เมื่อได้ยินประโยคนั้น เหลิ่งจื่ออันแอบชำเลืองมองลั่วหลัน แววตาแฝงความกังวล เหงื่อเม็ดละเอียดผุดพรายบนหน้าผาก
สาเหตุที่เขากังวลมากเช่นนี้ เป็นเพราะเขาไม่มั่นใจเลยว่าลูกชายของตนจะอยู่ที่นี่หรือไม่ เขาเพียงแค่ทำตามที่ลั่วหลันเอ่ยบอกก่อนหน้านี้ คล้อยตามสถานการณ์เท่านั้น
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดที่ลูกศรถูกง้างบนคันธนูแล้ว ไม่มีทางถอยกลับ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งแล้ว เขาจึงทำได้เพียงกัดฟัน และออกตามหาเท่านั้น
ยามเมื่อเขาวางไม้หนามบนตัวลง และองครักษ์ผู้ภักดีรี่เข้ามาประคองเสื้อคลุม จู่ ๆ เสียงเล็กแหลมดังเจื้อยแจ้วก็ดังขึ้นจากเบื้องหลัง
“ท่านพ่อไม่ต้องหาแล้ว ข้าออกมาแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึง พากันมองหาที่มาของเสียง และเมื่อเห็นว่าเสี่ยวจื้อเดินออกมาจากตำหนักเป่าเหอ แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังแทบตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
นี่คือเด็กคนนั้นที่เกือบจะสิ้นลมหายใจไปแล้วในวันนั้นจริง ๆ หรือ? เขากลับมายืนอยู่ตรงหน้าทุกคนอย่างน่าอัศจรรย์ ดูมีชีวิตชีวาและร่าเริงอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อได้เห็นเสี่ยวจื้อ เหลิ่งจื่ออันเองก็ถึงกับตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบโบกมือเรียกเขาด้วยความยินดี
“เจ้าเด็กแสบ เจ้าเกือบจะก่อเรื่องใหญ่แล้ว ยังไม่รีบมาคุกเข่าขอขมาฝ่าบาทอีก?”
เสี่ยวจื้อได้ยินดังนั้นจึงก้าวขาเล็ก ๆ ไปหาฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว คุกเข่าทั้งสองข้างลงกับพื้น ประสานมือขึ้นและกล่าวเสียงดัง
“ฝ่าบาท เมื่อวานนี้เสี่ยวจื้อซุกซนจนเผลอเข้าไปในห้องทรงพระอักษร และเพราะกลัวว่าท่านพ่อจะลงโทษจึงไม่กล้าปรากฏตัว วันนี้ยังเผลอเข้าไปในตำหนักเป่าเหออีก ขอฝ่าบาททรงลงโทษเสี่ยวจื้อด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงไร้เดียงสาของเด็กน้อย คิ้วของฮ่องเต้ก็ขมวดมุ่น เขามองไปทางสุ่ยลั่วหลัน ประหนึ่งจะทรงตำหนิ แต่แล้วก็ทรงตระหนักว่าการอบรมสั่งสอนลูกสะใภ้ต่อหน้าธารกำนัลนั้นไม่เหมาะสม อีกทั้งเรื่องของเหลิ่งจื่ออันก็ยังไม่กระจ่าง
จังหวะนั้นเอง เสียงดูแคลนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“หึ! ก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกชายแท้ ๆ หรือเปล่า”
คนที่พูดประโยคนี้คือหวงซื่อสยงนั่นเอง ทว่าครั้งนี้หลังจากที่ เหลิ่งจื่ออัน ได้ฟัง กลับไม่ได้โกรธอย่างที่เคย เขาหันไปประสานมือคำนับต่อฮ่องเต้
“ฝ่าบาท เมื่อครู่ท่านพูดไว้ว่า หากเสี่ยวจื้อออกมาจากตำหนักเป่าเหอแห่งนี้ได้จริง ท่านจะไม่ทรงเอาผิดข้า ฝ่าบาทเป็นถึงทองคำล้ำค่า พูดแล้วต้องเป็นคำ ข้าขอถามหน่อยว่า ในเมื่อหาเสี่ยวจื้อเจอแล้ว แต่ยังมีคนกังขาในตัวตนของเขา เช่นนั้นก็ให้ตรวจพิสูจน์สายเลือดกันเสียเลย”
สีหน้าของฮ่องเต้ยังคงเคร่งขรึม แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว เขาผู้เป็นถึงฮ๋องเต้จะเสียคำพูดต่อหน้าธารกำนัลไม่ได้
ดังนั้น เขาจึงโบกมือให้คนที่อยู่ด้านนอก พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า
“ทหาร นำอ่างใส่น้ำสะอาดมา”
สิ้นเสียงนั้น เขาก็หันกลับมามองเสี่ยวจื้อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังทีละคำว่า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...