คิ้วของหวงซื่อสยงเลิกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากหยันส่งเสียงเย็นชาในลำคอ ก่อนเอ่ยว่า
“เจิ้นหนานอ๋องไม่มีทายาทสืบสกุล เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วทั้งแผ่นดิน แล้วอยู่ ๆ ท่านจะพาเด็กมาคนหนึ่งแล้วบอกว่าเป็นบุตรชาย ใครเขาจะเชื่อเล่า ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังจะให้เด็กคนนี้ใช้นามสกุลเหลิ่งอีก หากเรื่องนี้เป็นเรื่องโกหก ท่านมิได้กำลังหลอกลวงเบื้องสูงหรอกหรือ เรื่องเช่นนี้ อวี้อ๋องและอวี้หวังเฟยจะกล้าเอ่ยปากช่วยท่านแก้ต่างได้อย่างไร หรือว่าจะให้อวี้อ๋องและอวี้หวังเฟยทำผิดไปพร้อมกับท่านด้วย?”
สิ้นคำกล่าวนี้ สีหน้าเปี่ยมสุขของเหลิ่งจื่ออันพลันหมองคล้ำ ผู้คนในที่นั้นต่างส่งเสียงฮือฮา รอคอยชมความครึกครื้นของเหลิ่งจื่ออัน
ใบหน้าของเหลิ่งจื่ออันดำทะมึนประหนึ่งคั้นน้ำออกมาได้ เขาลุกพรวดพราดขึ้น ชี้หน้าหวงซื่อสยง กัดฟันกรอด แบะเอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม
“หวงซื่อสยง นี่เจ้าหมายความว่ากระไร? คิดว่าข้ากล้าโกหกต่อหน้าฝ่าบาทงั้นหรือ?”
หวงซื่อสยงเห็นดังนั้นก็หาได้หวาดหวั่นไม่ เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเช่นกัน โทสะแล่นปราดขึ้นสู่สมอง ชี้หน้าอีกฝ่าย ตอกกลับไปว่า
“เหลิ่งจื่ออัน หากในใจเจ้ามิได้ซ่อนเร้นสิ่งใด เหตุใดจึงต้องร้อนรนเล่า เจ้าพาบุตรชายที่เจ้าเอ่ยอ้างมาให้พวกเราได้ยลโฉม หากเจ้าเอาแต่เอ่ยวาจาเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน พวกข้าจะเชื่อถือได้อย่างไร!”
“ข้า...”
เมื่อถูกรุกไล่เช่นนี้ เหลิ่งจื่ออันพลันรู้สึกด้อยกว่า เขาอยากจะพาเสี่ยวจื้อมาอวดศักดาที่นี่อยู่หรอก แต่เด็กนั่นไม่ยอมมา อีกทั้งหลิ่วเม่ยก็ห้ามปราม จะให้เขาจับมัดมาก็ใช่ที่ หากจับมัดมาจริง ๆ เกรงว่าถึงที่นี่จะยิ่งเผยความขลาดออกมา
แต่เมื่อจนตรอกเช่นนี้ หากไม่พาเสี่ยวจื้อมาให้คนเหล่านี้เห็น เกรงว่าจะปิดปากพวกเขาไม่ได้
ยามนี้ เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ครั้นจะทำเช่นไรให้เสี่ยวจื้อเต็มใจยอมรับเขาเป็นบิดา กลายเป็นเรื่องที่ทำให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้าที่สุด
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิวเต๋อชังที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หวงซื่อสยง จึงหัวเราะกลบเกลื่อนว่า
“วันนี้เป็นวันมงคลปีใหม่ ฝ่าบาททรงจัดงานเลี้ยงต้อนรับทุกท่าน อย่าได้บาดหมางกันเพราะเรื่องเล็กน้อยเลย มานั่งลงเถิด”
อู๋หงผู้เงียบมาตลอดพลันเห็นด้วยจึงเอ่ยเสริมว่า
“ท่านแม่ทัพหลิวกล่าวถูกต้องแล้ว ในเมื่อเจิ้นหนานอ๋องกล้าเอ่ยเช่นนี้ ย่อมต้องมีมูลเหตุอยู่บ้าง ไฉนผิงเหลียวอ๋องต้องเคี่ยวเข็ญแข็งข้อด้วยเรื่องนี้เล่า?”
คำพูดของอู๋หงดูเผิน ๆ เหมือนจะไกล่เกลี่ย แต่แท้จริงแล้วกลับยิ่งเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งลุกโชน
แววตาของเหลิ่งอวี้หรี่ลง รอยย่นปรากฏขึ้นบนหน้าผากราวกับเส้นตรง เมื่อเห็นอู๋หงปกป้องเจิ้นหนานอ๋องต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้ คงเป็นดังที่หลิวเต๋อชังกล่าวไว้ว่าคนทั้งสองมีการสมรู้ร่วมคิดกัน ดูท่าเขาคงไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...