น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร นิยาย บท 23

สรุปบท บทที่ 23 ความรักอันลึกซึ้งที่มาช้ายังดูต่ำช้ากว่าต้นหญ้า: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร

ตอน บทที่ 23 ความรักอันลึกซึ้งที่มาช้ายังดูต่ำช้ากว่าต้นหญ้า จาก น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 23 ความรักอันลึกซึ้งที่มาช้ายังดูต่ำช้ากว่าต้นหญ้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร ที่เขียนโดย อล่าม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ไม่ต้อง ตอนนี้ข้าเพียงแค่อยากจะถอนหมั้นเท่านั้น” ฉู่หวูโยวสั่นไปเล็กน้อย หลบหลีกออกไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในเสียงที่เย็นชา ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกเลยแม้แต่นิด

หากเป็นคำพูดเช่นนี้ที่ไป๋อี้เฉินพูดกับฉู่หวูโยวเมื่อก่อน ฉู่หวูโยวในตอนนั้นจะต้องซาบซึ้งมากแน่นอน และมีความสุขมากด้วย

แต่น่าเสียดายที่นางไม่ใช่ฉู่หวูโยวเมื่อก่อนนี้ สำหรับผู้ชายที่ไร้ความรักเช่นนี้คนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะดีเยี่ยมมากแค่ไหน นางก็ไม่รู้สึกเสียดาย

ยิ่งไปกว่านั้นตามที่นางเห็นผู้ชายคนนี้ก็เป็นผู้ชายแย่ๆ อย่างมากคนหนึ่ง

ไป๋อี้เฉินมองไปทางฉู่หวูโยว ดวงตาหรี่ลงทีละนิดๆ เห็นได้ชัดว่าโมโหมากจริงๆ คำพูดดีๆ ของเขาพูดจบหมดสิ้น คิดไม่ถึงว่านางยังจะมีท่าทีเช่นนี้ได้

“ไม่ว่าเจ้าจะโกรธก็ดี เกลียดก็ช่าง ครั้งนี้ข้าจะไม่ปล่อยมืออีกเด็ดขาด” เสียงของไป๋อี้เฉินเห็นได้ชัดว่าเพิ่มระดับขึ้นมาหลายเท่า เปี่ยมไปด้วยอารมณ์โกรธที่ถูกระงับเอาไว้อย่างรุนแรง แต่กลับยังแฝงไปด้วยผลที่เลี่ยงไม่ได้อยู่อีก

ฉู่หวูโยวขมวดขึ้นขึ้น ส่วนลึกของดวงตาก็มีความเย็นชาออกมาหลายเท่าที่เพิ่มขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลยจริงๆ

“เจ้าก็ไม่ต้องไปขอร้องไทเฮาด้วย ขอร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ หากเกิดศึกที่ทางเหนือขึ้นอีก เจ้าพระยาใช้เวลาไม่นานก็ต้องออกรบอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ครึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นจวนไป๋ที่เป็นผู้ออกให้ เจ้าคิดว่าไม่มีการเห็นด้วยจากข้า ฝ่าบาทจะมีราชโองการรับสั่งให้ยุติการหมั้นหมายของพวกเราหรือ? ข้าขอปรามเจ้าไว้เลยว่าเจ้าอย่าเสียแรงคิดแผนการเปล่าประโยชน์ซะเปล่า” ไม้อ่อนใช้ไม่ได้ผลไป๋อี้เฉินก็ย่อมต้องเปลี่ยนเป็นไม้แข็งไปเลย

“หากค่าใช้จ่ายในครั้งนี้เกิดผิดพลาดประการใด เจ้าว่าพระยาฉู่จะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นไร?” ไป๋อี้เฉินไม่รังเกียจที่จะให้นางเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้นางคิดนอกลู่นอกทางไป

“ครั้งนี้พระยาฉู่ออกรบไปยังเป่ยเจียง เป่ยเจียงอากาศหนาวเย็นรุนแรง สภาพแวดล้อมโหดร้ายทารุณ หากเงินไปอาจส่งขึ้นไปได้ สงครามก็ไม่ได้รบ ทหารก็ใกล้จะหนาวตายหิวตายกัน ถึงตอนนั้นพระยาฉู่ก็คงจะปัดความรับผิดชอบไปไม่ได้” ดูเหมือนว่าไป๋อี้เฉินจะกลัวว่าฉู่หวูโยวไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาก็เลยพูดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เข้าใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

ดวงตาของไป๋อี้เฉินค่อยๆ หรี่ลง มองไปยังฉู่หวูโยวด้วยความเย็นชา

คิดไม่ถึงว่าไป๋อี้เฉินจะเอาเรื่องแบบนี้มาข่มขู่นาง?!

ทำไมเขาถึงกล้า?

คนพวกนั้นล้วนเป็นทหารที่อารักขาชายแดนปกป้องประเทศ ก็เพื่อปกป้องประเทศชาติบ้านเมืองความปลอดภัยของพวกเขา ดังนั้นจึงต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเข้าไปในสนามรบ คนพวกนั้นต่างเป็นคนที่น่านับถือที่สุด

ในตอนที่ไป๋อี้เฉินพูดถึงความเป็นความตายของพวกเขาก็ราวกับว่าเป็นคำพูดที่ง่ายดายเช่นนี้ได้ แม้กระทั่งไม่ควรค่าแก่การสนใจเลย!

ไป๋อี้เฉินยังเป็นคนอีกหรือเปล่า?!

ในตอนนี้ไป๋อี้เฉินใช้เงินที่จะต้องใช้จ่ายในการทำสงครามมาข่มขู่นาง ไม่ยอมให้นางถอนหมั้น!

เกรงว่าไป๋อี้เฉินยังจะเรื่องนี้มาข่มขู่ท่านพ่อของนางเท่านั้น

ฉู่หวูโยวนึกถึงตอนที่อยู่ในโถงใหญ่ ในดวงตาที่เย็นเยือกนั้นของท่านพ่อแฝงไว้ด้วยความอดทนและหนักแน่น

ท่านพ่อเอ็นดูนาง รักนาง แต่ว่าท่านพ่อก็ยิ่งต้องรับผิดชอบต่อแม่ทัพและนายทหารที่อารักขาชายแดนปกป้องประเทศพวกนั้นด้วย

พวกเขาออกรบฆ่าฟัน เสียสละชีวิตตนเองอย่างน่านับถือ ยังไงก็สามารถสละชีพได้ทุกเวลาอยู่แล้ว หากเงินไม่เพียงพอ ในยามที่จำเป็นมาไม่ถึง พวกเขาก็จะยิ่งเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น

ไป๋อี้เฉินก็เพียงแค่เพื่อพระมหากรุณาธิคุณจึงยอมออกเงิน ไป๋อี้เฉินก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินจริงๆ ดังนั้นเขาออกเงินส่วนนี้ไปก็ย่อมไม่เสียดายอยู่แล้ว

ไป๋อี้เฉินยังไงก็ไม่ได้สนใจความเป็นความตายของแม่ทัพและนายทหารที่อารักขาชายแดนปกป้องประเทศพวกนั้นอยู่แล้ว มิเช่นนั้นไป๋อี้เฉินย่อมต้องพูดคำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่ออกมาไม่ได้เด็ดขาด

ไป๋อี้เฉินไม่ควรไม่ควรเลยจริงๆ ไม่ควรใช้เรื่องเงินค่าใช้จ่ายมาข่มขู่นาง ข่มขู่พ่อของนาง!

ในเมื่อไป๋อี้เฉินไม่เห็นด้วยในการถอนหมั้น ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ปัญหาอย่างปรองดอง

นางก็ได้เพียงต้องใช้วิธีการของตนเองเท่านั้น ใช้แผนการของตนเองเท่านั้น!

อีกอย่างนางก็อยากจะคิดหาหลักประกันเพิ่มเติมให้กับทหารที่หาญกล้าที่น่าเคารพพวกนั้นด้วย

ดวงตาทั้งคู่ของฉู่หวูโยวเป็นประกายขึ้น ในหัวเกิดแผนการขึ้นมาหนึ่งอัน

เพียงแค่แผนการนี้ของนางราบรื่น เงินค่าใช้จ่ายรับรองได้ว่าย่อมไม่เกิดปัญหาแน่ การหมั้นหมายนี้ก็ย่อมสามารถยุติลงไปพร้อมกันอย่างแน่นอน

วันนี้ทั้งวันนายหญิงไม่ให้นางตามไปเลย นางได้แต่อกสั่นหวั่นไหวอยู่คนเดียวที่นี่ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ฟังตงเอ๋อร์เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้

หัวใจทั้งดวงของนางยิ่งจะหล่นลงไปเลย

“ข้าไม่เป็นไร” ฉู่หวูโยวเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นร้อนรนของนางก็ดูน่าขำไม่น้อย แต่ก็กลับสัมฟัสได้ถึงความอุ้นใจ นังหนูคนนี้ดีต่อนางอย่างตั้งอกตั้งใจจริงๆ

“ยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก นางหญิงไม่ให้บ่าวตามไป เกือบจะถูกเฟิงหยูหลันใส่ร้ายไปแล้ว” ชิงจั๋วได้ยินน้ำเสียงที่ไม่ได้ใส่ใจของนาง ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวต่อว่าออกมาหนึ่งประโยค

หลังจากกล่าวต่อว่าเสร็จแล้วจึงถึงได้รู้ตัวว่าตนเองเสียมารยาท: “นายหญิง บ่าวปากพล่อยไป ขอให้นายหญิงลงโทษด้วย”

หลังจากที่นายหญิงหายดีแล้วก็ดูเป็นคนง่ายๆ เกินไป ดีกับนางเกินไป คิดไม่ถึงว่าเมื่อครู่นางยังต่อว่านายหญิงออกมาอย่างไม่รู้ตัวอีก นางบ้าไปแล้วจริงๆ

“เจ้าอย่าเอาแต่ขอให้ลงโทษทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าไม่ชอบแบบนี้” ฉู่หวูโยวมองไปยังชิงจั๋วแล้วก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก นางเป็นหญิงในยุคปัจจุบันคนหนึ่ง ช่างรับไม่ได้จริงๆ กับเรื่องใหญ่เท่าก้อนอุจจาระของพวกนางก็จะต้องคุกเข่าลงให้ลงโทษ

แต่ว่านางก็ทราบดีเช่นกันว่าสังคมในตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้ เดิมแล้วนางอยากให้ชิงจั๋วทำอะไรตามสบายหน่อยเลย แต่ว่าหากถูกคนบางคนเห็นเข้า เกรงว่าจะกลับกลายเป็นทำร้ายพวกเขาไปได้

กลัวว่าชิงจั๋วจะขอรับโทษอีก ฉู่หวูโยวก็เลยกล่าวอธิบายว่า: “เฟิงหยูหลันทำร้ายข้าไม่ได้ วันนี้ข้าก็จงใจจะแยกเจ้าออกไปอยู่แล้ว”

แค่เฟิงหยูหลันน่ะเหรอที่จะมาใส่ร้ายนางได้

วันนี้นางไม่ได้ให้ชิงจั๋วติดตามไป ก็เพราะรู้ว่าพวกนางจะต้องเล่นแง่เป็นแน่ เดิมทีคิดอยู่ว่าจะให้ฉู่หรูเสว่เผยธาตุแท้ขึ้น เพียงแต่ฉู่หรูเสว่ดูเจ้าเล่ห์เพทุบายกว่าที่นางคิดไว้เยอะ

แต่ว่านางก็ไม่รีบร้อน หากต่อไปฉู่หรูเสว่อยู่เฉยๆ หน่อย ไม่ทำให้แผนเสียก็ช่างเถอะ หากฉู่หรูเสว่ยังกล้าทำร้ายนางอีก นางก็คงจะต้องหาวิธีต่อกรกับฉู่หรูเสว่

“เฟิงหยูหลันเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น ข้ามีความสนใจต่อคนที่วางกลอุบายอยู่เบื้องหลังผู้นั้นยิ่งกว่า” ในตอนที่ฉู่หวูโยวเดินเข้าไปในห้องดวงตาทั้งคู่ก็แสร้งมองผ่านไปบนร่างของนังหนูรับใช้ในห้องตามสบายแล้วก็ยิ้มจางๆ ออกมา

นางทราบดีว่าที่นี่มีไส้ศึกของฉู่หรูเสว่ นางก็ไม่ได้รังเกียจที่จะให้ไส้ศึกผู้นั้นไปช่วยส่งข่าว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร