เซียวหลิงหลิงเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ
ตอนนี้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากสองสถานการณ์ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ฉันอยากได้มาก ทว่าสัญญานี่จะเซ็นตอนนี้ไม่ได้ แต่คุณน้าเธอหมายถึง ถ้าฉันไม่รับความหวังดีตอนนี้ เธอก็จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของเธอซะ และมันทำให้ฉันลำบากใจมากๆ
“คุณแม่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้คุณแม่ก็ให้เวลาเซียวเซิงคิดหน่อยสิคะ อย่าบังคับเธอเลย เรื่องนี้เราไม่เห็นต้องรีบสักหน่อย” เซียวซือตบหลังมือฉันเบาๆ “เอาแบบนี้แล้วกันเซียวเซิง เธอเอากลับไปอ่านให้ละเอียดอีกทีก็ได้ เอาไปให้ทนายเธอดู ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ค่อยเซ็น จริงๆ แม่ฉันแค่หวังดี อย่าทำให้ต้องไม่สบายใจกันไปหมดเลย มันไม่ดีหรอก”
ฉันหันไปยิ้มให้เธออย่างซาบซึ้ง เฉียวอี้ชอบบอกว่าเซียวซือเจ้าเล่ห์ ความจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น ฉันคิดว่าเซียวซือเป็นคนดี
“เซียวซือ ลูกอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?” คุณน้าพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฉันอุตส่าห์ตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว ถ้าถึงพรุ่งนี้ฉันก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะว่าจะยังไง เซียวเซิง ตอนนี้ฉันจะให้เธอลองพนันดูสักรอบ ถ้าเธอคิดว่าฉันหลอกเธอ งั้นเธอจะไม่เซ็นก็ได้ ฉันบอกเธอตามตรงว่าพรุ่งนี้เธอจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว เธอไม่รับความหวังดีจากฉัน เรื่องที่ฉันควรทำฉันก็ทำไปหมดแล้ว ไม่ได้ทำให้พ่อเธอผิดหวังแล้ว เซียวซือ เอาสัญญานั่นคืนมาให้แม่!”
เซียวซือขมวดคิ้ว “คุณแม่คะ คุณแม่จะบีบเธอไปทำไม?”
“เป็นแม่เลี้ยงนี่มันยากนะ สู้อุตส่าห์หวังดีกับเธอ ก็ยังถูกเธอมองว่าเป็นคนไม่ดี ช่างเถอะๆ ฉันว่าฉันเป็นคนเลวต่อไปน่ะดีแล้ว”
คุณน้าลุกขึ้นแล้วแย่งสัญญาในมือฉันไป
“เซียวเซิง เธอทิ้งโอกาสนี้เองนะ ฉันจะสอนอะไรเธอให้นะ ชีวิตคนเราก็เหมือนการเล่นพนันนั่นแหละ เธอต้องอาศัยความสามารถในการตัดสินใจของตัวเองมาตัดสินใจว่าเกมนี้เธอจะแพ้หรือชนะ? ในชีวิตคนเรามีเรื่องมากมายที่ต้องเลือก ถ้าเธอเลือกถูกก็คือถูก เลือกผิดก็ผิด เธอมีสิทธิ์ในการเลือก ฉันก็มีสิทธิ์ในการเรียกความหวังดีของฉันคืนเหมือนกัน”
“คุณน้า” ฉันลุกขึ้นอย่างรีบร้อน “เอาแบบนี้ได้ไหมคะ คุณน้าให้ฉันส่งสัญญาไปให้ทนายของฉันดูได้ไหม ห้านาที ขอเวลาแค่ห้านาทีค่ะ คุณน้าให้เวลาหนูห้านาทีได้ไหมคะ?”
คุณน้ายิ้มเย็น “แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ? เธอไม่เชื่อฉัน แถมหาคนมาช่วยเธอดู แล้วฉันยังต้องให้เวลาเธออีก ตอนนี้ฉันทำการค้าขายกับเธออยู่เหรอ? ฉันได้ขอเงินเธอสักนิดไหม? ให้เธอฟรีๆ ยังจะคิดเล็กคิดน้อยให้มากความอีก พ่อเธอคงจะตาบอดไปแล้วจริงๆ ที่ยกหุ้นให้เธอมากมายขนาดนั้น เธอเป็นซะแบบนี้ แล้วจะดูแลบริษัทให้ดีได้เหรอ?”
“ข้อเรียกร้องของเซียวเซิงก็ไม่ได้มากไปนะคะ คุณแม่รออีกแค่ไม่กี่นาทีจะเป็นไรไป?”
เซียวซือช่วยฉันขอร้องคุณน้า ความสำคัญของเซียวซือในใจคุณน้ามากกว่าของเซียวหลิงหลิงแน่นอนอยู่แล้ว
คุณน้าโยนสัญญาลงบนร่างของเซียวซือ “ก็ดูไปสิ ยังไงถ้าจะเซ็นก็ต้องเซ็นภายในคืนเท่านั้น พรุ่งนี้เธอจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว เธอควรรู้ไว้ซะ ว่าไม่ควรปล่อยให้โอกาสหลุดมือ และเวลาที่ผ่านไปมันย้อนกลับมาไม่ได้“
คุณน้าหมุนตัวขึ้นไปยังชั้นบน จากนั้นเซียวซือก็ส่งสัญญามาให้ฉัน “ทำอะไรก็ต้องละเอียดรอบคอบถึงจะปลอดภัย เธอให้เพื่อนที่เป็นทนายของเธอดูก่อนเถอะ เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แม่ฉันเตรียมการล่วงหน้าโดยที่ไม่ได้มาปรึกษากันก่อน เพราะฉะนั้นอย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่ฉันก็ตกใจเหมือนกัน”
ฉันหันไปขอบคุณเซียวซือ จากนั้นก็ถ่ายรูปสัญญาส่งไปให้หนีอีโจว และอธิบายให้เขาเข้าใจคร่าวๆ
หนีอีโจวตอบกลับมาเร็วมาก เขาบอกว่าเขาอ่านสัญญาแล้วก็ดูไม่มีปัญหาอะไร ตราบใดที่สัญญาไม่มีการผูกมัด มันก็เป็นแค่สัญญาโอนบ้านธรรมดาๆ ใบหนึ่ง หลังจากที่ฉันเซ็นชื่อลงไปและไปทำเอกสารรับรองการโอนบ้านที่สำนักงานที่ดินแล้ว บ้านหลังนั้นก็จะกลายเป็นของฉัน
เมื่อได้ยินหนีอีโจวพูดแบบนั้นฉันจึงวางใจขึ้นมาก เพราะเดิมทีตอนที่ฉันอ่านสัญญาฉันก็คิดว่ามันไม่มีปัญหาอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...