เมื่อฮ่องเต้พูดประโยคนั้น ใบหน้าของเหลิ่งจื่ออันก็เขียวคล้ำ เขาพูดเช่นนี้ต่อหน้าธารกำนัล เท่ากับเย้ยหยันที่เขาไร้ซึ่งโอรสสืบสกุล
หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงโมโหจนเลือดขึ้นหน้า สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
แต่คราวนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะเขามีเสี่ยวจื้อแล้ว
เขาคาดไว้อยู่แล้วว่าฮ่องเต้ต้องหยิบยกเรื่องนี้มาพูด เขาจึงคิดจะพาเสี่ยวจื้อมาด้วยในเช้าวันนี้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างลำพองใจ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่ไร้ที่มาที่ไป ฮ่องเต้ก็รู้สึกงุนงงว่าเกิดอันใดขึ้น
เมื่อเสียงหัวเราะสิ้นสุด เหลิ่งจื่ออันเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ สบตาฮ่องเต้ด้วยแววตาเป็นประกาย ใบหน้าแดงก่ำ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วงข้า แต่ถึงข้าจะมีลูกชายแล้ว ไม่เพียงแต่มีทายาทสืบสกุล เขายังเป็นเด็กฉลาด น่ารัก และว่องไว หน้าตาเหมือนข้าไม่มีผิด ทั้งกล้าหาญและองอาจ เชื่อว่าในภายภาคหน้าจะต้องได้เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่อย่างแน่นอน”
“อ้อ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮ่องเต้ขมวดคิ้วโดยไม่รู้สาเหตุ เผยสีหน้าเย้ยหยันและดูหมิ่น
คนทั้งโลกรู้ว่าเหลิ่งจื่ออันไม่มีลูกชาย ตอนนี้เขากลับบอกว่าตัวเองมีลูกชาย คำพูดนี้คนตาดีล้วนดูออกว่าเขาพูดโกหก
ดังนั้น ฮ่องเต้ตากระตุกเล็กน้อย มองเขาด้วยสายตาใคร่รู้ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงดูแคลนว่า
“ในเมื่อเจ้ามีลูกชายแล้ว เหตุใดจึงไม่พามาให้เราและทุกคนได้เห็นหน้า? ให้เขาได้ทำความรู้จักกับอวี้เอ๋อร์ ซีเอ๋อร์ และหมิงเอ๋อร์เล่า? มีสิ่งใดที่ไม่สะดวกหรือ?”
คำพูดของฮ่องเต้แฝงไปด้วยความเคลือบแคลงใจ เหลิ่งจื่ออันขยับริมฝีปากเล็กน้อย กระแอมเสียงดัง แล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า
“ลูกชายของข้าอยู่ที่จวนอวี้อ๋อง เพียงแต่เขายังเด็กนัก ไม่ชอบงานเลี้ยงเช่นนี้ ข้าจึงไม่ได้พาเขามาด้วย…”
เรื่องนี้เกี่ยวข้องอันใดกับจวนอวี้อ๋อง?
ฮ่องเต้ประหลาดใจยิ่งนัก เขามองไปที่เหลิ่งอวี้ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ พลางถามว่า


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...