สรุปตอน ตอนที่ 496 ฉันจะยืมคฤหาสน์คุณ – จากเรื่อง พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung
ตอน ตอนที่ 496 ฉันจะยืมคฤหาสน์คุณ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดยนักเขียน Chompoo Prateung เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ความจริงฉันแทบจะกระอักเลือด แต่ยังต้องแสร้งทำเป็นเฉยเมยและบอกเขาว่า “ไม่เลวเลย เหมาะกับคุณมากเลย”
“ขอบคุณนะครับ ขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ พึ่งจะรู้จักกันก็ต้องให้คุณมาซื้อของที่แพงขนาดนี้ให้ซะแล้ว”
“ไม่ได้ซื้อให้นะครับ แต่เพราะว่าทำของคุณพังก็เลยต้องชดใช้เฉยๆ ส่วนนาฬิกาของคุณในเมื่อมันพังไปแล้วก็ให้ฉันเก็บไว้เป็นของที่ระลึกแล้วกันนะคะ!”
“ถ้ายังงั้นผมต้องซื้อของที่เหมือนกันคืนให้คุณไหมครับ?”
ฉันกัดริมฝีปากและมองเขา หลังจากนั้นก็จับกระดุมแขนเสื้อของเขาและกระชากอย่างแรง และกระดุมที่บอบบางก็กระเด็นเข้ามาในอุ้งมือฉัน
ฉันส่ายกระดุมไปมาต่อหน้าเขา “ถือว่าให้กระดุมเม็ดนี้กับฉันแล้วกันค่ะ”
“มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายหรอกครับ”เขารู้สึกกระอักกระอ่วน
“ไม่ต้องหรอก ราคาสำหรับฉันน่ะ ถ้าฉันคิดว่ามันคุ้มมันก็คุ้มแหละค่ะ”
ฉันยิ้มและเอากระดุมเม็ดนั้นใส่กระเป๋า ความจริงถ้าฉันออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่จะโยนทิ้งทันที
เพราะว่าฉันดึงกระดุมแขนเสื้อของเขาหลุด แขนเสื้อจึงเปิดออก ฉันก็เลยช่วยพับแขนเสื้อให้เขา เขาเอ่ยขอบคุณฉันพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย
เพราะว่าฉันกำลังโน้มตัวอยู่ และก็สังเกตเห็นว่าสายตาของเขามองมาที่หน้าอกของฉัน
ถึงแม้ว่าวันนี้ฉันจะไม่ได้ใส่เสื้อคอลึกเท่าไหร่ แต่ว่าจากมุมนี้ก็เผลอโผล่ออกมาบ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉันรีบปิดหน้าอก ตอนที่กลับมานั่งก็หน้าเกือบแดงเล็กน้อยแล้ว
เมื่อกี้ยังเสแสร้งเป็นเศรษฐีสาวอยู่เลย ถ้าเกิดว่าฉันหน้าแดงขึ้นมาก็เสียแรงเปล่าน่ะสิ
พอฉันนั่งลงอาหารก็มาเสิร์ฟพอดี ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว
“เพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณมอบนาฬิการาคาแพงขนาดนี้ให้ผม มื้อนี้ผมเลี้ยงเองครับ”
ฉันไม่สนใจเขาและกินต่อไป และก็แอบยิ้มในใจ เหอะ นาฬิกาฉันซื้อให้เขานั้นจะซื้อร้านอาหารร้านนี้ยังได้เลย เขากล้าพูดออกมาเหรอว่าจะเลี้ยงอาหารมื้อนี้เอง?
ฉันเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขา “ได้สิคะ”
ระหว่างทางที่มาที่นี่เฉียวอี้บอกกับฉันว่า กลางวันนี้ไม่ใช่แค่การเอานาฬิกามาให้หรือแค่กินข้าวง่ายๆ เท่านั้น ต้องแสดงออกให้ผู้ชายรู้ว่าฉันสนใจเขา และต้องให้เขารู้ถึงอำนาจที่แท้จริงของฉัน
ดังนั้นฉันต้องพาเขาไปยังที่พักของตัวเอง ตอนนั้นพ่อทิ้งบ้านไว้ให้ฉันหลายหลังอยู่เหมือนกัน แต่ว่ามันก็เป็นแค่คฤหาสน์ธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้ถือว่าหรูหราอะไรมากมาย
ฉันกินไปด้วยแล้วก็ครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะให้แมงดานี้มาดูที่บ้านฉันได้ยังไง แต่ว่าฉันก็ไม่ได้มีบ้านที่วิเศษวิโสที่จะมาช่วยแสดงละครฉากนี้ได้นี่
ตอนที่ฉันกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ก็ได้ยินเขาพูดกับฉันว่า “ตอนบ่ายนี้ผมต้องไปออดิชั่น แต่ว่าพอกระดุมหลุดหายใจเสื้อผ้าก็เลยไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่”
“คงไม่ได้ให้ฉันคืนกระดุมให้คุณหรอกนะคะ?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้วครับ”
ฉันเตรียมจะบอกว่าไปเดินซื้อตามร้านก็พอแล้ว แต่ฉันดูจากสายตาของเขาแล้วเหมือนจะมีนัยอะไรบางอย่าง ก็เลยพูดต่อไปว่า “พอดีเลย ฉันมีที่พักอยู่แถวนี้พอดี คุณไปเปลี่ยนที่บ้านฉันไหมคะ!ฉันน่าจะพอมีเสื้อเชิ้ตผู้ชายอยู่บ้างนะ”
“เหรอครับ? งั้นก็พอดีเลย” ที่แท้เขาก็คิดแบบนี้นี่เอง พอฉันพูดเขาก็เข้าใจในทันที
มันเต็มไปด้วยการบอกเป็นนัย ฉันเอ่ยปากเชิญไปแล้ว แต่ว่าฉันมีบ้านอยู่ใกล้ๆ ที่ไหนกันล่ะ?
แน่นอนว่าคอนโดกับคฤหาสน์ธรรมดาๆ ต้องไม่ได้อยู่แล้ว ต้องมีบ้านหลังใหญ่ที่มีสวน หินประดับ และทะเลสาบเทียม และมีคนเข้าออกอยู่บ่อยๆ
ที่ดินทุกตารางวาในเมืองฮวานั้นแพงมาก ไม่ใช่ธรรมดาเลย
ถ้าเกิดว่าฉันทำให้แมงดาคนนี้เห็นว่าฉันมีบ้านแบบนั้นได้ ถ้ายังงั้นตำแหน่งเศรษฐีสาวในใจของเขา ฉันต้องนำเจินเสียนอย่างแน่นอน
ไม่คิดเลยว่าแม่บุญทุ่มจะใช้เงินกันแบบนี้ โชคดีที่เธอไม่ได้มีงานอดิเรกอะไรแบบนั้น
“ไม่ต้องใช้กุญแจหรอก ที่นั่นมีพ่อบ้านกับคนงานอยู่ พอคุณไปแล้วเดี๋ยวพวกเขาก็เปิดประตูให้เอง เดี๋ยวผมให้คนไปบอกพวกเขาเอาไว้”
การที่สีชิงชวนตอบตกลงเธอในทันทีทำให้เธอต้องประหลาดใจ เธอเอ่ยถามเขาทันที “คุณจะไม่ถามฉันหน่อยเหรอว่าฉันจะยืมบ้านคุณไปทำอะไร?”
“ไม่จำเป็นหรอก” เขาตอบด้วยเสียงสบายๆ “เดี๋ยวผมจะมีประชุมแล้ว ถ้าเกิดว่าคุณขาดเหลืออะไรก็โทรหาเลขาผมได้เลยนะ คุณมีเบอร์เขาอยู่แล้วนี่”
ฉันวางสายจากสีชิงชวน เขาไม่ถามฉันเลยว่าจะทำอะไร แสร้งทำเป็นใจกว้างงั้นเหรอ?
งั้นก็ได้ เพราะยังไงฉันก็จะพาคนไปคฤหาสน์เขาอยู่ดี พวกพ่อบ้านกับคนงานก็อยู่ที่นั่นกันไม่ใช่เหรอ?
ถ้าเห็นว่าฉันพาผู้ชายมาบ้าน พวกเขาต้องเอาไปรายงานให้สีชิงชวนรู้แน่
ก่อนหน้านี้ฉันกลัวว่าเขาจะรู้ แต่ว่าตอนนี้เขากลับไม่ถามอะไรเลย งั้นฉันก็อยากให้เขารู้เหมือนกัน อยากรู้ว่าเขาจะตอบสนองยังไง?
พอจัดการเรื่องบ้านเรียบร้อยแล้วเธอก็กลับไปที่โต๊ะ และของหวานก็มาเสิร์ฟพอดี ไม่รู้ว่าเนี่ยฉี่ย้ายมานั่งข้างๆ ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาใช้ช้อนเล็กๆ ตักเค้กและป้อนฉัน
ฉันชะงักไปนิดหน่อย อ้อ เขาที่รับนาฬิการาคาแพงของฉันไปเริ่มบริการแล้วสินะ?
พอเห็นรอยยิ้มที่หวานชื่นของเขาแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้
เจินเสียนชอบแบบนี้เองเหรอ
พวกผู้หญิงแก่รวยๆ เป็นอะไรกันไปหมด กินข้าวเองไม่ได้รึยังไงกัน? ทำไมต้องให้คนอื่นมาป้อนด้วย?
ฉันอ้าปากอย่างยากลำบาก และเนี่ยฉี่ก็ป้อนเค้กชิ้นเล็กๆ เข้ามาในปากฉัน หลังจากนั้นก็เอามือเท้าคางและมองมาที่ฉันอย่างเสน่หา “อร่อยไหมครับ?”
อร่อยน่ะมันก็อร่อยอยู่หรอก แต่ว่าถ้าเขาไม่มองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้จะดีมาก
“อืม” ฉันพยักหน้า ตอนนี้ฉันขนลุกไปทั้งตัวแล้วรู้ไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...