เมื่อได้ยินดังนั้น จางหยวนก็ก้าวออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยืนบังผู้เป็นมารดาไว้ด้านหลัง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ข้าบอกไปแล้วว่าจะให้พวกเจ้าในอีกสามวัน แต่วันนี้เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียว พวกเจ้าจะรีบร้อนอะไรกัน?”
“โถ สายตรวจจาง ท่านคิดว่าตัวเองยังเป็นสายตรวจอยู่อีกหรือ? ตอนนั้นพวกเรานับถือท่าน ก็เลยให้เวลาท่านผ่อนผัน แต่นี่ท่านมันไม่ได้เรื่องเองนี่ ทำงานได้เดือนเดียวก็โดนไล่ออก บ้านใหม่ท่านก็ได้อยู่แล้ว เงินน่ะค้างไว้แบบนี้ไม่ได้หรอกนะ”
จางหยวนขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินดังนั้น “ข้าก็พยายามหาเงินมาใช้หนี้อยู่ตลอดไม่ใช่หรือไง!”
“เงินที่ท่านเอามาคืน มันยังไม่พอจ่ายดอกเบี้ยด้วยซ้ำ พวกเรารอต่อไปไม่ไหวแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วหลันก็เข้าใจแจ่มแจ้ง ดูท่าว่าจางหยวนจะติดหนี้ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนนี้อยู่ พวกเขาจึงบุกมาทวงหนี้ถึงที่
นางจึงเหลือบมองชายฉกรรจ์ทั้งสองแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามเสียงแผ่วเบาว่า
“เขาเป็นหนี้พวกเจ้าอยู่เท่าใดกัน?”
เมื่อได้ยินเสียงของลั่วหลัน สองชายฉกรรจ์ก็หันมามอง แววตาของพวกเขาวาววามไปด้วยประกายลามก หนึ่งในนั้นถึงกับน้ำลายไหลย้อย กล่าวออกมาด้วยท่าทางหื่นกระหายว่า
“โอ้โห แม่นางน้อยนี่มาจากที่ใดกัน หากเจ้าไม่มีเงินมาไถ่ตัว งั้นก็เอาหญิงผู้นี้มาขัดดอกก็แล้วกัน”
ยังมิทันที่คำพูดของเขาจะจบลง อาหลีก็พุ่งปราดเข้าไปอย่างรวดเร็ว ตบหน้าชายผู้นั้นอย่างแรงโดยที่มันยังไม่ทันตั้งตัว พร้อมตวาดกลับอย่างเกรี้ยวกราดว่า
“บังอาจล่วงเกินอวี้หวังเฟย พวกเจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไร”
เมื่อได้ยินคำว่าอวี้หวังเฟย บุรุษทั้งสองถึงกับชะงักงัน แม้พวกเขาจะกร่างแค่ไหนในถิ่นของตน แต่ก็มิกล้าต่อกรกับเชื้อพระวงศ์ แม้ว่าอวี้อ๋องจะมิใช่คนโปรดของฮ่องเต้ แต่พวกเขาก็เป็นเพียงสามัญชน จะกล้าไปลองดีได้อย่างไร
บุรุษผู้ถูกตบหน้าได้แต่ก้มหน้ารับเคราะห์ เขากัดฟันมองลั่วหลัน
“ในเมื่ออวี้หวังเฟยรู้จักกับจางหยวน เช่นนั้นก็ช่วยใช้หนี้แทนเขาด้วยสิ พวกข้าจะได้ไม่ต้องตามทวงให้วุ่นวาย”
ได้ยินดังนั้น จางหยวนรีบรุดเข้าไปห้ามปราม “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอวี้หวังเฟย คนที่ติดหนี้พวกเจ้าคือข้า ข้าสัญญาว่าจะนำเงินมาคืนให้ครบภายในเที่ยงวันพรุ่งนี้”
“เจ้า?”
ชายผู้มาทวงหนี้มองสำรวจจางหยวนด้วยสายตาดูแคลน “เงินไม่กี่อีแปะที่เจ้าหลอกลวงผู้คนตามท้องถนนทุกวี่วันน่ะรึ แค่ดอกเบี้ยยังไม่พอเลย จะหวังให้เจ้าใช้หนี้ได้ เห็นทีคงต้องรอชาติหน้าตอนบ่าย วันนี้ข้าขอพูดให้ชัด ถ้าเจ้าไม่มีเงินมาคืน ก็ต้องไปทำงานเป็นจับกัง ทำงานจนกว่าจะได้เงินครบตามจำนวนที่ยืมไป ถึงจะได้กลับมาเป็นอิสระ”
เมื่อได้ยินดังนั้น จางหยวนก็พยายามโต้เถียง แต่ลั่วหลันเอ่ยแทรกขึ้นทันทีว่า
“เงินจำนวนนี้ข้าจะชดใช้แทนเขาเอง เป็นจำนวนเท่าใด?”
จางหยวนรีบส่ายหน้าห้ามปราม “หวังเฟย ท่านมิต้อง…”
“ไม่เป็นไร ถือว่าข้าให้เจ้ายืมก็แล้วกัน วันหน้ามีแล้วค่อยเอามาคืนข้า”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...