เข้าสู่ระบบผ่าน

พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย นิยาย บท 123

“ได้ หม่อมฉันจะรอท่าน…”

เสียงของนางบางเบาราวปุยเมฆ กลิ่นหอมหวานจากลมหายใจรวยรินรดบนลำคอเขา ปลุกหัวใจให้เต้นระรัว

เขายกมือขึ้น โอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนกว้าง กระซิบด้วยเสียงแหบพร่าข้างหูนางว่า

“หลันเอ๋อร์ ขอบคุณที่เข้าใจข้า ข้ารู้ตัวดี ว่าข้าไม่คู่ควร...”

“อย่าพูดเหลวไหล”

นางยังคงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนเขา นิ้วเรียวขยับไหวแผ่วเบา ทันใดนั้น แววตานางเป็นประกายดั่งสายน้ำแย้มยิ้ม เสียงหวานใสนุ่มนวลจนแทบจะกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำ

“นี่คือเครื่องพิสูจน์ว่าท่านเป็นบุรุษ เป็นชายชาตรีอย่างแท้จริง หากมิใช่เช่นนี้แล้ว ท่านจะมอบความสุขให้หม่อมฉันในวันข้างหน้าได้อย่างไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาก็หน้าแดงก่ำ โอบกอดนางแน่นขึ้นกว่าเดิม

ในชั่วขณะนั้น เขาทอดสายตาลงเล็กน้อย สัมผัสถึงความอิ่มเอมใจ เขาคิดว่าตนคือบุรุษที่เปี่ยมสุขที่สุดในโลกหล้า

การได้โอบกอดหญิงสาวผู้เป็นที่รักไว้แนบกาย ซึมซับความอ่อนโยนที่นางมอบให้ คือสิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนในช่วงครึ่งแรกของชีวิต และเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดฝันในช่วงสามปีที่ผ่านมา

หลังผ่านพ้นความวุ่นวาย นางช่วยเช็ดตัวให้เขา ห่มผ้าให้อย่างดี เขาจึงหลับใหลไปอย่างล้ำลึกพร้อมรอยยิ้ม

นางรู้ดีว่าเขาง่วงนอนมากแล้ว

เมื่อนางกลับมา ประสาทที่ตึงเครียดของเขาก็ผ่อนคลายลง ความง่วงเหงาหาวนอนจึงเข้าครอบงำโดยธรรมชาติ

อวี้หวังเฟยกลับมาแล้ว บรรยากาศในจวนที่ซึมเซาเมื่อวานแปรเปลี่ยนไป พลันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครา

ต้าจื้อและเสี่ยวจื้อต่างก็วิ่งวุ่นวียนอยู่รอบตัวนาง คอยเล่าเรื่องราวตลอดสองวันที่นางไม่อยู่ไม่หยุดปาก ว่ามีคนไข้คนไหนมาที่จวนบ้าง คนไข้คนไหนมาขอรับยาเพิ่มบ้าง

นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะของต้าจื้อและเสี่ยวจื้อคนละที ก่อนจะเอ่ยกับอากังว่า

“เอาป้ายพักกิจการที่แขวนอยู่หน้าประตูโรงหมอออกเสีย พรุ่งนี้หุยชุนถังจะเปิดทำการตามปกติ”

อากังยิ้มกว้าง พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ได้เลยขอรับ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

นางหันไปพูดกับอาโฮ่วและอาหงต่อว่า

“พวกเจ้าไปดูประกาศที่หน้าศาลาว่ากลาง ดูเสร็จแล้วให้ไปกระจายข่าวตามโรงน้ำชาทุกแห่งในเมือง ให้ทุกคนได้รู้กันถ้วนหน้าว่า ยาของหุยชุนถังของเราไม่มีทางทำให้คนตาย ที่ผ่านมาเป็นเพียงการใส่ร้ายป้ายสีเท่านั้น”

อาโฮ่วและอาหงพยักหน้ารับพร้อมกัน “เจ้าค่ะ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”

นางหันกลับมามองต้าจื้อและเสี่ยวจื้อ “ไปเถิด ข้าจะพาพวกเจ้าไปดูสำนักศึกษา ที่เมืองหลวงแห่งนี้มีสำนักศึกษาอยู่สองแห่ง พวกเจ้าถูกใจที่ไหน ก็ไปเรียนที่นั่นเถิด”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ต้าจื้อและเสี่ยวจื้อก็ปรบมือโห่ร้องอย่างดีใจ

“ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน ในที่สุดก็ได้ไปสำนักศึกษาแล้ว”

“ดี เจ้าไปเป็นเพื่อนข้าเถิด จะได้ถือโอกาสสูดอากาศเสียหน่อย สีหน้าเจ้าดีขึ้นมากแล้ว อย่าลืมกินยาตามเวลาด้วย เข้าใจไหม?”

อาหลีเม้มริมฝีปากที่ยังคงซีดอยู่เล็กน้อยแล้วยิ้มตอบ

“ข้ารู้แล้ว ช่วงนี้อาการไอก็ทุเลาลงมาก ข้าเองก็อยากออกไปเดินเล่นบ้างเหมือนกัน”

ภายหลังลั่วหลันจึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้วอาหลีนั้นไม่ได้มีวรยุทธ์ใด ส่วนอากังก็เป็นเพียงแค่หมัดมวยพื้นฐานเท่านั้น ตอนที่สองพี่น้องรับงานลอบสังหารนาง ล้วนเป็นเพราะความบีบคั้นของชีวิต ทั้งสองก้าวเข้ามาด้วยจิตใจที่พร้อมจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย พวกเขาตกลงกันไว้ว่า หากสังหารสำเร็จก็จะได้เงินรางวัล หากล้มเหลวก็มีเพียงความตายรออยู่ แต่ใครจะคิดเล่าว่า โชคชะตาเล่นตลก กลับพลิกผันให้พวกเขาได้กลายมาเป็นคนของจวนอวี้อ๋อง

ลั่วหลันพวกเขาทั้งสี่รีบออกจากจวน แต่พวกเขาก็ยังคงไม่มีรถม้าเป็นของตนเอง จึงจำต้องเดินเท้าไป

ลั่วหลันเอ่ยขึ้นระหว่างเดิน “ข้าให้คนไปสืบมาแล้ว ทางตะวันออกของเมืองมีโรงเรียนซูเซียงเก๋อ ส่วนทางตะวันตกมีสำนักศึกษาตระกูลซุน แม้ว่าทั้งสองแห่งจะอยู่ไกลจากจวนอวี้อ๋องไปบ้าง แต่ก็ล้วนเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง หากเดือนหน้าเก็บเงินได้มากพอ ก็จะซื้อรถม้าเสียที”

เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยวจื้อและต้าจื้อก็รีบเร่งฝีเท้าด้วยความยินดีเปี่ยมล้น อาหลีเอ่ยกระซิบจากด้านหลังว่า

“หวังเฟยดีกับพวกเขาจริง ๆ”

นางหันหน้ามามองเขา

“แล้วข้าไม่ดีต่อเจ้าหรือ?”

อาหลีเม้มริมฝีปากพลางแย้มยิ้ม ริมฝีปากที่เคยแห้งผากบัดนี้กลับมีสีแดงเรื่อระบาย “หวังเฟยก็ดีต่อข้าเช่นกัน หวังเฟยเมตตา ไม่ถือโทษโกรธเคือง ทั้งยังรักษาอาการป่วย แต่ยังไว้วางใจพี่ชายของข้า ให้เขาได้เป็นพ่อบ้านของจวน บุญคุณนี้ พวกเราพี่น้องคงชดใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีวันหมดสิ้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย