ภายในตำหนักเต๋อหนิง พระสนมฉางกุ้ยเฟยหน้าซีดเผือดมือทั้งสองสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ปากก็ตะคอกว่า
“ไร้ประโยชน์ทำงานแย่จริงๆ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำดีไม่ได้ แม้แต่ผู้หญิงคนหนึ่งกับคนใกล้ตายคนหนึ่งยังลอบฆ่าไม่สำเร็จ ยังเรียกนักฆ่าอะไร? สู้ขุนนางคนหนึ่งยังไม่ได้”
อวี้มามายืนอยู่ข้างนาง สองมือบีบไม่หยุด ฟังนางสั่งสอนอย่างกังวลจนจบนี่ถึงพูดเสียงเบาว่า
“พระสนม เป็นความผิดของบ่าว พรุ่งนี้บ่าวไปหาคนที่เก่งกว่านี้มาเพคะ”
“ไม่จำเป็นแล้ว”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยโบกมือเสียงดัง “หลังจากครั้งนี้ พวกเขาจะต้องระวังตัว ส่งไปก็ไร้ประโยชน์ ทำไม่ดีถูกจับได้ก็ยิ่งยุ่งยากแล้ว”
นางพูดถึงตรงนี้ ก็เลิกคิ้วหันไปมองอวี้มามาทันที “เจ้าไม่ได้บอกฐานะของเจ้าให้นักฆ่าใช่ไหม?”
“ไม่ได้บอกเพคะ”
อวี้มามารีบส่ายหน้า “เขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร นักฆ่าพวกนี้ก็มีกฎ พวกเขาจะไม่ถามคนจ้างพวกเขาอย่างละเอียด พวกเขาแค่รับเงินทำงาน”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยขมวดคิ้วพยักหน้า “แบบนี้ดีที่สุด เรื่องนี้พักไว้ก่อนสักสองสามวัน รอพวกเขาลดความระวังตัวลงค่อยว่ากัน”
“พระสนม ท่านว่าสุ่ยลั่วหลันคนนั้นจะรักษาเหลิ่งอวี้ให้หายได้จริงหรือ?”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยยกมุมปาก ยิ้มอย่างไม่พอใจออกมา “ไม่มีทาง นอกจากนางเป็นเทพเซียนลงมาจุติ ตะปูในขานั้นหากไม่ถูกดึงออกมา เขาก็จะยืนไม่ได้ไปตลอดชีวิต หากถูกดึงออกมาอย่างนั้นมีแค่ตัดขา อย่างนั้นสองขาของเขาก็จะพิการ ดังนั้นแม้เขาจะรอดมาได้ก็แค่คนพิการคนหนึ่งเท่านั้น”
นางพูดถึงตรงนี้ในดวงตาประกายความชั่วร้ายหนึ่ง ยกมุมปากฉีกยิ้มจากนั้นพูดเสียงเย็นชาว่า
“หากเสี่ยวอวี้คนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เห็นลูกชายของนางมีสภาพแบบนี้ จะต้องเสียใจมากแน่ๆ! ฮ่าฮ่าฮ่า......”
ใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ของนางอยู่ในค่ำคืนที่เงียบสงบแบบนี้เสริมให้ดูน่ากลัวเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะชั่วร้ายของนางสะท้อนอยู่ในตำหนักเต๋อหนิง อวี้มามายิ้มอย่างชั่วร้ายและได้ใจเหมือนนาง
……
สามวันต่อมา ในที่สุดต้าจื้อก็พ้นขีดอันตรายไปได้ พ่อแม่ของต้าจื้อก็เร่งเดินทางมาแล้ว
นั่งอยู่ในห้องโถงจวนอ๋อง อารมณ์ของพวกเขายังถือว่าค่อนข้างสงบ จางฮูหยินเพิ่งร้องไห้หยุด ดวงตายังบวมแดงอยู่
ลั่วหลันมองพวกเขาสองคนหนึ่งครั้ง ถอนหายใจอย่างจนใจอยู่บ้าง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...