น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร นิยาย บท 5

สรุปบท บทที่ 5 ชายชั่วถูกตบหน้า: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร

สรุปตอน บทที่ 5 ชายชั่วถูกตบหน้า – จากเรื่อง น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร โดย อล่าม

ตอน บทที่ 5 ชายชั่วถูกตบหน้า ของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติเรื่องดัง น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร โดยนักเขียน อล่าม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ลองผสมดูอย่างลวก ๆ ดูเหมือนผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เลวนัก” ฉู่หวูโยวตอบกลับอย่างสบาย ๆ บอกตามตรง นางเองก็ไม่คิดว่าผลลัพธ์ที่ได้จะดีขนาดนี้

“ว้าว คุณหนูยอดเยี่ยมจริง ๆ ผสมอย่างลวก ๆ ยังได้ตัวยาที่ร้ายกาจเช่นนี้ออกมา” ตงเอ๋อร์หันมองหน้าฉู่หวูโยวด้วยท่าทีชื่นชม

ก่อนหน้านี้คุณหนูสติไม่ดี มักถูกรังแกอยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้หายดีแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาแก้แค้นเสียที

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วย” ในที่สุด เฟิงหยูหลันและไป๋ยี่หยูก็หาไป๋อี้เฉินและเฟิงหลิงหยุนจนพบที่ลานด้านหลัง

ทันทีที่เฟิงหยูหลันเห็นพวกเขา ก็ตะโกนร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างตื่นตระหนก แล้วโผเข้าใส่เฟิงหลิงหยุน

“เจ้าเป็นใคร ?” เมื่อเฟิงหลิงหยุนเห็นหัวหมูที่น่าหวาดกลัวโผเข้าใส่ตนเอง ก็ปลีกตัวหลบตามสัญชาตญาณ : “ของอัปลักษณ์เช่นนี้มาจากที่ไหนกัน ยังกล้าเรียกข้าว่าพี่ใหญ่อีกด้วย”

เกรงว่าตอนนี้ แม้แต่เฟิงหยูหลันและไป๋ยี่หยูเอง ก็ยังจดจำใบหน้าของตนเองไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่น

แต่ทว่า เมื่อไป๋อี้เฉินเห็นไป๋ยี่หยูที่โผเข้าหาตนเองเช่นเดียวกัน กลับไม่ได้หลบหลีก เพราะถึงแม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป แต่เสียงนั้นกลับยังคงเป็นเสียงของน้องหยู

เพียงแต่น้องหยูในสภาพนี้ กลับทำให้เขาต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

“พี่ใหญ่ ข้าคือน้องหลันอย่างไรเล่า ข้าคือน้องหลัน” เฟิงหยูหลันรีบอธิบายอย่างร้อนใจ

ตอนนี้เอง เฟิงหลิงหยุนเพิ่งจะฟังออกว่า นี่คือเสียงของเฟิงหยูหลันจริง ๆ

แต่ว่า ทำไมน้องหลันจึงกลายสภาพเป็นเช่นนี้ได้ ?

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ทำไมพวกเจ้าถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ?” เป็นไป๋อี้เฉินที่ค่อนข้างสงบนิ่งกว่า และรู้จักถามหาต้นสายปลายเหตุ

“เพราะยัยบ๊องคนนั้น ไม่รู้ว่ายัยบ๊องนั่นสาดอะไรใส่หน้าพวกเรา สุดท้ายใบหน้าของพวกเราก็กลายสภาพเป็นเช่นนี้” ไป๋ยี่หยูพูดพลางร้องไห้ออกมา ใบหน้าที่บวมเป่งเป็นทุนเดิม เมื่อมีน้ำตาไหลผ่านลงมา ทำให้ดูอัปลักษณ์ยิ่งไปกว่าเดิม

“ยัยบ๊อง ? เจ้าหมายถึงฉู่หวูโยวหรือ ? ยัยบ๊องฉู่หวูโยวนั่น ทำให้พวกเจ้ากลายเป็นแบบนี้หรือ ?” เฟิงหลิงหยุนไม่อยากจะเชื่อ และไม่มีทางเชื่อได้ลง

เขารู้ว่ายัยบ๊องคนนั้น เมื่อวานยังไม่ตาย นับว่ายัยบ๊องดวงแข็งไม่เบา

แต่ทำไมยัยบ๊องนั่นถึงทำให้น้องหลันและน้องหยูมีสภาพเช่นนี้ได้นะ ?

“ตอนนี้นางไม่ปัญญาอ่อนอีกต่อไปแล้ว เมื่อวานถูกกระแทกเข้าจนหายดี เดิมทีพวกเราคิดเพียงว่าจะไปดูนางสักหน่อย คิดไม่ถึงเลยว่า นางกลับวางยาพิษพวกเราเสียนี่” เฟิงหยูหลันร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายฝน เพียงแต่สายฝนตอนนี้ช่างดูน่ากลัวนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความน่าเวทนาแล้ว

“หลิงหยุน เจ้าช่วยตรวจดูให้พวกนางก่อนได้ไหม ?” แววตาทั้งสองข้างของไป๋อี้เฉินหมองหม่นลง ลึกเข้าไปในแววตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความชั่วร้าย ทำไมฉู่หวูโยวถึงกล้าทำเช่นนี้ ?

แต่ตอนนี้ ไป๋อี้เฉินเองก็นึกแปลกใจไม่น้อย ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ปัญญาอ่อนอีกต่อไป แต่ก็ไม่น่าจะรู้เรื่องยาพิษได้ แม้แต่ชื่อของนางเอง นางยังไม่รู้จัก แล้วจะรู้จักยาพิษและการฝช้ยาพิษได้อย่างไร ?

เฟิงหลิงหยุนรีบตรวจดูใบหน้าของเฟิงหยูหลันอย่างละเอียด เพียงแต่ว่า หลังจากตรวจสอบดูแล้ว สีหน้าของเขาก็ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ

“ข้าเองก็ไม่เคยเห็นพิษชนิดนี้เหมือนกัน ยัยบ๊องนั่นไปได้มาจากไหนกัน ?” เฟิงหลิงหยุนดูไม่ตื่นตระหนกเหมือนเมื่อครู่อีก แต่ใบหน้ากลับแสดงความตกตะลึงออกมา

ถึงแม้เขายังหนุ่ม แต่ก็มีความมั่นใจในทักษะการแพทย์ของตนเองไม่น้อย นับได้ว่าทักษะการแพทย์ของเขา ไม่เป็นสองรองใคร

ตอนนี้คนที่สามารถอยู่เหนือเขาได้ก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แพทย์และยาพิษนับเป็นของคู่กัน ในโลกนี้มีพิษเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่เขาไม่เคยพบมาก่อน

แต่พิษชนิดนี้ เขาดูไม่ออกจริง ๆ......

“พิษชนิดนี้นางเป็นคนปรุงขึ้นมาเอง ข้ากับพี่หญิงหลันเห็นนางจับมดกับตา จากนั้นจึงเทลงไปในขวดสองสามขวด ที่บรรจุผงบางอย่างอยู่ แล้วสาดใส่หน้าของพวกเราอย่างกะทันหัน จากนั้นใบหน้าของพวกเราก็กลายสภาพเป็นเช่นนี้” ไป๋ยี่หยูอธิบายอย่างละเอียด น้ำเสียงสะอึกสะอื้นแฝงไปด้วยความกลัว แต่ก็มีความรู้สึกเกลียดชัง จนแทบอยากฉีกฉู่หวูโยวออกเป็นชิ้น ๆ รวมอยู่ด้วย

“ท่านพี่ ข้าไม่อยากมีสภาพเช่นนี้ ท่านจะต้องเอายาถอนพิษมาให้น้องหยูให้ได้นะเจ้าคะ” เมื่อไป๋ยี่หยูเห็นไป๋อี้เฉินนิ่งเงียบ ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น

นางเชื่อว่า ขอเพียงท่านพี่ไปด้วยตนเอง ยัยบ๊องนั่นจะต้องยอมมอบยาถอนพิษออกมาแน่นอน

ไป๋อี้เฉินและเฟิงหลิงหยุนรีบมุ่งหน้าไปยังจวนเจ้าพระยาทันที

เมื่อพ่อบ้านเห็นเฟิงหลิงหยุนและไป๋อี้เฉินก็ยิ้มรับและเอ่ยทักทายอย่างกระตือรือร้น : “องค์ชายทั้งสองมาหาคุณหนูรองหรือขอรับ ? ข้าน้อยจะรีบเข้าไปรายงานดี๋ยวนี้”

“ไม่ต้อง ครั้งนี้พวกเรามาหายัยบ๊อง......คุณหนูสามของพวกเจ้า” เฟิงหลิงหยุนยังคงมีสีหน้าโกรธจัด เพียงแต่ตอนนี้อยู่ในจวนเจ้าพระยาของนาง จึงต้องเปลี่ยนคำเรียกขาน

“หาคุณหนูสาม ? องค์ชายทั้งสองต้องการหาคุณหนูสามหรือขอรับ ?” พ่อบ้านผงะไปเล็กน้อยด้วยความรู้สึกงุนงง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหันมองไป๋อี้เฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ่งมีสีหน้างุนงงเข้าไปใหญ่

ปกติแล้ว องค์ชายไป๋แทบจะหลบเลี่ยงคุณหนูสามอยู่ตลอดเวลา แล้ววันนี้ทำไมจู่ ๆ ถึงมาหาคุณหนูสามได้นะ ?

“ใช่ พวกเรามาหาฉู่หวูโยว” เฟิงหลิงหยุนพูดตัดบทพ่อบ้านด้วยความรำคาญ

“อ้อ เช่นนั้นเชิญองค์ชายทั้งสองขอรับ” พ่อบ้านไม่กล้าพูดอะไรมากอีก เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปรายงาน แต่กลับพาพวกเข้าเดินเข้าไปโดยตรง

ตอนที่ไป๋อี้เฉินและเฟิงหลิงหยุนเดินมาถึงศาลาในของฉู่หวูโยว กลับถูกสาวใช้ตงเอ๋อร์ขวางเอาไว้ : “คุณหนูของเรากำลังยุ่งอยู่ ไม่ต้อนรับแขก เชิญองค์ชายทั้งสองกลับไปเถอะเจ้าค่ะ”

ถึงแม้ตงเอ๋อร์จะประหม่าเล็กน้อย แต่น้ำเสียงกลับฟังดูแน่วแน่อย่างยิ่ง

คุณหนูสั่งเอาไว้ว่า ห้ามให้ใครเข้าไปรบกวนเด็ดขาด ดังนั้นนางจึงยอมให้ใครเข้าไปไม่ได้ทั้งนั้น คุณหนูคนปัจจุบัน ไม่เหมือนกับคุณหนูคนก่อนอีกแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร