นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันใช้เงินเยอะขนาดนี้ และเงินนี้ฉันก็ไม่ได้ใช้เพื่อตัวเองหรือคนในครอบครัว แต่ว่ากลับไปใช้กับแมงคาคนหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันหรอก
คิดยังไงก็ไม่คุ้ม ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าเฉียวอี้จะกระทืบฉันจนตาย ตอนนี้ฉันคงวิ่งพุ่งหนีออกนอกประตูไปแล้ว
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าสีชิงชวนโอนเงินมาให้ฉันทั้งหมดเท่าไหร่กันแน่ แต่หลังจากฉันซื้อนาฬิกาเรือนนี้แล้วก็เห็นว่าบัญชียังเหลือเงินอยู่มากมายเลย
พอฉันจ่ายเงินเสร็จ ผู้จัดการร้านก็จัดการห่อและยื่นให้ฉันด้วยสองมือ ฉันคิดว่าแค่กล่องมันก็น่าจะขายได้แพงอยู่เหมือนกัน
นอกจากนี้เขายังหาบอดี้การ์ดสองคนมาส่งพวกเราขึ้นรถ มือฉันหนักไปหมด
ฉันพูดกับเฉียวอี้ว่า “นี่มันบ้างหลังหนึ่งเลยนะ!”
“จำคำที่ฉันพูดเอาไว้ คิดถึงตอนสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นเจินเสียนโกรธจนหน้าแดง เธอคิดว่าทั้งหมดนี้มันคุ้มไหม?”
“ไม่คุ้มเลย” ฉันบ่นพึมพำ
และในตอนนี้โทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย ฉันกำลังจะตัดสายและเฉียวอี้ก็มองหน้าฉันและพูดว่า “หรือว่าเป็นไอ้แมงดาคนนั้นโทรมา”
มันก็มีความเป็นไปได้ เขานี่ช่างรู้เวลาจริงๆ ฉันพึ่งจะซื้อนาฬิกาให้เขาเสร็จเขาก็โทรมาเลย
ในใจฉันไม่อยากจะรับสายเป็นอย่างมาก แต่ว่าในเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องเล่นละครให้ครบสิ ฉันก็เลยรับสายและเอาโทรศัพท์แนบหู พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่เกียจคร้าน “ฮัลโหล”
“ประธานเซียวรึเปล่าครับ?”แล้วก็เป็นเนี่ยฉี่โทรมาจริงๆ น้ำเสียงของเขาดูอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
“ฉันพูดว่า “อย่าเรียกฉันว่าประธานเซียวสิคะ มันทำให้ฉันรู้สึกแก่ เรียกชื่อฉันก็พอค่ะ เสี่ยวเสิ่ง”
“ได้ครับเสี่ยวเสิ่ง” เขาดูดีใจมาก
“อ้อ ใช่สิ” ฉันพูดออกมาโดยที่ไม่รอให้เขาพูด “วันนี้ฉันเอานาฬิกาไปซ่อมให้คุณตั้งแต่เช้า”
“ผมไม่ได้โทรมาเพราะเรื่องนี้หรอกครับ ผมแค่คิดว่าเมื่อคืนคุณมีธุระ ไม่ทราบว่าวันนี้พอจะมีเวลาไหมครับ พวกเราออกมาดื่มกันหน่อยไหม?”
“ฉันยังไม่ทันพูดจบเลยค่ะ ฉันจะบอกว่านาฬิกาของคุณซ่อมได้ไม่ดีเท่าไหร่ ฉันก็เลยซื้อมาชดใช้ให้”
“เหรอครับ? เปลืองเงินจริงๆ เลย ความจริงไม่ต้องก็ได้ครับ นาฬิกาเรือนนั้นไม่ได้แพงอะไรมากมายหรอก”
น้ำเสียงของเขาดูโอ้อวด แม้ว่าราคานาฬิกาของเขาจะห่างจากเรือนที่ฉันให้เขาไปหนึ่งพันไมล์ แต่คนธรรมดาก็ยังซื้อไม่ได้อยู่เหมือนกัน
“ฉันซื้อมาแล้วน่ะค่ะ” ฉันพูด “กลางวันนี้พวกเราไปทานข้าวกันดีไหมคะ คุณเลือกสถานที่เลย เลือกเสร็จแล้วส่งสถานที่มาให้ฉันนะ ตามนี้นะคะ”
ฉันพูดจบก็วางสายไป ไม่แม้แต่บอกลาก่อนวางสายด้วยซ้ำ
หลังจากวางสายฉันก็เห็นเฉียวอี้ยกนิ้วให้
“ทำอะไร?” ฉันอารมณ์ไม่ดี
“เสี่ยวเสิ่ง ฉันว่าท่าทางก้าวร้าวของเธอเหมาะกับตัวละครนี้มากเลยนะ ไม่แน่ต่อไปเธออาจจะเป็นประธานหญิงที่เผด็จการก็ได้”
“ต่อให้เป็นเงินของประธานหญิงเผด็จการก็ไม่ควรจะใช้แบบนี้”
“ลองดู เธอลองเรียนรู้จากสีชิงชวนของเธอหน่อย ดูสิ เธอไปขอเงินเขาเขายังไม่แม้แต่ถามด้วยซ้ำว่าเธอจะเอาเงินไปทำอะไร แล้วก็โอนเงินให้เธอทันที นี่แหละที่เขาเรียกว่าใจใหญ่ จะมางกแบบนี้จะกลายเป็นประธานหญิงใจใหญ่ได้ยังไงกัน?”
“ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นสักหน่อย” ฉันมองไปที่กล่องใส่นาฬิกาที่งดงามและประณีตข้างๆ และก็ถอนหายใจยาวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...