ตอน บทที่ 934 ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 934 ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
สวีเอ้าเสวี่ยรู้ดีว่าอู๋กั๋วฮั่วคือปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอย่างถ่องแท้ ได้ฟังเขาวิจารณ์ฉีเติ่งเสียนแบบนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก
เธออดไม่ได้ที่จะมองประเมินฉีเติ่งเสียนหลายรอบ ดูยังไงก็เอาหมอนี่ไปเทียบกับคนโบราณที่ดูสูงส่งไม่ได้เลยสักนิด หมอนี่เป็นได้แค่นักเลงหัวไม้เท่านั้นแหละ
ฉีเติ่งเสียนมองสวีเอ้าเสวี่ยก่อนจะยิ้ม "ทำไมประธานสวีมองผมแบบนั้นล่ะครับ? เราสองคนรู้จักกันดี คุณคิดว่าที่ปรมาจารย์อู๋พูดมาเกินจริงหรือ?"
สวีเอ้าเสวี่ยสีหน้ามืดครึ้ม คำพูดของฉีเติ่งเสียนดูเหมือนเป็นคำพูดทั่วๆไป แต่เธอรู้ดีว่ามันไม่ปกติ!
"เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ ปรมาจารย์อู๋ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม?" เหลยเทียนซื่อพูดขึ้น
อู๋กั๋วฮั่วเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูด "มีใครบางคนได้วางรูปแบบภูเขาและทะเลฝังร่างมังกรไว้ที่เซียงซาน ที่อยู่ตระกูลเหลยของพวกคุณอยู่ในตำแหน่งที่ได้ครอบครองมังกร เหมือนกับได้รับการสนับสนุนจากขุนนางใหญ่ในเมืองหลวง เรียกได้ว่าเป็นมังกรตัวจริงในเซียงซาน!"
"อา......" เหลยเทียนซื่อได้ยินแล้วก็ตะลึง
"ตำแหน่งนี้ เลือกฝังไว้ได้แยบยลมาก โชคดีที่ตอนแรกมีผู้สูงส่งคนหนึ่งมาพักอยู่ที่บ้านของพวกคุณสามวัน ไม่อย่างนั้น เกรงว่าสถานการณ์ของตระกูลเหลยคงยากจะช่วยเหลือ!" อู๋กั๋วฮั่วพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่มีแววล้อเล่นอยู่เลยแม้แต่น้อย
อู๋กั๋วฮั่วพูดต่อ "ผู้สูงส่งคนนี้ ในสมัยโบราณเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ดั่งจางเต้าหลิง จางซานเฟิง และหวังหยางหมิง แสงสว่างจากตัวของเขาได้สกัดรูปแบบทะเลและภูเขาที่ฝังร่างมังกรนี้ไว้ได้ชั่วคราว"
"แก้ไขได้หรือเปล่าครับ? แล้วผมต้องไปหาผู้สูงส่งจากที่ไหน......" เหลยเทียนซื่อถาม
อู๋กั๋วฮั่วผายมือไปที่ฉีเติ่งเสียน "ท่านนี้ก็เป็นผู้สูงส่งที่ฝึกยุทธ์จนแตกฉานแล้วคนหนึ่ง เลือดและลมปราณของเขาพุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำ การฝึกฝนจิตวิญญาณของเขาก็เทียบเท่าได้กับพระโพธิสัตว์และนักพรตเต๋า สามารถช่วยพวกคุณขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ทั้งหมด"
เหลยเทียนซื่อมองฉีเติ่งเสียนด้วยดวงตาลุกวาว
สวีเอ้าเสวี่ยรู้สึกว่าคำพูดนี้ของอู๋กั๋วฮั่วเกินจริงไปหน่อย สีหน้าเริ่มไม่สบอารมณ์
ถ้าฉีเติ่งเสียนมีพลังอะไรนี่อย่างที่ว่าจริง เขาก็จะกลายเป็นบุคคลสำคัญของตระกูลเหลยน่ะสิ? แล้วแผนการ "ทำลายป้อมปราการ" ตระกูลเหลยของเธอก็คงพังทลายย่อยยับ และอาจจะถูกฉีเติ่งเสียนควบคุมด้วย
ผู้จัดการเหลยเองก็อดไม่ได้ที่จะมองประเมินฉีเติ่งเสียน ก่อนจะพูดกับเหลยเทียนซื่อ "นายท่าน ผมฝึกยุทธ์มาทั้งชีวิต ก็นับได้ว่ามีสายตามองทะลุทะลวงระดับหนึ่ง แต่ว่า ผมมองไม่ออกเลยสักนิดว่าประธานหลี่มีพลังยุทธ์สูงแค่ไหน บางทีคำพูดของปรมาจารย์อู๋อาจจะเป็นจริงครับ"
เหลยเทียนซื่อยิ้มตาหยีพูดกับฉีเติ่งเสียน "ประธานหลี่ ไหนๆก็ช่วยกันมามากแล้ว ไม่สู้ช่วยตระกูลเหลยของพวกเราต่ออีกสักหน่อยล่ะครับ?"
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า "ได้อยู่แล้วครับ ตระกูลเหลยทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติไว้มาก ผมนับถือ ที่ช่วยก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว"
ภายใต้การนำทางของอู๋กั๋วฮั่ว ทุกคนออกจากคฤหาสน์ตระกูลเหลยมายังสถานที่หนึ่งใกล้ยอดเขา
อู๋กั๋วฮั่วหันมาพูดกับฉีเติ่งเสียน "คุณหลี่เห็นอะไรไหม?"
"รู้สึกได้ว่าพลังแม่เหล็กโลกของที่นี่มีปัญหาเล็กน้อยครับ แต่ไม่ชัดเจนมาก ถ้าไม่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองผมก็ดูไม่ออก" ฉีเติ่งเสียนพูด
อู๋กั๋วฮั่วหัวเราะ "นี่คือความฉลาดของคนที่ทำให้ที่นี่เป็นแบบนี้ ถ้าไม่ได้พลังยุทธ์ขั้นสูงของประธานหลี่ช่วยเปิดทาง รวมกับรัศมีความแข็งแกร่งที่ส่งผลโดยตรงกับรูปแบบของที่นี่ ต่อให้เป็นผมก็ยังดูไม่ออก!"
"มีวิธีอะไรที่จะจัดการได้ในคราวเดียวเลยไหมครับ? คงไม่ใช่ว่าจะให้ประธานหลี่อยู่ที่บ้านผมไปตลอดชีวิตหรอกกระมัง!" เหลยเทียนซื่อถาม
"ฮวงจุ้ยตรงนี้มีมาหลายปีแล้ว เหมือนเกาะติดกับที่นี่ไปแล้ว ถ้ากำจัดกะทันหัน เกรงว่าจะส่งผลเสียต่อตระกูลเหลย ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้คุณหลี่มาพักที่บ้านของคุณนานๆครั้ง ครั้งละสองถึงสามวัน" อู๋กั๋วฮั่วเหลือบมองเข็มทิศ ก่อนจะส่ายหน้า
"เพื่อช่วยตระกูลเหลยแก้ปัญหา งั้นผมก็คงต้องทำหน้าหนาอยู่คฤหาสน์ตระกูลเหลยต่ออีกสามวันล่ะนะ" ฉีเติ่งเสียนหัวเราะ
"สามวันน้อยไปครับ อยู่สามเดือนไปเลยดีกว่าไหม?!" เหลยเทียนซื่อพูดอย่างรีบร้อน
"ผู้อาวุโสเหลย ผมก็มีเรื่องที่ต้องทำเหมือนกันนะครับ อีกอย่าง สามวันก็พอแล้วล่ะ ครั้งที่แล้วที่ผู้สูงส่งคนนั้นมาก็สามวันเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ?"
"เอ่อ......ปรมาจารย์อู๋ คุณคิดว่ายังไงครับ?" เหลยเทียนซื่อถาม
"แน่นอนว่าย่อมได้" อู๋กั๋วฮั่วพยักหน้า
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ เหลยเทียนซื่อก็สั่งให้เตรียมโต๊ะอาหารต้อนรับแขก แถมยังมอบอั่งเปาซองใหญ่ให้อู๋กั๋วฮั่วและซุนชิงเสวียนเป็นการส่วนตัวด้วย
ฉีเติ่งเสียนเองก็ถือโอกาสนี้ผูกมิตรกับตระกูลเหลย แถมยังเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่งอีกต่างหาก!
"คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้จริงๆ" ฉีเติ่งเสียนหัวเราะ
สวีเอ้าเสวี่ยโกรธจนควันออกหู ตัวเองมา "ทำลายป้อมปราการ" แท้ๆ ดันโดนฉีเติ่งเสียนตัดหน้าซะได้ แถมยังทำให้เขากลายเป็นบุคคลผู้สูงส่งในสายตาตระกูลเหลยไปอีก!
ฉีเติ่งเสียนพูดกับสวีเอ้าเสวี่ย "คุณยังใจร้ายเหมือนเดิมเลยนะ! ผมดีกับคุณขนาดนี้ สุดท้ายคุณคิดจะถอนฟืนใต้กระทะผม? เฮ้อ โชคดีที่ผมยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่! ถ้าไม่ใช่ว่าผมโชคดีบังเอิญเจอตระกูลเหลยไปก่อนหน้านี้ ไม่งั้นคงโดนคุณเล่นงานได้แน่"
สวีเอ้าเสวี่ยกลับยิ้มน้อยๆ "ที่ฉันทำไม่ได้เรียกว่ากำหนดโชคชะตาด้วยมือตัวเองหรอกเหรอ? นายว่าจริงไหม"
ฉีเติ่งเสียนยิ้มเย็น "ไม่ใช่ว่าเตรียมจะใช้กลอุบายอะไรกับผมหรอกเหรอ?!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...