“อวี้อ๋องอยู่ที่ไหน”
แม้ว่าเสียงของฮ่องเต้จะเบามาก แต่ก็แฝงไปด้วยอำนาจที่ทำให้ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง ประกอบกับทหารองครักษ์และขุนนางที่ติดตาม ผู้คนในจวนอวี้อ๋องที่ทราบเรื่องเหลิ่งอวี้ไม่อยู่ต่างก็กระวนกระวาย
เมื่อเห็นว่าทุกคนก้มหน้างุดไม่ตอบ หลิวสี่ตวาดถามเสียงแหลม
“ไม่ได้ยินฮ่องเต้หรือ เป็นใบ้หรือไง ใครเป็นพ่อบ้าน”
อากังก็ละล่ำละลักพูดว่า
“กระหม่อม...เป็นพ่อบ้านจวนอวี้อ๋อง”
ฮ่องเต้มองเขาถามเน้นคำ
“พาเราไปที่อยู่จวนอวี้อ๋อง”
“อวี้อ๋อง...อวี้อ๋อง... “
อากังไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ขณะนั้นเสี่ยวจื้อขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ พูดเสียงดังว่า
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมทราบว่าอวี้อ๋องอยู่ที่ไหน กระหม่อมจะพาพวกท่านไป”
หลิ่วเม่ยรีบดึงชายเสื้อเสี่ยวจื้อ แต่ฮ่องเต้หันมามองเขาแล้ว ขมวดคิ้วถามว่า
“เจ้าเป็นใคร”
“กระหม่อมเสี่ยวจื้อเป็นลูกศิษย์ของอวี้อ๋อง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาฮ่องเต้สับสน สีหน้าเรียบเฉยราวกับแอ่งน้ำใส
เขาไม่เข้าใจว่าอวี้เอ๋อร์นอนติดเตียง ทำไมถึงรับศิษย์ นอกจากนี้ คนในจวนอวี้อ๋องต่างก็หน้าไม่คุ้น ช่วงนี้สุ่ยลั่วหลันทำอะไรในจวนอวี้อ๋องกันแน่
แต่ตอนนี้เขาไม่อยากถามเรื่องพวกนี้ เขาแค่อยากจะพบอวี้เอ๋อร์ที่ไม่ได้พบหน้ามาสามปีโดยเร็วที่สุด ได้ยินมาว่าเขาเป็นอัมพาต อยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไร
ฮ่องเต้จึงพยักหน้ากับเสี่ยวจื้อ
"ได้ เจ้านำทาง"
เสี่ยวจื้อพยักหน้าหนักแน่น ยืนขึ้นนำทางฮ่องเต้และคณะขุนนางเดินตามหลังไปติดๆ อากังที่วิตกกังวลปาดเหงื่อผุดบนหน้าผาก ดวงตาหลิ่วเม่ยก็วิตกกังวลเช่นกัน
กลุ่มคนเดินมาที่เรือนหลังไปยังเรือนที่เหลิ่งอวี้พัก เสี่ยวจื้อชี้ไปที่ห้องพูดว่า
“ฝ่าบาท ที่นี่คือที่อยู่อวี้อ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวกับหลิวสี่ที่อยู่ข้างหลังว่า
“ไปอ่านพระราชโองการที่หน้าประตู”
เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน อวี้เอ๋อร์ก็จะไม่สนใจเขา ตัวเขาเองก็ไม่กล้าที่จะพบหน้าเขา ดังนั้น ก่อนจะพบกับ อ่านพระราชโองการก่อน ให้เขาทราบว่าตนเองมาทำไมจะเหมาะสมกว่า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...