่เข่าของฉู่อวี่
ฉู่อวี่ถูกบีบเข้าที่ลำคอ แม้แต่เสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาก็ไม่สามารถดังออกมาได้ มีเพียงแค่ใบหน้าที่แดงขึ้นในเสี้ยววิ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวม่วง สุดท้ายเปลี่ยนเป็นสีขาว......
เพียงแค่ชั่วพริบตา บนใบหน้าของเธอ ได้ปรากฏสีทั้งหมดสามสี
เมื่อมือของผู้จัดการเหลยได้คลายลง พรึบ ฉู่อวี่ได้ล้มลงไปอยู่บนพื้นเรียบร้อย
คนของตระกูลเหลย ถ้าไม่ก็ไม่ลงมือ แต่ถ้าลงมือแล้ว ก็จำเป็นต้องให้บทเรียนที่ลึกซึ้งแก่ผู้นั้น
ฉู่อวี่ถูกทำให้ขาหักทั้งสองข้าง ล้มนั่งอยู่บนพื้น สีหน้าแสดงความเจ็บปวด พร้อมกับร่างกายที่ขดเข้าหากัน
หากเป็นคนอื่นลงมือ ลูกน้องเหล่านี้ของตระกูลเย่ว์ต้องไม่นิ่งเฉยแน่นอน แต่หากคนของตระกูลเหลยลงมือ พวกเขาไม่กล้าที่จะโจมตี!หากไม่แล้ว คงได้เจอกับมีหนึ่งคนก็จัดการหนึ่งคน ทั้งหมดล้วนตายที่เซียงซานเป็นแน่
“ซื้อผ้าห่อศพเหล่านี้ไปให้หมด ไม่อย่างนั้น ก็เอาชีวิตทิ้งไว้ที่นี่ซะ!” ผู้จัดการเหลยพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ฉู่อวี่ไม่กล้าพูดพร่ำทำเพลง กัดฟันตอบ“ให้เงินแล้วไป!”
คนของตระกูลเย่ว์ได้จ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นก็แบกฉู่อวี่ออกจากร้านไป แต่ละคนหน้าตามืดครึ้ม เดินคอตก ราวกับไก่่ที่สู้แพ้อย่างนั้น
มาหาเรื่องก็หาไม่สำเร็จ แถมยังต้องเสียเงินไปหลายสิบล้านโดยฟรีๆ
“ผู้จัดการเหลย ฉันขอบคุณคุณเหลยเป็นอย่างมากที่ช่วยออกหน้าให้ฉัน” หลังจากที่หนานเชี่ยนพูดกับผู้จัดการเหลยจบก็โค้งคำนับหนึ่งที ภายในใจรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก
ผู้จัดการเหลยได้ขยับหลบข้างไปนิดนึง เพื่อที่จะไม่รับการขอบคุณที่ยิ่งใหญ่ของหนานเชี่ยน จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า“คุณหนูท่านนี้ ผมคงไม่สมควรที่จะถูกเรียกคุณเหลยสามคำนี้ได้ เรียกผมว่าผู้จัดการเหลยก็พอแล้ว”
“นอกจากนี้ เรื่องที่ผมออกหน้าให้นี้ ไม่ใช่เพราะต้องการช่วยคุณ แต่เพื่อตอบแทนความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของประธานหลี่”
ขณะที่พูด เขาก็ได้ยื่นมือออกมาและชี้ไปทางฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนอดที่จะชะงักไม่ได้ จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า“โอ๊ะ?ผู้จัดการเหลย พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกทั้งฉันกับตระกูลเหลยก็ไม่มีทางที่จะมีความสัมพันธ์กันได้ แล้วจะมีความเมตตาอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...