ตอนที่ 127 รอเจ้าหวนกลับมา
หลีโม่จึงพูดขึ้นว่า “โรคลมชักของท่านอ๋องน่าจะเป็นเพราะศีรษะได้รับบาดเจ็บในครั้งนั้นส่งผลให้เป็นแบบนี้ ถ้าข้าเดาไม่ผิด ที่จริงหลายปีมานี้ อาการของท่านอ๋องก็กำเริบอยู่หลายครั้ง ใช่ไหม?”
อ๋องเหลียงพูดขึ้นว่า “ใช่ แต่อาการไม่หนัก”
“อืม” หลีโม่พยักหัว “รักษาโรคลมชัก ค่อนข้างยุ่งยากหน่อย ต้องใช้ความอดทน หากท่านอ๋องไว้ใจข้า ภายในสามเดือนนี้ ข้าจะมาฝังเข็มให้ท่านอ๋อง”
นางไม่ได้พูดถึงว่าจะรักษาขาหรืออื่นๆให้เขา เพราะตอนนี้ยังไม่คุ้นเคยกัน กลัวเขาจะอคติ ไม่ยินยอมให้รักษา เมื่อถึงตอนนั้นนางคงไม่รู้จะรายงานฮองเฮายังไง
ในสถานการณ์แบบนี้ นางไม่อยากมีปัญหากับฮองเฮา อย่างน้อยในสามเดือนนี้ มีฮองเฮาคุ้มครองนางอยู่ ก็จะไม่มีใครกล้าลงมือทำร้ายนาง
“เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตของข้า จะไม่เชื่อเจ้าได้อย่างไร?” อ๋องเหลียงยิ้ม
หลีโม่มองดูเขา แล้วคิดถึงครั้งแรกที่เจอเขา เขาสวมใส่ชุดแต่งงานสีแดง นั่งอยู่บนหลังม้า ดูสง่าผ่าเผย
ในตอนนั้นสำหรับนาง อ๋องเหลียงเหมือนดั่งซาตาน
เหตุการณ์ในโลกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปไม่นาน นางกับรู้สึกว่าอ๋องเหลียงยิ้มได้อย่างคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นางจึงยิ้มที่มุมปากอย่างไม่รู้ตัว
“เจ้ายิ้มอะไร?” อ๋องเหลียงถามขึ้น เมื่อเห็นนางอยู่ดีๆก็อมยิ้มที่มุมปาก
“ไม่บอก ถ้าบอกไปท่านอ๋องอาจโกรธได้” หลีโม่ตอบ
“ถ้าไม่บอก ข้ายิ่งโกรธ”
หลีโม่ให้เขานอนลง เตรียมฝังเข็ม “เมื่อฝังเข็มเสร็จแล้วจะบอกท่านอ๋องให้ทราบ”
อ๋องเหลียงจึงได้นอนลงอย่างว่าง่าย ดวงตากลมโตจ้องมองนาง “เสี้ยหลีโม่ ที่แรกเจ้าเป็นนางสนมของข้า กลับคิดไม่ถึงว่าต่อมาเจ้าจะกลายเป็นฮวงเซินเซินของข้า”
“ไม่แน่” หลีโม่ส่ายหัว “เหตุการณ์ในโลกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา วันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้ใครจะไปรู้ว่าจะกลายเป็นยังไง?”
“ถ้าเจ้าไม่เป็นฝ่ายยกเลิกการแต่งงาน คงไม่มีใครสามารถหยุดฮวงซูได้” อ๋องเหลียงพูดขึ้น
หลีโม่เริ่มฝังเข็ม คิดถึงช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ที่บ้านชานเมือง ก็อดไม่ได้ที่จะอยาก หากสามารถใช้ชีวิตที่สงบแบบนั้นได้ คงจะดีไม่น้อย
“ดูเจ้าสิ พอพูดถึงฮวงซู เจ้าก็เหมือนกับมดได้กินน้ำตาล หวานมากไหม?” อ๋องเหลียงล้อเล่น
หลีโม่รีบดึงความคิดตัวเองกลับมา เห็นเขาพูดถึงแต่เรื่องงานแต่งระหว่างนางกับอ๋องซื่อเจิ้ง นางจึงถามขึ้นว่า “ในใจท่านอ๋องไม่คิดอะไรกับเรื่องที่ข้าเคยปฏิเสธการแต่งงานกับท่านจริงๆหรือ?”
“ให้อภัยเจ้าแล้ว เคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ?” อ๋องเหลียงโบกไม้โบกมือ “ข้าไม่เหมือนผู้หญิงอย่างพวกเจ้าหรอก ขี้ใจน้อย บอกว่าให้อภัยก็คือให้อภัยแล้ว ไม่กลับคำไปมาหรอก เมื่อกี้เจ้ายิ้มอะไรหรือ?”
หลีโม่จึงตอบว่า “นึกถึงเมื่อครั้งที่ข้าเพิ่งเจอท่านอ๋อง ตอนนั้นท่านอ๋องนั่งอยู่บนหลังม้าเตรียมตัวมาสู่ขอข้า ในตอนนั้น ในใจข้ายังมีความรู้สึกว่าท่านอ๋องน่ากลัวมาก แต่ตอนนี้เมื่อได้รู้จักแล้ว รู้สึกว่าท่านอ๋องไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่เขาร่ำลือกัน คำร่ำลือนั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก”
อ๋องเหลียงถอนหายใจ “คำร่ำลือมีอะไรน่ากลัว? ไม่ฟังไม่รับรู้ก็จบ”
เขายกหัวขึ้น “เรื่องเมื่อคืน ข้าได้ข่าวแล้ว มารดาของเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หลีโม่อึ้ง “ท่านอ๋องทราบได้อย่างไร?”
“มีอะไรน่าแปลก? ในเมืองนี้เป็นเพียงเมืองเล็กๆ เรื่องไม่ดีกระจายเร็วจะตาย”
หลีโม่คิดๆดูแล้วก็จริง ตอนนี้จวนเฉิงเสี้ยงเป็นที่สนใจกันอย่างมาก มีดวงตามากมายแค่ไหนที่กำลังจับตามองอยู่ก็ไม่รู้? เรื่องเมื่อคืนยิ่งเดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่สำนัก เดือดร้อนกันใหญ่โตขนาดนี้ อยากปิดก็ปิดไม่มิด
“ใช่ค่ะ ขอบใจที่ท่านอ๋องเป็นห่วง มารดาของข้าไม่เป็นไร”
ในระหว่างทำการรักษา มีข้ารับใช้เดินเข้ามา “ท่านอ๋องจวนเฉิงเสี้ยงให้คนส่งการ์ดเชิญมา แจ้งว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของนายหญิงแก่ เรียนเชิญท่านอ๋องกับรองพระสนมไปร่วมงาน ”
“เอามาดูสิ” อ๋องเหลียงยื่นมือรับเอาการ์ดมาเปิดดู “เจ้าไปแจ้งลี่เฟยให้ทราบ ถ้านางอยากไปก็ให้นางไป ถ้าไม่อยากไป หาคนส่งของขวัญไปให้ก็พอ”
หลีโม่ประหลาดใจอย่างมาก วันเกิดนายหญิงแก่? พรุ่งนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...