เซียวซือไม่ใช่ภัยพิบัติอันใหญ่หลวง ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กสาวผู้น่าสงสารที่สูญเสียแม่ไป สูญเสียหน้าที่การงานไป สูญเสียคนรักไปก็เท่านั้น
สีชิงชวนกับเฉียวอี้ไม่วางใจ และจะขึ้นมาข้างบนกับฉันด้วย
ฉันรู้สึกว่าพวกเขาเว่อร์กันเกินไปแล้ว ฉันส่ายหัวไปให้พวกของสีชิงชวน “ไม่เป็นไรหรอก คุณก็น่าจะรู้จักเซียวซือดีนี่ เธอไม่มีทางทำอะไรที่รุนแรงเกินไปหรอก”
“มันก็ไม่แน่ ถึงผมจะรู้จักเซียวซือดี แต่ในตอนที่คนคนหนึ่งได้รับความกระทบกระเทือนก็จะเปลี่ยนไปเป็นความเคียดแค้น และตอนนี้เธอก็เอาความเคียดแค้นนี้ไปลงที่คุณแล้ว พอถึงตอนนั้นเธอจะทำเรื่องอะไรออกมาได้บ้าง เกรงว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็คงไม่รู้ ถ้ารู้สึกว่าสถานการณ์มันดูไม่ดีแล้วให้คุณตะโกนดังๆ เลยนะ”
“ใช่” เฉียวอี้บีบมือของฉัน “พวกเราขึ้นไปช่วยเธอได้ทุกเมื่อเลย แล้วก็ให้เธอยืนอยู่หน้าประตูนะ ถ้าเซียวซือทำอะไรรุนแรงละก็ เธอก็หันหลังวิ่งออกมาเลยนะ”
จริงๆ แล้วฉันค่อนข้างรู้สึกเศร้าใจแทนเซียวซือมาก ผู้ชายที่เธอรักมองเธอเป็นตัวอันตรายไปเสียแล้ว
ฉันขึ้นไปข้างบนคนเดียว และผลักประตูห้องของเซียวซือเปิดเข้าไป
ประตูห้องของเธอปิดไม่สนิท มันถูกแง้มปิดไว้เฉยๆ ห้องของเซียวซือแบ่งออกเป็นสองห้องด้านนอกกับด้านใน ด้านนอกเป็นห้องรับแขกเล็กๆ ถัดไปด้านในถึงจะเป็นห้องนอน
เธออยู่ในห้องนอน ในห้องเงียบสนิท เงียบจนฉันได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงหายใจของตัวเอง
จริงๆ แล้วฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะสีชิงชวนพูดถูก บางครั้งคนเรานั้นแม้แต่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักตัวเองดีขนาดนั้น
“เซียวซือ” ฉันเรียกชื่อเธอออกไปเบาๆ แต่ในห้องกลับมีแค่เสียงของฉันคนเดียว
เธอไม่ได้ตอบรับกลับมา ฉันค่อยๆ เดินจากห้องรับแขกไปยังห้องนอน แต่ในห้องกลับไม่มีคนอยู่เลย เซียวซือไปไหนแล้วล่ะ?
ในขณะที่ฉันกำลังมองไปรอบๆ เสียงของเธอก็ดังมาจากดาดฟ้า “เซียวเซิง”
ที่แท้เธอก็อยู่บนดาดฟ้านี่เอง ฉันเปิดผ้าม่านลูกไม้สีขาวผืนใหญ่ออกและเดินขึ้นไปที่ระเบียงดาดฟ้า
บนระเบียงดาดฟ้ามืดมาก ฉันต้องหรี่ตามองให้ดีๆ ถึงจะมองเห็นเซียวซือ
เธอใส่กระโปรงยาวสีดำทั้งตัว ผมยาวสีดำปล่อยยาวสยาย ทั้งตัวดูกลมกลืนไปกับความมืดมิดในยามค่ำคืน
ฉันยืนอยู่ที่ประตูระเบียงดาดฟ้า และเอ่ยเรียกเธอด้วยความขลาดกลัว “เซียวซือ...”
เธอค่อยๆ หันหน้ามาทางฉัน ใบหน้าของเธอขาวราวกับดวงจันทร์สีขาวซีดดวงนั้นที่ประดับอยู่บนท้องฟ้าในคืนนี้ ช่างแตกต่างกับเสื้อผ้าและเส้นผมสีดำสนิทของเธอโดยสิ้นเชิง
ท่าทางของเซียวซือทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัว พูดกันตามตรงสภาพของเธอในตอนนี้ทำให้ฉันตกใจกลัวเล็กน้อยจริงๆ
“เซียวซือ พี่ไม่เป็นไรนะ? พี่อย่าเศร้าไปเลยนะ...” ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีเหมือนกัน จึงพูดจาสะเปะสะปะไปหมด
เซียวซือมองตรงมาที่ฉัน ริมฝีปากประดับไปด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่ค่อยปกตินัก รอยยิ้มนั้นทำให้ฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว
เธอโบกมือมาให้ฉัน “ทำไมยืนห่างฉันขนาดนั้นล่ะ กลัวฉันมากเลยเหรอ? ”
“ไม่ใช่นะ...” ฉันขยับเข้าไปหาเธอสองก้าว เธอยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกเซียวเซิง ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ดูเหมือนว่าฉันเองก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปตำหนิเธอนะ! อย่างไรเสียแม่ฉันก็แค่ตายบนเตียงผ่าตัด ไม่ได้ตายอยู่ใต้คมมีดของเธอ และเธอเองก็ไม่ใช่หมอผ่าตัด ใช่ไหม? ”
จริงๆ แล้วจนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงของแม่เลี้ยงคืออะไรกันแน่
“เป็นเพราะอุบัติเหตุในระหว่างการผ่าตัดอย่างนั้นเหรอ? ”
เซียวซือกัดปาก “ตอนนี้ยังตรวจสอบอยู่ ท่านหยุดหายใจไปอย่างน่าประหลาดมากในระหว่างทำการผ่าตัด” เซียวซือยิ้มให้ฉันอย่างไม่สะทกสะท้าน “ก็อาจจะเป็นเพราะโชคชะตามั้ง เซียวเซิง ช่วงเวลาดีๆ ของเธอมาถึงแล้ว ในที่สุดแม่เลี้ยงที่รังแกเธอมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ก็ตายลงอย่างน่าเวทนา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...