พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 141

สรุปบท ตอนที่ 141 นางเกลียดเจ้า: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

อ่านสรุป ตอนที่ 141 นางเกลียดเจ้า จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บทที่ ตอนที่ 141 นางเกลียดเจ้า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 141 นางเกลียดเจ้า

หยางมามาสาวเท้าเดินเข้ามา ยืนนิ่งอยู่ข้างกายหลีโม่

“คุณหนูใหญ่ เรื่องนี้เดาไม่ยาก พวกเราเป็นคนทำเอง” หยางมามากล่าว

“ทุกคนต่างรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ” หลีโม่กล่าว

หยางมามาปรายตามองหลีโม่ รู้สึกว่านางเปลี่ยนไปอีกครั้งแล้ว ดูพิจารณาถี่ถ้วนกว่าเมื่อก่อนมาก

หลีโม่ไม่เคยลืมฐานะของหยางมามา นางเป็นคนของฮองเฮามาแต่ไหนแต่ไร แต่ที่หยางมามาให้ความร่วมมือในครั้งนี้ ก็บังเอิญเป็นเพราะฮองเฮาพอดี

ฮองเฮาไม่โปรดปรานเสี้ยโล่เยว่ การเปิดเผยฐานะของเสี้ยโล่เยว่ในครั้งนี้ พระชายาเสี้ยโล่เยว่ขององค์รัชทายาทคนนี้ทำไม่สำเร็จแล้ว

“มามา ช่วยข้าสักเรื่องหน่อยสิ” หลีโม่เงยหน้าขึ้น ความเจ็บปวดบนดวงหน้ามองดูสลัวๆ ไม่ค่อยชัดเจน

“คุณหนูใหญ่สั่งการมาเถิด” หยางมามาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ตรงไปตรงมา

หลีโม่กระซิบพูดเสียงเบา “ช่วยทำป้ายวิญญาณให้ข้าสักอัน”

“เขียนชื่อของผู้ใดรึเจ้าคะ” หยางมามาเอ่ยถาม

“เสี้ยหลีโม่” หลีโม่เอ่ยตัวอักษรออกมาสามคำ

หยางมามาตกใจเล็กน้อย “คุณหนูใหญ่รึเจ้าคะ?”

หลีโม่คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ในตากลับไม่ได้ยิ้มแม้สักนิดเดียว หม่นหมองราวกับพายุฝนมาเยือนบนขอบฟ้า “ข้าอยากจะใช้มันเตือนใจตัวเอง ตักเตือนตัวเอง อันตรายมีอยู่ทุกที่บนโลกมนุษย์ แม้แต่ญาติสนิทมิตรสหายก็สามารถจัดการเจ้าให้ตายตกได้ ”

ใช้ป้ายวิญญาณมาเตือนใจตนอย่างนั้นรึ? หยางมามารู้สึกไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง ทำเช่นนี้ไม่เท่ากับสาปแช่งให้ตัวเองตายหรอกหรือ?

หยางมามาเอ่ยกระซิบเสียงเบา “คุณหนูใหญ่มิจำเป็นต้องทำเช่นนี้”

หลีโม่เอ่ยตอบอย่างหนักแน่น “มามาทำตามที่ข้าสั่งก็พอแล้ว”

หยางมามานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าค่ะ”

หลีโม่เงยหน้าขึ้น มองไปยังต้นกุ้ยฮวาที่ตั้งอยู่ในสวน “มามา เจ้าว่าสถานการณ์ทางนั้นในตอนนี้เป็นเช่นไรบ้าง?” คนไม่ตาย ย่อมไม่หวนกลับไปแก้แค้น หลีโม่ไม่คิดจะไปราวีหลิงหลงฮูหยินและเสี้ยโล่เยว่ เป็นพวกนางสองแม่ลูกกับองค์รัชทายาทซือถูเย่ต่างหากที่คอยแต่จะสังหารนางให้ตายแดดิ้นเสียให้ได้

ยังมีเสี้ยห้วยจุนอีกคน

ตอนที่นางเพิ่งจะข้ามเวลามานั้น ข้างหูของนางมากจะได้ยินเสียงร้องไห้เศร้าอาดูร นางรู้ว่านั่นไม่ใช่เพ้อฝัน แม้จะดูเหมือนเรื่องเหนือธรรมชาติเล็กน้อย แต่นางรู้ว่านั่นเป็นเสียงร้องไห้ของเจ้าของร่างเดิมที่ไม่ไปไหน

“ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่ หลุมฝังศพนี้พวกเขาล้วนขุดด้วยตัวเอง”

หลีโม่พยักหน้า “ใช่แล้ว ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับข้า จริงสิ ทางฮูหยินเฉินเอ้อให้เงินพวกเขาไปเพียงพอหรือยัง? ให้นางรีบพาลูกของนางออกไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคนจับผิดลูกของนาง”

“เฉินเอ้อเป็นคนชั้นต่ำ ลูกของเขาถูกคนจับผิดมานานแล้ว วางใจเถิดเจ้าค่ะ เหล่าหนูจัดการให้พวกเขาออกจากเมืองหลวงไปเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ให้เงินติดตัวไปร้อยสองร้อยตำลึง เพียงพอให้พวกเขาสามแม่ลูกได้ซื้อบ้านสักหลังไว้ทำการค้าขายใช้ชีวิตได้สบายไปอีกนานเจ้าค่ะ”

อีกด้านหนึ่งก็มีคนตบตีจนเมื่อยมือ โยนรองเท้าพร้อมตะโกนเสียงดังว่า “เจ้ารีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ เจ้าดูถูกลานเสี้ยจื้อของพวกเรา ลานเสี้ยจื้อก็ไม่ต้องการเจ้าเช่นกัน”

พูดจบ ก็นึกถึงรองเท้าที่ตนขว้างออกไป ก็รีบเข้าไปเก็บมาใส่เท้าดังเดิมทันที

นายหญิงแก่ที่นั่งอยู่ในห้อง หลานหยู้กูกูจุดกล้องยาสูบให้นายหญิงแก่ ทั้งหยิบน้ำมันสะระแหน่มานวดคลึงหน้าผากให้นายหญิงแก่ พูดปลอบใจเสียงเบา “นายหญิงแก่โปรดยับยั้งความโกรธสักหน่อยนะเจ้าคะ อย่างไรร่างกายย่อมสำคัญกว่า”

นายหญิงแก้พ่นควันออกมา จากนั้นก็ขว้างลงบนพื้นอย่างแรง “ยับยั้งความโกรธรึ? เจ้าบอกข้าทีว่าควรจะยับยั้งความโกรธเช่นไร?”

นางจ้องเขม็งไปยังหลิวซื่อกับหลิงหลงฮูหยิน เกลียดจริงๆ เดิมทีก็พร้อมใจกันหันกระบอกปืนออกด้านนอก คิดไม่ถึงเลยว่านางจะคิดวิธีสกปรกออกมาเช่นนี้ไว้อย่างดีแล้ว

ทั้งร่างของหลิวซื่อแทบไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ถูกเขาลากออกไปจากประตูอย่างแรง

เฉิงเสี้ยงเสี้ยหันกลับไปจ้องหลิงหลงฮูหยิน ใบหน้านั้นยังคงความดุร้ายเอาไว้เช่นเดิม หลิงหลงฮูหยินกลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ “ท่านได้ยินท่านหมอพูดเช่นไรนั้น ไม่ผิด เมื่อก่อนข้าเคยอยู่กับเฉินเอ้อเหยจริงๆ แต่ว่า เด็กนั่นข้าก็ไม่ได้คลอดมันออกมา ข้ากินยาแท้งครรภ์ก่อนแล้ว”

สุ้มเสียงของเฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่มีความอ่อนโยนแฝงอยู่เลยแม้แต่น้อย สายตายังคงทำให้คนที่มองตกใจกลัว “เจ้าไสหัวออกไปก่อน ดูแลปลอบโยนโล่เยว่ให้ดี อย่าทำให้นางตกใจกลัว”

ซูหลิงหลงหวาดกลัวท่าทางเช่นนี้ จึงรีบออกไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ความรู้สึกอึดอัดยังคงจุกอยู่ที่ลำคอ เขาเชื่อหรือไม่เชื่อ? เมื่อครู่นี้ให้นางไปดูแลปลอบใจโล่เยว่ เห็นชัดๆ ว่าเขายังให้ความสำคัญโล่เยว่อยู่

เฉิงเสี้ยงเสี้ยก็ให้หลานหยู้กูกูออกไปเช่นกัน พอประตูปิดลง ก็เหลือเพียงพวกเขาสองแม่ลูกที่อยู่ในห้อง

เขาหยิบกล้องยาสูบขึ้นมา ใส่ยาเส้นเข้าไปใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็ส่งให้นายหญิงแก่ จุดไฟให้ด้วยตนเอง “ท่านแม่ สูบเข้าไปอีกสองทีขอรับ”

นายหญิงแก่ชำเลืองมองเขา พ่นลมหายใจของมายาวๆ สูบลมหายใจเข้าไปอีกครั้ง ยาเส้นนั้นเกิดไฟสีแดงออกมาบ่งบอกถึงการเผาไหม้ของมัน เผาไหม้เหมือนกับในตาลึกๆ ของนาง

นางค่อยๆ พ่นควันบุหรี่ออกมาเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เจ้าทำถูกแล้ว ตอนนี้พวกเราไม่มีโอกาสอะไรอีกแล้ว คนอื่นคาดเดาเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน แต่พวกเราจะต้องยอมรับเสี้ยโล่เยว่ อย่างไรนางก็เป็นลูกสาวของเจ้า ไม่เพียงแค่นั้น ยังต้องให้เสี้ยโล่เยว่ไม่ต้องสงสัยฐานะของตัวเองอีก

เฉิงเสี้ยงเสี้ยลากขาลากสะโพกมานั่งบนเก้าอี้ เขามองไปยังกลอนประตูบนประตูไม้ กลอนประตูยาวนั่นดูเหมือนความอึดอัดที่อยู่ในหน้าอกของเขา เวลาที่เข้าหายใจจึงทำให้รู้สึกลำบากไม่น้อย

เขาเริ่มหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของเขาตามมาด้วยเสียงหอบหายใจ “ในจวนหลังนี้ มีเพียงเสี้ยหลีโม่ที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของข้า และข้ากลับคิดแต่จะสังหารนางตลอดมา”

นายหญิงแก่ยังคงสูบบุหรี่อยู่เช่นเดิม ไม่พูดไม่จา แต่ใบหน้ากลับดูกลัดกลุ้มอย่างยิ่ง

หลังจากเสียงหัวเราะของเฉิงเสี้ยงเสี้ยสิ้นสุดลง ก็ปรายตามองไปที่นายหญิงแก่ด้วยสายตาโศกเศร้าอาดูร “ท่านแม่ ท่านว่าข้าทำผิดหรือไม่? ข้าควรจะปฏิบัติต่อเสี้ยหลีโม่.....”

เขาไม่พูดต่อให้จบประโยค ระดับความเป็นไปได้นี้ทำให้เขารู้สึกว่ามันเหลวไหลสิ้นดี

นายหญิงแก่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “หากเป็นเมื่อครึ่งปีก่อน ทุกอย่างยังพอเป็นไปได้ แต่เสี้ยหลีโม่ในตอนนี้เกลียดเจ้าเข้ากระดูก นางยังจะรักเจ้าอยู่หรือ? นางมีแต่จะแก้แค้นเจ้า เพราะนางเกลียดเจ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม