“นี่คือพระสนมฉางกุ้ยเฟย ยังไม่รีบคุกเข่าอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ป้าก็รีบคุกเข่าอย่างลนลานพลางโบกมือให้ลั่วหลันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความงุนงง
“หลันเอ๋อร์ มานี่ รีบคุกเข่าสิ”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยมองไปที่ลั่วหลัน พร้อมกับโบกมือเบาๆ “พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าอยากคุยกับเด็กคนนี้สักสองสามคำ”
แม้ว่าป้าจะลังเล แต่ไม่นานก็ยอมเดินจากไปพร้อมกับผู้ดูแล
ลั่วหลันเดินเข้าไปหาพระสนมฉางกุ้ยเฟย ก่อนจะถอนสายบัวทำความเคารพตามที่เคยเห็นในละครตามโทรทัศน์
“ถวายพระพรเพคะ พระสนม”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อืม ลุกขึ้นเถอะ เจ้าชื่อหลันเอ๋อร์?”
“หม่อมฉันแซ่สุ่ย มีนามว่าลั่วหลันเพคะ”
“สุ่ยลั่วหลัน…”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยกล่าวซ้ำๆ “ชื่อนี้ไพเราะดี”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง พระสนมฉางกุ้ยเฟยก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ในเรือน พลางชี้ไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “นั่งลงสิ ข้ามีบางอย่างอยากพูดกับเจ้า”
ลั่วหลันทำใจไว้แล้วว่าอีกฝ่ายคงอยากพูดเรื่องท่านอ๋องคนนั้น นางจึงทรุดตัวลงนั่งอย่างไม่ลังเล
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พระสนมฉางกุ้ยเฟยก็เอ่ยขึ้น
“เจ้ารู้เรื่องอวี้อ๋องมากแค่ไหน”
“หม่อมฉันไม่ทราบ เพียงแต่รู้จากประกาศว่าท่านอ๋องไม่สบาย”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยถอนหายใจพลางขมวดคิ้วด้วยความเศร้า “เขาป่วยหนัก ข้าไม่อยากทำให้ใครลำบากใจ ข้าขอบอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกัน เจ้าจะได้ไม่เสียใจภายหลัง หากเจ้ายอมรับแล้ว จะเห็นแล้ววิ่งหนีอย่างสตรีพวกนั้นไม่ได้อีกแล้ว”
พระสนมฉางกุ้ยเฟยกล่าวประโยคสุดท้ายด้วยดวงตาเฉียบคม
ลั่วหลันเข้าใจดีว่าคำพูดนี้ของพระสนมฉางกุ้ยเฟยแฝงไปด้วยภัยคุกคาม โดยตั้งใจจะบอกนางว่าเข้ามาอาจเป็นเรื่องง่าย แต่อย่าคิดจะได้ออกไปง่ายๆ แน่
เรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว นางไม่มีทางให้ถอยกลับ ดังนั้นนางจึงส่ายหน้าอย่างชินชา
“หม่อมฉันไม่มีอะไรต้องเสียใจ และจะไม่หนีไปไหน ได้ปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋องถือเป็นเกียรติของหม่อมฉัน”
“ไม่มีใครบังคับหรือ” พระสนมฉางกุ้ยเฟยราวกับไม่เชื่ออย่างยิ่ง
ลั่วหลันส่ายหน้าพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ไม่มีเพคะ”
“คนที่มาส่งคือแม่ของเจ้าหรือไม่”
“ไม่ใช่เพคะ นางคือท่านป้า แต่นางไม่ได้บังคับหม่อมฉัน หม่อมฉันทำไปด้วยความสมัครใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย