“ฉันไม่สนว่าเมื่อก่อนคุณจะมีความสัมพันธ์อะไรยังไงกับผู้หญิง ยังไงซะคุณก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายให้ฉันฟัง พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แม้แต่เพื่อนธรรมดา ไม่ใช่เหรอคะ ?”
“เซียวเซิง ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ ผมก็รู้ว่าคุณคือผู้หญิงของผม ชีวิตนี้ผมจะไม่มีคนอื่นอีกแน่นอน เมื่อวานตอนที่ผมเห็นคุณครั้งแรกที่ดาดฟ้า ผมก็รู้ว่าผมตกหลุมรักเอาซะแล้ว
ทำไมคำพูดของเนี่ยฉี่ถึงฟังดูคุ้นๆ ?
อ้อ ฉันนึกออกแล้ว เป็นประโยคเด็ดสุดของหนังเรื่องคุณย่าฉงเหยา หลังจากที่พระเอกสบตากับนางเอก เขาก็พูดกับนางเอกประมาณนี้
เช่น “ตอนที่ผมเห็นคุณครั้งแรก ผมก็รู้ว่าผมแย่แล้ว”
“ฉันนึกออกว่าประโยคของเนี่ยฉี่น่าจะดัดแปลงสักนิดสักหน่อย เขาควรพูดว่า “หลังจากที่ผมเห็นคุณให้นาฬิกาหรูผม ผมก็รู้ว่าผมแย่แล้ว”
ฉันนิ่งไป ฉันไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับคำพูดเมื่อกี้เลย ราวเหมือนกับว่าเมื่อก่อนมีคนพูดแบบนี้เป็นพันเป็นหมื่นคน
ฉันมองเขาด้วยความใจเย็น “แล้วไงคะ ? งั้นคุณก็ไปเปิดไพ่ให้แฟนคุณรู้สิ คุณคงไม่ได้อยากจะเหยียบเรือสองแคมหรอกนะ ? อยากกุ๊กกิ๊กกับฉัน แล้วก็อยากแต่งงานมีลูกกับเค้า”
ฉันพูดความลับสำคัญออกไป จู่ๆ นิ้วมือของเขาที่กุมมือฉันไว้นั้นก็สั่นไปทีหนึ่ง
คาดว่าเขาคงคิดไม่ถึงว่าอะไรฉันก็รู้ไปหมด
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “แต่งงานมีลูกอะไรกัน ไม่มีสักหน่อย”
ฉันไม่ได้เปิดโปงอะไรเขา เพียงดึงมือออกมาจากกุมมือ “แผนของคุณถือว่าใช้ได้ แต่งงานมีลูกกับทางนั้น มากุ๊กกิ๊กกับทางนี้ แต่ไม่ต้องกังวลไป ฉันว่าคุณทำตัวเป็นผู้ชายที่ดูมีความรับผิดชอบคงจะเหมาะกว่า คุณไปเถอะ ! ต่อไปไม่ต้องมาหาฉันที่นี่อีก ถ้าคุณยังมาอีก ฉันสามารถที่จะไม่อยู่ที่นี่ได้ ฉันยังมีบ้านที่อื่นอีก ที่หลบซ่อนของฉันเยอะ คุณก็คงรู้ดีอยู่แล้ว”
“เซียวเสิ่ง คุณเข้าใจผิดจริงๆ นะ ผมไม่ได้เป็นคนแบบที่คุณคิด คุณเป็นรักแรกของผมจริงๆ เมื่อก่อนผมเคยมีแฟนก็จริง แต่ถ้าไม่รู้จักคุณ ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณถึงจะเป็นรักแท้ของผม ?”
ฉันขี้เกียจที่จะฟังเขาพูด โบกๆ มือด้วยความรำคาญ “ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อีกฉันจะเรียกยามแล้วนะ”
ฉันทำหน้าทำตา ก็โบกเรียกพ่อบ้าน พ่อบ้านยืนอยู่ที่มุมคอยด้อมๆ มองๆ เขา เนี่ยฉี่เห็นดังนั้นแล้ว ก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “เซียวเสิ่ง คุณฟังผมก่อน”
“ยังจะไม่ไปอีกเหรอคะ ?” ฉันไม่มองเขาและพูดกับพ่อบ้านเลย “เรียกยามค่ะ”
“ผมไปๆ” เขาโบกๆ มืออย่างจนปัญหา เดินไปทีหันกลับมามองที
ฉันไล่เนี่ยฉี่ไปได้แล้ว ไม่เพียงแค่ไล่เขาออกไปได้ แถมยังทำให้เขาอิ่มอกอีกด้วย
สิ่งที่ฉันสื่อมันชัดเจนมาก ถ้าระหว่างฉันกับเจินเสียนเขาไม่เลือกใครคนใดคนหนึ่ง เขาจะไม่มีทางแม้แต่ที่จะเข้าใกล้ฉัน
งั้นก็ต้องดูแล้วว่าฉันกับเจินเสียนเขาจะเลือกใครและยอมเสียใคร ฉันมีความมั่นใจต่อตัวเอง เพราะเทียบกับเจินเสียนแล้ว จุดเด่นของฉันนั้นชัดกว่า
ฉันสาวสวยและรวย อีกอย่างปกติผู้ชายอย่างเขาเกลียดการเร่งให้แต่งงานและรับผิดชอบครอบครัว ตอนนี้เจินเสียนท้องแล้ว ต้องการแต่งงานมีลูกกับเขา ผู้ชายอย่างเนี่ยฉี่จะต้องหนีแน่ๆ
เนี่ยฉี่เพิ่งก้าวเดินไป ทั้งสองคนก็วิ่งลงมาจากชั้นบน
เฉียวอี้ยื่นหน้าออกมา “เนี่ยฉี่ไปแล้วเหรอ ?”
สีชิงชวนมองฉันด้วยแววตาโกรธเคือง จากนั้นก็ลากฉันมาจากโซฟา “ไปล้างมือๆ !”
“ทำไม ? มือสะอาดจะล้างทำไม ?”
“สะอาดอะไรล่ะ ? ฉันเห็นเขาจับมือเธอ”
“แล้วไง ก็แค่จับมือ ตอนที่นายทำงานเจอลูกค้า นายไม่จับมือกับพวกเขารึไง ?”
“มันเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...