พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 495

สรุปบท ตอนที่ 495 เศรษฐีสาวผู้สะสวย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

ตอนที่ 495 เศรษฐีสาวผู้สะสวย – ตอนที่ต้องอ่านของ พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

ตอนนี้ของ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 495 เศรษฐีสาวผู้สะสวย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันใช้เงินเยอะขนาดนี้ และเงินนี้ฉันก็ไม่ได้ใช้เพื่อตัวเองหรือคนในครอบครัว แต่ว่ากลับไปใช้กับแมงคาคนหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันหรอก

คิดยังไงก็ไม่คุ้ม ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าเฉียวอี้จะกระทืบฉันจนตาย ตอนนี้ฉันคงวิ่งพุ่งหนีออกนอกประตูไปแล้ว

ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าสีชิงชวนโอนเงินมาให้ฉันทั้งหมดเท่าไหร่กันแน่ แต่หลังจากฉันซื้อนาฬิกาเรือนนี้แล้วก็เห็นว่าบัญชียังเหลือเงินอยู่มากมายเลย

พอฉันจ่ายเงินเสร็จ ผู้จัดการร้านก็จัดการห่อและยื่นให้ฉันด้วยสองมือ ฉันคิดว่าแค่กล่องมันก็น่าจะขายได้แพงอยู่เหมือนกัน

นอกจากนี้เขายังหาบอดี้การ์ดสองคนมาส่งพวกเราขึ้นรถ มือฉันหนักไปหมด

ฉันพูดกับเฉียวอี้ว่า “นี่มันบ้างหลังหนึ่งเลยนะ!”

“จำคำที่ฉันพูดเอาไว้ คิดถึงตอนสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นเจินเสียนโกรธจนหน้าแดง เธอคิดว่าทั้งหมดนี้มันคุ้มไหม?”

“ไม่คุ้มเลย” ฉันบ่นพึมพำ

และในตอนนี้โทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย ฉันกำลังจะตัดสายและเฉียวอี้ก็มองหน้าฉันและพูดว่า “หรือว่าเป็นไอ้แมงดาคนนั้นโทรมา”

มันก็มีความเป็นไปได้ เขานี่ช่างรู้เวลาจริงๆ ฉันพึ่งจะซื้อนาฬิกาให้เขาเสร็จเขาก็โทรมาเลย

ในใจฉันไม่อยากจะรับสายเป็นอย่างมาก แต่ว่าในเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องเล่นละครให้ครบสิ ฉันก็เลยรับสายและเอาโทรศัพท์แนบหู พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่เกียจคร้าน “ฮัลโหล”

“ประธานเซียวรึเปล่าครับ?”แล้วก็เป็นเนี่ยฉี่โทรมาจริงๆ น้ำเสียงของเขาดูอ่อนน้อมถ่อมตนมาก

“ฉันพูดว่า “อย่าเรียกฉันว่าประธานเซียวสิคะ มันทำให้ฉันรู้สึกแก่ เรียกชื่อฉันก็พอค่ะ เสี่ยวเสิ่ง”

“ได้ครับเสี่ยวเสิ่ง” เขาดูดีใจมาก

“อ้อ ใช่สิ” ฉันพูดออกมาโดยที่ไม่รอให้เขาพูด “วันนี้ฉันเอานาฬิกาไปซ่อมให้คุณตั้งแต่เช้า”

“ผมไม่ได้โทรมาเพราะเรื่องนี้หรอกครับ ผมแค่คิดว่าเมื่อคืนคุณมีธุระ ไม่ทราบว่าวันนี้พอจะมีเวลาไหมครับ พวกเราออกมาดื่มกันหน่อยไหม?”

“ฉันยังไม่ทันพูดจบเลยค่ะ ฉันจะบอกว่านาฬิกาของคุณซ่อมได้ไม่ดีเท่าไหร่ ฉันก็เลยซื้อมาชดใช้ให้”

“เหรอครับ? เปลืองเงินจริงๆ เลย ความจริงไม่ต้องก็ได้ครับ นาฬิกาเรือนนั้นไม่ได้แพงอะไรมากมายหรอก”

น้ำเสียงของเขาดูโอ้อวด แม้ว่าราคานาฬิกาของเขาจะห่างจากเรือนที่ฉันให้เขาไปหนึ่งพันไมล์ แต่คนธรรมดาก็ยังซื้อไม่ได้อยู่เหมือนกัน

“ฉันซื้อมาแล้วน่ะค่ะ” ฉันพูด “กลางวันนี้พวกเราไปทานข้าวกันดีไหมคะ คุณเลือกสถานที่เลย เลือกเสร็จแล้วส่งสถานที่มาให้ฉันนะ ตามนี้นะคะ”

ฉันพูดจบก็วางสายไป ไม่แม้แต่บอกลาก่อนวางสายด้วยซ้ำ

หลังจากวางสายฉันก็เห็นเฉียวอี้ยกนิ้วให้

“ทำอะไร?” ฉันอารมณ์ไม่ดี

“เสี่ยวเสิ่ง ฉันว่าท่าทางก้าวร้าวของเธอเหมาะกับตัวละครนี้มากเลยนะ ไม่แน่ต่อไปเธออาจจะเป็นประธานหญิงที่เผด็จการก็ได้”

“ต่อให้เป็นเงินของประธานหญิงเผด็จการก็ไม่ควรจะใช้แบบนี้”

“ลองดู เธอลองเรียนรู้จากสีชิงชวนของเธอหน่อย ดูสิ เธอไปขอเงินเขาเขายังไม่แม้แต่ถามด้วยซ้ำว่าเธอจะเอาเงินไปทำอะไร แล้วก็โอนเงินให้เธอทันที นี่แหละที่เขาเรียกว่าใจใหญ่ จะมางกแบบนี้จะกลายเป็นประธานหญิงใจใหญ่ได้ยังไงกัน?”

“ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นสักหน่อย” ฉันมองไปที่กล่องใส่นาฬิกาที่งดงามและประณีตข้างๆ และก็ถอนหายใจยาวออกมา

ฉันสั่งอาหารเสร็จแล้วก็เห็นว่าเขาวางโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง ไม่ได้เปิดออก

ฉันเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขาและพูดว่า “ลองเปิดดูสิคะ ถ้าคุณไม่ดูฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณชอบไม่ชอบ? ถ้าเกิดว่าคุณไม่ชอบให้ฉันซื้อเรือนอื่นให้ดีไหม”

“ไม่ครับๆๆ ผมว่าผมน่าจะชอบนะ” เขาเปิดถุงนั้นออก ถ้าเกิดว่าเขาเป็นผู้หญิงล่ะก็ ฉันเดาว่าเขาคงร้องว้าวออกมาแล้วล่ะ

เขาพยายามเก็บอาการ แต่ฉันบอกได้จากสายตาของเขาว่าเขาพอใจกับนาฬิกามากทีเดียว

เนื่องจากมีใบเสร็จและใบรับรองเพชรอยู่ใต้กล่องนาฬิกานั้น

เมื่อน้ำฉันมาเสิร์ฟ ฉันก็ทำเป็นยกขึ้นดื่มและมองออกไปนอกหน้าต่าง

ฉันเห็นเขาพลิกดูป้ายราคาจากหางตา และตอนที่เขาพูดกับฉัน ฉันก็ได้ยินว่าเสียงของเขานั้นมันสั่นเล็กน้อย

“ประธานเซียว อ้อไม่ใช่สิเสี่ยวเสิ่ง นี่มันเปลืองเงินมากเกินไปแล้วนะครับ นาฬิกาของผมแพงขนาดนี้ที่ไหนกัน นาฬิกาเรือนนี้น่าจะซื้อเรือนนั้นได้เป็นสิบเรือนเลย”

“เหรอคะ? ฉันไม่รู้นี่หน่า”ฉันหันหน้ามาทันที และก็ยิ้มให้เขาอย่างใสซื่อ “จริงๆ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องแบรนด์เท่าไหร่หรอกค่ะ เวลาที่ฉันซื้อนาฬิกาฉันดูแค่ที่ราคา ไม่ได้ดูแบรนด์เลย ฉันรู้สึกว่านาฬิกาเรือนนี้มันเหมาะกับคุณมากก็เลยซื้อมาน่ะค่ะ”

ฉันเอนตัวไปหยิบนาฬิกาตรงหน้าเขาและยื่นแขนออกไป “มาค่ะ เดี๋ยวฉันช่วยใส่ให้ ดูว่ามันจะสวยไหม”

เขายื่นมือออกมาอย่างเชื่อฟัง แล้วฉันก็สวมนาฬิกาเรือนนั้นให้เขา

ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเศรษฐีสาวผู้สะสวย แต่ว่านาฬิกาที่แพงหูฉี่เรือนนี้ก็ดูดีมากเมื่ออยู่บนข้อมือของเขา

มือของเนี่ยฉี่นั้นขาวมาก มันทำให้ทั้งทับทิมและเพชรสีน้ำเงินนั้นดูสว่างจ้าขึ้นไปอีก จนเกือบทำให้ตาฉันพร่ามัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)