“ธุรกิจครอบครัว ใครจะมาว่าความให้คุณ?” ซีชิงชวนเย้ยหยัน “แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์สั่นคลอนตำแหน่งประธาน แต่คงจะซื้อใจไม่ได้แล้ว แล้วจะบริหารบริษัทยังไงถ้าไม่มีคนนับถือ?”
“ครั้งที่แล้วได้เรียกผู้บริหารระดับสูงของเซียวซื่อกรุ๊ปมาจนดึกไม่ใช่เหรอ และเซียวเซิงก็เอาพวกเขาอยู่หมัดไม่ใช่เหรอ?”
“คุณคิดว่าเพราะอะไรล่ะ?” สีชิงชวนโน้มตัวลงและจ้องมาที่เรา
เป็นผียังรู้เลยว่าคนที่พวกเขากลัวไม่ใช่ฉัน แต่เป็นสีชิงชวน
เฉียวอี้กรอกตามองบน แม้ว่าเธอจะไม่พอใจ แต่ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้อยู่ในใจ
“เซียวเซิง” สีชิงชวนดึงฉันออกมาจากด้านหลังเฉียวอี้และมองมาที่ฉัน “ฉันสามารถสนับสนุนคุณตลอดไปได้ไหม? หืม?”
ในเมื่อเขาถามอย่างนั้น แน่นอนว่าเขาย่อมทำได้
ฉันจะกล้าดียังไงไปหวังให้เขาปกป้องฉันไปตลอดชีวิต นอกจากนี้เขายังอารมณ์แปรปรวน ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ฉันกระสับกระส่ายและเฉียวอี้โอบไหล่ฉัน “เซียวเซิงไม่ต้องกลัว ถ้าสีชิงฉวนพึ่งไม่ได้เธอยังมีฉัน ฉันจะเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งของเธอเสมอ แม้ว่าพวกเขาจะมีเครื่องบินหรือระเบิดต่าง ๆ ก็ไม่สามารถเข้ามาได้”
ถ้าเฉียวอี้เป็นผู้ชาย ฉันคงแต่งงานกับเธอไปนานแล้ว
ด้วยความกลัวว่าทั้งสองคนจะทะเลาะกันอีก ฉันจึงเกลี้ยกล่อมให้เฉียวอี้ให้กลับไปเพราะยังไงก็ใกล้จะถึงเวลางานแล้ว
สีชิงชวนพิงหัวเตียงโดยกอดอกและเอาแต่มองมาที่ฉัน เขามองจนทำให้ใจฉันว้าวุ่น
ฉันจับหน้าตัวเอง “มีอะไรอยู่บนหน้าของฉันเหรอ?”
“ขี้ขลาด”
จำเป็นต้องแทงใจดำขนาดนี้เลยเหรอ ไม่ไว้หน้าฉันเลยสักนิด
ฉันเลิกสนใจเขาและนอนลงแสร้งเป็นศพ
สีชิงชวนเดินมาถึงข้างเตียงของฉัน “คุณวางแผนว่าจะทำยังไงต่อ?”
“ทำอะไร?”
“เรื่องหนังสือสัญญาที่ร่วมลงนาม”
“จำเป็นต้องทำอะไรด้วยเหรอ?” ฉันไม่รู้จริง ๆ เรื่องแบบนี้เท่ากับกระบวรการยุติธรรมทางแพ่ง ดังนั้นฉันจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จะดีกว่า
“คุณไม่วางแผนที่จะทำอะไรเลยเหรอ? จะปล่อยให้เรื่องสะสมแบบนี้เหรอ?”
“เมื่อกี้เฉียวอี้เพิ่งบอกไม่ใช่เหรอว่าพวกเขาไม่มีอำนาจที่จะปลดฉันออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้มันไม่สำคัญว่าฉันจะไม่ได้เป็นประธาน ฉันไม่ใช่สิ่งของสักหน่อย”
ฉันพูดด้วยความจริงใจและฉันไม่ได้อยากได้ตำแหน่งนี้ตั้งแต่แรก แต่พ่อยกให้ฉัน แล้วจะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ?
ฉันรู้สึกถึงความร้อนบนศีรษะ จึงเปิดตาข้างหนึ่งเบา ๆ และเห็นสีชิงชวนกำลังก้มลงเหลือบมองฉัน
สายตาของเขาคมกริบราวกับเข็มเงินเล่มเล็ก ๆ ที่ทิ่มแทงฉัน
“ในเมื่อคุณไม่มีความมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ทำไมคุณยังครองตำแหน่งนี้อยู่? ถ้างั้นก็สละตำแหน่งเถอะ เซียวหลิงหลิงไม่ใช่สิ่งของนั้นและแม่เลี้ยงของคุณก็แก่แล้ว คุณสละตำแหน่งให้เซียวซีไม่ดีกว่าเธอ เธอยังเด็ก ฉลาดและไฟแรง เหมาะสมกว่าคุณเป็นพันเท่า”
ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เขาเข้าข้างเซียวซีจริง ๆ หรืออย่างไร?
“ฉัน...”
“ทำไม เสียดายอีกเหรอ? ตัวเองทำไม่ดีแล้วยังบ่นทั้งวันว่าไม่อยากทำ ในเมื่อฝืนทำจนมีสภาพแบบนี้ เอาไปให้คนที่มีความทะเยอทะยานทำไม่ดีกว่าเหรอ ตำแหน่งประธานไม่ใช่งานที่ไร้ค่า ฉันเคยเห็นกับตาว่าลูกผู้ดีมีเงินหลายคนทำให้ธุรกิจของครอบครัวล้มละลาย แม้ว่าเซียวซื่อกรุ๊ปของพวกเธอจะมีรากฐานที่ลึกซึ้ง แต่ถ้าคุณยังเล่นแบบนี้ต่อไป บวกกับที่คุณซื้อใจใครไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วคุณก็จะจบลงเหมือนกับลูกผู้ดีพวกนั้น”
สีชิงชวนพูดจนฉันรู้สึกอกสั่นขวัญหาย ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้พยายามทำให้ฉันกลัวและเขามีเหตุผลของเขาในสิ่งที่พูด
ทว่าฉันต้องลองสู้ดูสักตั้ง
ฉันคิดอยู่พักหนึ่ง “ฉันไม่มีวันทำให้เซียวซื่อกรุ๊ปพังแน่นอน เซียวซื่อกรุ๊ปมีหัวกะทิเยอะมาก แถมซียวซีก็อยู่ที่นั่นด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...