นางครุ่นคิดประโยคนี้มาตลอดทั้งคืน ป้าของนางในเพลานี้คงจะมีความสุขจนเหลือล้น แต่ก็อดเอ่ยประโยคที่ไม่ตรงกับใจออกมา
“พูดอะไรของเจ้าน่ะ ที่นี่เป็นบ้านเกิดของเจ้าเสมอ เจ้าอยากกลับมาเมื่อใดย่อมได้ทุกเมื่อ”
กลับมา? นี่นางยังกลับมาได้อีกหรือ นางไม่อยากกลับมาอีกแล้ว
ลั่วหลันยิ้มอย่างดูแคลน นางไม่ได้พกสิ่งใดติดตัวไปนอกจากผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว
เช้านี้ยังไม่มีใครได้พบกับลุงเลยสักคน บางทีเขาอาจไม่อยากเห็นลั่หลันถูกส่งออกไป จึงไปแอบซ่อนตัวร้องไห้ที่ไหนสักแห่ง
เมื่อเดินออกไป ลั่วหลันมองย้อนกลับไปยังบ้านที่นางอาศัยอยู่มาสิบเจ็ดปีด้วยรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปาก วันนี้นางกำลังหนีออกไปจากที่นี่ แม้จะมีความยากลำบากหรืออันตรายมากมายรออยู่ข้างหน้าก็ตาม นางล้วนแต่รู้สึกยินดี
ไม่รู้ว่าป้ายืมลาตัวหนึ่งมาจากที่ใด มีเกวียนไม้ที่นั่งได้สองคนผูกอยู่บนหลังลาตัวนั้น
“หลันเอ๋อร์ วันนี้เจ้ากำลังจะแต่งงาน แต่ครอบครัวพวกเราไม่มีของดีๆ จะมอบให้ ข้าก็เลยไปยืมเกวียนลาจากป้าหวังไปส่ง ป้าจะไปส่งเจ้าด้วยตัวเอง”
ลั่วหลันพลันรู้สึกรังเกียจในใจ นางไม่ได้อยากไปส่ง แต่อยากไปรับเงินรางวัลต่างหาก แต่เรื่องนี้กำลังจะจบลงแล้ว ลั่วหลันไม่อยากใส่ใจอีกต่อไป
ก่อนมองย้อนกลับไปมองรอบๆ พลางกระซิบเสียงเบา
“ท่านลุง ลาก่อน”
พูดจบ นางก็ก้าวขึ้นไปบนเกวียนไม้อันทรุดโทรม จากนั้นป้าจึงยกแส้ขึ้นและเคลื่อนตัวออกไป
ลุงที่ซ่อนตัวอยู่หลังชายคากำลังร้องไห้อย่างเศร้าเสียใจ พลางทุบตีตัวเองที่ไร้ความสามารถ ไม่อาจหาบ้านดีๆ ให้กับหลันเอ๋อร์ได้ แต่เขาจะทำอะไรได้อีก ลั่วหลันมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้มาสิบเจ็ดปี ไม่รู้ว่านางต้องทนทุกข์ทรมานมามากเพียงใด แต่ไม่ยอมปริปากบอกกับเขาเลยสักครั้ง ขณะที่เขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะไล่ภรรยากับลูกๆ ออกไป ทำได้เพียงหลับหูหลับตาไม่สนใจ เขารู้สึกผิดกับนางมากเหลือเกิน แม้แต่ส่งนางไปแต่งงานยังไม่กล้า ได้แต่แอบเฝ้ามองนางจากไปอย่างเงียบๆ
หมู่บ้านที่ครอบครัวของลั่วหลันอาศัยอยู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง แม้ว่าเกวียนลาตัวน้อยจะเคลื่อนไปอย่างช้าๆ แต่หลังจากเข้าสู่เมืองหลวง ป้าของนางก็เร่งฝีเท้าไปยังจวนอ๋อง
ประตูใหญ่โอ่อ่าปรากฏขึ้นตรงหน้า บนประตูมีตัวอักษรสิทองสลักอยู่บนป้ายว่าจวนอวี้อ๋อง
ป้ารีบหันกลับมาเพื่อจัดทรงผมของลั่วหลันที่ปลิวลมให้กลับมาเรียบร้อย แต่นางกลับเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา
เพลานั้นเอง ทหารยามสองคนจึงเดินเข้ามาถาม
“มีธุระอันใด”
ป้าของนางรีบทักทายเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ท่านทั้งสอง พวกเรามาตามประกาศพระราชโองการน่ะ”
นางพูดพร้อมกับยื่นใบประกาศให้ทหารยามดู พวกเขาเหลือบมองครู่หนึ่ง ก่อนหันไปมองลั่วหลันและพูดอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ป้าก็หน้าซีดด้วยความตกใจ ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเร่งรีบ
ดังนั้นลั่วหลันจึงถูกป้าส่งเข้าไปในลานบ้านอันเงียบสงบ โดยมีทหารยามสองคนยืนเฝ้าไว้ราวกับกลัวพวกนางเดินไปที่อื่น
ที่นี่คือสวนหลังบ้านของจวนอ๋อง แต่กลับดูรกร้างเหมือนไม่ได้มีคนอาศัยมานาน
ในขณะที่ป้าเดินวนไปมาในสวนหลังบ้านอย่างร้อนใจ แต่ลั่วหลันนั่งอยู่ในเรือนอย่างเงียบสงัด
คงเป็นเรื่องโกหกหากบอกว่าไม่ได้เกลียดนาง แต่นางก็เลี้ยงดูลั่วหลันมาสิบเจ็ดปี และความสัมพันธ์กำลังจะขาดสะบั้นลงด้วยเงินพันตำลึง
พวกนางนั่งรออยู่ที่นั่นครึ่งค่อนวัน ไม่มีใครมาดูแลเรื่องอาหารกลางวัน ราวกับพวกนางถูกลืมไปแล้ว
ป้าของนางเอ่ยถามอยู่หลายครั้ง แต่คำตอบคือให้รอ พวกนางไม่มีทางเลือกจึงได้แต่รอต่อไป!
จนกระทั่งเริ่มพลบค่ำ ประตูลานบ้านก็ค่อยๆ เปิดออก ป้าก็รีบลุกขึ้นไปทักทายทันที
สตรีที่เดินนำเข้ามาดูมีอายุประมาณสี่สิบปี แต่งตัวหรูหราสง่างาม สวมเครื่องประดับศีรษะอันวิจิตร แต่ใบหน้ากลับดูเย็นชา
เมื่อผู้ดูแลเห็นป้าของนางรีบเดินไปที่หน้าประตู จึงตะโกนขึ้นด้วยเสียงดังสนั่น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย