ผ่านการพิจารณาไตร่ตรอง เขาเปลี่ยนชุดสีดำพอดีตัว บนศีรษะสวมหมวกฟางกว้างใบหนึ่ง นั่งอยู่ประตูโรงเตี๊ยม เห็นหญิงสาวสามคนออกไปข้างนอก เขาก็ตามไปเงียบๆ
หญิงสามทั้งสามคนเดินบนถนนเงียบๆ อาไฉ่หันมองร้านแผงลอยสองข้างทางตลอดเวลา บางครั้งก็จะถามว่า “คุณหนูอยากกินไหมเจ้าคะ?”
ลั่วหลันส่ายหน้าทุกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย มาถึงที่นี่ครึ่งเดือนแล้วเหลิ่งอวี้ก็ยังไม่มา ถ้าหากคำนวณตามราชโองการอภัยโทษของฮ่องเต้ เวลานี้เขาควรมาถึงที่นี่แล้ว
อากาศก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ ลั่วหลันกอดอกแน่น อาหงรีบเดินเข้ามาช่วยนางจัดเสื้อผ้าถามเสียงเบาว่า
“คุณหนูอากาศเย็นแล้ว เดี๋ยวตอนพวกเรากลับมาไปซื้อเสื้อผ้าหนาๆ เถิด”
“ตกลง”
ลั่วหลันตอบเสียงเบา “ตอนนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว เป็นตอนที่ทางเหนือหนาวเย็น ตอนที่หนาวที่สุดก็ไม่รู้ว่าร่างกายของเหลิ่งอวี้จะรับได้ไหม?”
อาไฉ่รีบเดินหน้าไปสองก้าวปลอบโยนเสียงดังว่า
“ท่านอ๋องร่างกายแข็งแรงจะต้องไม่เป็นไรอยู่แล้ว ไม่แน่วันนี้เขาก็มาถึงเมืองหนิงหลัวก็เป็นได้”
พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ นางก็มีสีหน้ากังวล พึมพำอย่างตกใจว่า
“พวกท่านว่าเป็นไปได้ไหมที่พวกเราจะคลาดกับพวกเขาแล้ว?”
“อย่าพูดเหลวไหล”
อาหงเห็นลั่วหลันได้ยินประโยคนี้หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย จึงถลึงตาใส่อาไฉ่อย่างเย็นชา ตำหนินางอย่างไม่พอใจว่า “จะคลาดกันได้อย่างไร? ท่านอ๋องกับคุณหนูใจตรงกันจะต้องเจอกันที่นี่แน่นอน”
แต่อาไฉ่ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของอาหง พูดตรงไปตรงมาอีกครั้งว่า
“แต่ถ้าตอนพวกเขาผ่านเมืองหนิงหลัวตอนเช้าหรือตอนเย็น หรือกลางดึกล่ะ? พวกเขาหาโรงเตี๊ยมสักแห่งพักจากนั้นก็ออกเมืองแต่เช้า อย่างนั้นก็คลาดกันแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเราก็รอเสียเวลาเปล่าแล้ว”
คำพูดของนางทำให้ลั่วหลันหยุดก้าวไปข้างหน้า คำพูดของอาไฉ่เหมือนกับที่นางคิดอยู่ในใจ รอนานแล้วเขาก็ยังไม่มา นางก็เป็นห่วงเรื่องนี้ แต่ไม่มีคนพูดเปิดโปง นางก็หลอกตัวเองเสมอมา
อาหงเห็นถลึงตาใส่อาไฉ่ รีบพูดปลอบโยนลั่วหลัน
“คุณหนู ท่านอย่าฟังอาไฉ่พูดเหลวไหล พวกเรามาถึงแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น พวกเรารออีกหน่อยไม่รีบร้อน”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...