วันรุ่งขึ้น ณ เรือนจิ่นยู่
มู่หรงจิ่นนั่งอยู่ข้างโต๊ะกลม และสิ่งที่นางกำลังถืออยู่ในมือนั้นคือจดหมายตอบกลับที่แม่นมหลี่ส่งให้เถ้าแก่อู๋ชิงเฟิงสวีไหล
“คุณหนู? เถ้าแก่อู๋ว่าอย่างไรเจ้าคะ?”
แม่นมหลี่เติมชาให้มู่หรงจิ่น แล้วถามขณะกำลังมองดูสีหน้าและท่าทางที่เคร่งขรึมจริงจังของมู่หรงจิ่น
“เถ้าแก่อู๋อยากจะพบกับข้าสักครั้ง!”
มู่หรงจิ่นพับจดหมาย และใส่จดหมายกลับเข้าไปในซองจดหมายอีกครั้ง หลังจากนั้นก็วางซองจดหมายลง แล้วหยิบถ้วยชาขึ้นมา ในขณะที่กำลังมองดูน้ำชาสีน้ำตาลอมเหลืองที่อยู่ข้างใน นางก็คิดถึงเรื่องที่เถ้าแก่อู๋กล่าวถึงในจดหมายขึ้นมาด้วย
“เช่นนั้นความหมายของคุณหนูคือ?”
ในขณะที่แม่นมหลี่กำลังเฝ้ามองมู่หรงจิ่นซึ่งนั่งตัวตรงและเฝ้าจ้องมองชาที่อยู่ในมืออยู่นั้นก็ตื่นตระหนกตกใจขึ้นมา นางมองไม่ออกเลยว่ามู่หรงจิ่นกำลังคิดอะไรอยู่
“คือควรไปพบกันสักครั้งแล้วน่ะสิ! นับตั้งแต่ท่านแม่ของข้าแต่งเข้าไปอยู่ในตระกูลมู่หรงบรรดาผู้จัดการและเถ้าแก่ก็ไม่เคยพบท่านแม่อีกเลย อีกทั้งในช่วงสิบหกปีที่ผ่านมานี้ ข้าก็ไม่เคยติดต่อพวกเขาเลยเช่นกัน บัดนี้ข้าอยากจะจัดการดูแลกิจการเหล่านี้ ก็เลยจำเป็นต้องออกหน้า! “
มู่หรงจิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้คนเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นคนที่มีจิตใจซื่อสัตย์และจงรักภักดีอยู่จริงๆ มิฉะนั้นในช่วงสิบหกปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาสามารถยักยอกทรัพย์สินไปเป็นของตัวเองหรือปฏิเสธที่จะดูแลและจากไปตั้งนานแล้วก็ได้
แต่พวกเขากลับไม่ทำ! ในทางตรงกันข้ามกลับมีระมัดระวังและมีจิตใจที่รับผิดชอบสูง บำรุงรักษาและจัดการดูแลกิจการทุกแห่งด้วยความตั้งใจ ด้วยเหตุนี้เอง มู่หรงจิ่นจึงควรไปแสดงความขอบคุณต่อหน้าเสิ่นหว่านชิงแทน”มู่หรงจิ่น”ที่เสียชีวิตไปแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น หากตอนนี้นางต้องการจะต่อสู้กับหลิวเหม่ยน่าและมู่หรงเหยา และต้องการจะหลุดพ้นออกมาจากจวนมู่หรง นางยังต้องการความช่วยเหลือจากเถ้าแก่และผู้จัดการของกิจการเหล่านี้จึงจะทำได้!
“แต่ว่า ตอนนี้คุณหนูกำลังถูกกักบริเวณอยู่ ไม่สามารถออกนอกจวนตามอำเภอใจได้นะเจ้าคะ!”
แม้ว่าแม่นมหลี่จะรู้ว่าสิ่งที่มู่หรงจิ่นพูดนั้นไม่มีเหตุผลเลยก็ตาม แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่จวนมู่หรงเลย แม้แต่เรือนจิ่นยู่นางก็ไม่สามารถออกไปได้เลย!
“แน่นอนว่าเราไม่สามารถออกจากจวนอย่างเปิดเผยได้ แต่ออกจากจวนอย่างเงียบๆ ยังสามารถทำได้นะ!”
มู่หรงจิ่นนึกขึ้นมาได้ว่าแม้ว่าจวนมู่หรงจะมีองครักษ์รักษาจวนอยู่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดเฉกเช่นจวนของขุนนางในราชสำนักขนาดนั้น ขอเพียงแค่ปลอมตัวเล็กน้อย อยากจะตบตาเพื่อให้ผ่านด่านไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
“ความหมายของคุณหนูคือ......”
แม่นมหลี่คิดไม่ถึงเลยว่ามู่หรงจิ่นจะอยากแอบหนีออกไปจากจวนมู่หรงอย่างเงียบๆจริงๆ ก่อนหน้านี้นางไม่กล้าจินตนาการเลยว่ามู่หรงจิ่นจะสามารถทำเรื่องที่ขัดต่อคำสั่งของมู่หรงเซิ่งเช่นนี้ออกมาได้!
แต่มู่หรงจิ่นในตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิมไปเสียแล้ว! นางไม่เพียงแต่ใจกล้าและละเอียดรอบคอบเท่านั้น แต่นางยังมีระเบียบและมีเหตุผลในการทำเรื่องต่างๆ มีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ซึ่งแตกต่างจากมู่หรงจิ่นคนก่อนราวกับเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง!
“ข้าจะตอบจดหมายกลับไปให้เถ้าแก่อู๋ตอนนี้เลย เจ้าช่วยข้าเอาจดหมายนี้ไปส่งให้เขาที และบอกเขาว่าพรุ่งนี้ข้าจะไปพบเขาที่สาขาย่อยของชิงเฟิงสวีไหล!”
มู่หรงจิ่นพูดพร้อมกับพลิกพู่กันขึ้นด้วยมือซ้ายและเขียนจดหมาย
“เจ้าค่ะ!”
แม่นมหลี่เก็บจดหมายให้เรียบร้อย แล้วรีบร้อนออกไปจากเรือนจิ่นยู่
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
มู่หรงจิ่นกำลังสวมเสื้อผ้าของเสี่ยวหลิงอยู่ ซึ่งก็คือชุดกระโปรงหรูสาบเสื้อตรงสีชมพูดอกท้อ และสวมผ้าคลุมหน้า ก้มหน้าเดินตามแม่นมหลี่ไป
มู่หรงจิ่นเฝ้ามองฝีเท้าที่เร่งรีบของแม่นมหลี่ที่เดินอยู่ข้างหน้า นางได้เผยความกังวลใจของนางในขณะนี้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเสียแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่พอให้อภัยได้
แม่นมหลี่มีท่าทางเคารพนอบน้อมอยู่ในจวนมู่หรงมาสิบกว่าปีแล้ว จะให้นางทำเรื่องที่ขัดต่อคำสั่งของมู่หรงเซิ่งออกมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ความประหม่าจึงเป็นสิ่งที่นางหลีกเลี่ยงไม่ได้
โชคดีที่ในเวลาปกติก็ไม่มีผู้ใดให้ความสนใจแม่นมที่อยู่ข้างกายมู่หรงจิ่นคนนี้เช่นกัน อย่างไรเสียในจวนมู่หรงที่ช่างกว้างใหญ่เสียนี่กระไรแห่งนี้ คนที่ไม่ได้รับความชื่นชมที่สุดก็คือมู่หรงจิ่น! คนรับใช้ที่อยู่ข้างกายนาง ก็เลยเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับความชื่นชมไปโดยปริยายเช่นกัน! และถึงแม้ว่าในเวลานี้แม่นมหลี่จะมีความผิดปกติอยู่บ้างก็ไม่มีใครสงสัยในตัวนางขึ้นมาเลยเช่นกัน
“ช้าก่อน!”
กระทั่งถึงประตูใหญ่ของจวนมู่หรง เมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่ก้าวก็จะสามารถก้าวออกไปจากจวนมู่หรงได้แล้วนั่นเอง กลับถูกองครักษ์สกัดเอาไว้เสียแล้ว
“พี่ชายสองท่านนี้ ข้าเป็นแม่นมของคุณหนูใหญ่ เมื่อวานนายท่านส่งผ้าสองพับไปให้คุณหนูใหญ่ทำเสื้อผ้าแล้ว ข้าก็เลยเตรียมจะนำไปร้านตัดเสื้อน่ะ!”
ไม่ว่าอย่างไรแม่นมหลี่ก็เป็นผู้อาวุโสในจวน แม้ว่านางจะประหม่า แต่นางก็ไม่ได้แสดงข้อพิรุธใดๆออกมา
“สาวใช้ผู้นี้เป็นบ่าวของเรือนไหนรึ?”
คนที่องครักษ์หมายถึงแน่นอนว่าคือมู่หรงจิ่นที่เดินตามหลังแม่นมหลี่และกำลังถือผ้าสองพับไว้ในมือ
“นี่จะเป็นสาวใช้ที่ไหนได้เล่า นี่คือเสี่ยวหลิงจากเรือนจิ่นยู่ไง! นางเป็นหวัดเล็กน้อย ข้ากลัวว่านางจะแพร่เชื้อหวัดให้คุณหนูใหญ่ ก็เลยให้นางสวมผ้าคลุมหน้าเอาไว้น่ะ!”
แม่นมหลี่ยิ้มพร้อมกับอธิบายให้องครักษ์ฟัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร
ขอทางทีมงานอัพเดทเรื่องนี้ด้วยนะคะ...
ลงตอนต่อไปเมื่อไรหรอค้ะ😭...
รออ่านอยู่นะคะ...
ตงต่อได้มั้ยค่ะ...
ง่าส์ แอด ไม่ลงแล้วหรอ รอทุกวันเลยนะนี่...
รออออ...
วันนี้ไม่ลงหรอค่ะ...
ขอบคุณค่ะ...
ลงต่อทุกวันน้าาาาา แอดคนดี คนน่ารัก love love...
ขอบคุณมากเลยค่ะ ❤...