ตอนที่ 129 วันคล้ายวันเกิด
ถึงแม้ช่วงนี้จวนเฉิงเสี้ยงจะมีแต่เรื่องมากมาย และเป็นช่วงที่ตกที่นั่งลำบาก แต่ งานวันคล้ายวันเกิดของนายหญิงแก่ ก็ยังมีคนมาร่วมอวยพรไม่น้อย
แต่ที่มาเพราะคุยกันไว้ หรือมาเพราะอยากดูอะไรสนุกๆนั้น ไม่อาจทราบได้
เสี้ยเฉิงเสี้ยงได้เรียนเชิญอ๋องฉีราชทูตแห่งเป่ยโม่ นายหญิงแก่ก็เรียนเชิญชุยไท่เฟย รายชื่อแขกผู้มีเกียรติในวันนี้ มีมากกว่าในวันงานแต่งของหลีโม่กับอ๋องเหลียงอย่างมาก
ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด ก่อนที่แขกจะมาร่วมงาน หลีโม่กับหลี่ซื่อล้วนจะต้องมาอวยพรนายหญิงแก่ก่อน ทุกคนในครอบครัวทานเส้นหมี่อายุยืนร่วมกัน นี่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกๆปี
ปีนี้หลานหยู้กูกูคนใช้ในห้องของนายหญิงแก่ก็มาแต่เช้า ให้หลีโม่กับหลี่ซื่อไปอวยพรวันเกิดก่อน
“สายตามารดาไม่สะดวกที่จะไป ข้าไปคนเดียวก็พอ” หลีโม่พูดขึ้น
หลานหยู้กูกูตอบว่า “คุณหนูใหญ่ คำสั่งของนายหญิงแก่คือให้ฮูหยินไปด้วย”
“ข้าบอกว่าสายตานางไม่สะดวกที่จะไป ไม่ไป เจ้าไม่ได้ยินหรือ?” หลีโม่พูดขึ้นเสียงดัง
หลานหยู้กูกูไม่ได้เกรงกลัว พูดขึ้นเยือกเย็นว่า “คุณหนูใหญ่ตะคอกใส่คนใช้อย่างพวกเราจะมีประโยชน์อะไร? แน่จริงไปตะคอกใส่นายหญิงแก่โน้น นี่เป็นคำสั่งของนายหญิงแก่ หวังว่าคุณหนูใหญ่จะจำไว้ว่า ต่อให้วันหนึ่งคุณหนูใหญ่จะกลายเป็นพระฉายาซื่อเจิ้ง แต่ตอนนี้ยังเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนเฉิงเสี้ยง ยังต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของนายหญิงแก่ ยังต้องเคารพเรียกท่านว่าจู๋หมู่”
หยางมามาได้ยินคำพูดนี้ จึงตอบกลับอย่างเยือกเย็นว่า “เจ้ายังรู้ว่านางเป็นคุณหนูใหญ่อยู่หรือ? มีคนใช้ที่ไหนพูดจาแบบนี้กับคุณหนูใหญ่ไหม? ก็มีแต่จวนเฉิงเสี้ยงนี้แหละ หากอยู่ในวัง กูกูที่แก่ๆและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอย่างเจ้า สมควรถูกจับออกไปโบยสามสิบทีเชียว”
หลานหยู้กูกูไม่ได้เกรงกลัวหยางมามาอยู่แล้ว “ใช่สิ หยางมามาก็รู้ว่าถ้าอยู่ในวัง แต่ตอนนี้อยู่จวนเฉิงเสี้ยง ในจวนเฉิงเสี้ยงนี้ นายหญิงแก่มีอำนาจที่สุด หากไม่ฟังคำสั่ง ก็ไม่ต่างอะไรกับทาสรับใช้”
พูดจบแล้วก็จ้องมองหลีโม่ หันตัวเดินจากไป
หยางมามาโกรธจนตัวสั่น “จวนเฉิงเสี้ยงนี้ ช่างเหิมเกริมใหญ่แล้วนะ”
ก่อนที่นางจะมา ก็รู้ว่าหลีโม่อยู่ในจวนเฉิงเสี้ยงอย่างไม่เป็นสุข คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายขนาดนี้ แม้แต่คนใช้ ยังกล้าที่จะดูแคลนขนาดนี้
แต่เมื่อคิดถึงตอนที่นางออกจากวังมารับหลีโม่เข้าวัง สถานการณ์ก็ประมาณนี้เหมือนกัน
นางมองดูหลีโม่ เห็นนางไม่มีแม้อารมณ์โกรธ จึงถามขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ไม่โกรธเลยหรือ?”
หลีโม่ตอบอย่างราบเรียบ “มามา แค่นี้ก็โกรธแล้วหรือ? เจ้าช่างไม่มีความอดกลั้นเลย”
หยางมามาอึ้งเล็กน้อย ใช่ ที่จริงนางก็ได้ทำใจไว้บ้างแล้ว เมื่อโดนคนรับใช้นั่นพูดเย้ยสองสามคำ นางก็ทนไม่ไหวแล้ว รู้สึกผิดหวังกับตัวเองเหมือนกัน “ข้าใจร้อนเกินไปแล้วจริงๆ”
หลีโม่รู้ว่านางอยู่รับฮองเฮาได้ออกคำสั่งจนเคยชินแล้ว มาอยู่กับนางในจวนนี้ ต้องอดทนและยังต้องดูสีหน้าคนอื่นอีก เป็นธรรมดาที่จะไม่ชิน
“ไม่เป็นไร คนปากไม่ดีมักตายเร็วกว่าคนอื่น” หลีโม่หันตัวเดินเข้าไป “รบกวนมามาช่วยข้าแต่งตัวหน่อย ทาแป้งหนาๆหน่อย อย่าให้ใครเห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้า”
“รับทราบค่ะ” หยางมามาเดินตามเข้ามา
เมื่อเข้าไปแล้ว หลีโม่พูดกับหยางมามาเสียงดังว่า “มามา สายตามารดาไม่สะดวก งานเลี้ยงในคืนนี้คงไม่สะดวกที่จะไปร่วม แต่จะอุดอู้อยู่แต่ในห้องก็ไม่ดี ถ้าเจ้ามีเวลาก็พานางไปเดินเล่นข้างทะเลสาบนะ จะได้คลายเครียด”
“รับทราบค่ะ ข้าเข้าใจแล้วค่ะ” หยางมามาตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...