ตอนที่ 142 ข้าเกลียดท่านแม่
เฉิงเสี้ยงเสี้ยเงยหน้าขึ้นมา ราวกับกลืนอากาศเข้าไปคำใหญ่ ลำคอยืดตรง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและโกรธายากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ “แต่ว่า ข้าเป็นพ่อแท้ๆ ของนางมาโดยตลอด ไม่ใช่หรืออย่างไร? เรื่องนี้นางไม่สามารถปฏิเสธได้”
นายหญิงแก่โมโหมาก “เรื่องมันมาถึงขนาดนี้ เจ้ายังทำตัวไร้เดียงสาอีกหรือ? เจ้าคิดจริงๆ หรือว่า เมื่อถูกบังคับให้แต่งงาน วางยาเพื่อลอบสังหาร หลังจากวางแผนทำร้ายต่างๆ นานา นางจะยังยอมรับว่าเจ้าคือพ่อแท้ๆ อยู่? นางยังจะหวนคืนกลับมาหาเจ้าหรือไม่? หากนางคิด วันนี้นางคงไม่ปล่อยให้เจ้าเสียหน้าเช่นนี้หรอก”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยใช้สองมือเช็ดหน้า ภายในเวลาอันสั้นเขาดูแก่ลงไปเป็นสิบปี “นางเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของข้า”
นายหญิงแก่ลุกพรวดขึ้นมาในทันที ก้าวเข้าไปตบบ้องหูของเขาหนึ่งที “ไม่ใช่ ตอนนี้เจ้าไม่มีลูกสาวแม้แต่คนเดียว นางเองก็ไม่ใช่ลูกสาวของเจ้า ตั้งแต่ที่เจ้าบังคับให้นางแต่งงาน นางก็กลายเป็นศัตรูกับเจ้าแล้ว นางคิดวางแผนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก็เพื่อจัดการสังหารเจ้าให้ตายตกไป”
สีหน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ยยิ่งดูเจ็บปวดมากขึ้น ชั่วขณะนั้นความเจ็บปวดก็เข้ามากระตุ้นเขา ทำให้เขานึกถึงสายตาที่เยือกเย็นนั้นของนาง ดวงหน้านั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“เมื่อก่อนเจ้าหลงใหลเพียงซูหลิงหลง หลายปีมานี้มีนางเป็นอนุภรรยาเพียงคนเดียวของเจ้า ลูกหลานย่อมมีน้อย เจ้ายังหนุ่มยังแน่น ยังสามารถแต่งภรรยาได้อีกหลายบ้าน เพื่อผลิดอกออกใบออกผลให้เจ้า” นายหญิงแก่ค่อยๆ นั่งลง สายตาแฝงไปด้วยความเยือกเย็น “ดังนั้น ไม่ว่าเสี้ยโล่เยว่จะเป็นหน่อพันธุ์ของผู้ใด ตอนนี้นางเป็นเพียงลูกสาวของเจ้า ฮองเฮาเหนียงเหนียงได้ประกาศพระราชโองการการแต่งการลงมาแล้ว เจ้าคือว่าที่พ่อตาของฮ่องเต้ในอนาคต และเป็นเฉิงเสี้ยงของราชวงศ์ในปัจจุบัน เส้นทางอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด เหล่าลูกชายในวันข้างหน้าของเจ้า จะได้สืบต่อความรุ่งโรจน์ของเจ้า วงศ์ตระกูลของจวนเฉิงเสี้ยงจะได้มีเกียรติคุณสืบไป เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยท่าทางดูอ่อนลง ราวกับได้สติขึ้นมา
“เมื่อก่อนแม่เคยบอกกับเจ้าว่า ความฉลาดของฮ่าวหรานนั้นใช้ไม่ได้ จึงให้เจ้าแต่งเมียเพิ่มมาอีกสักบ้าน แต่เจ้ากับเป็นห่วงแต่ซูหลิงหลง กลัวว่านางจะเสียใจ เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์ตั้งหลายปี ดูเจ้าตอนนี้สิ คนที่เจ้ารักเจ้าหลงมาตลอดหลายปีนี้เป็นหญิงเช่นไร?”
พูดถึงเสี้ยฮ่าวหราน เฉิงเสี้ยงเสี้ยถึงนึกขึ้นได้ว่าเขายังอยู่ในวังหลวง เขาแค่นเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง “หมุยเฟยบีบบังคับเสี้ยฮ่าวหรานให้อยู่ในวังหลวงตลอด ตายไปเสียได้ก็ดี เสียสติได้ยิ่งดี ทางที่ดีในชาตินี้อย่าให้ข้าได้เจอเขาอีกเลย”
เดิมทีนายหญิงแก่ยังมีความสงสารเสี้ยฮ่าวหรานอยู่บ้าง แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกหลานของตน ความรู้สึกส่วนนี้ย่อมไม่มีอยู่แล้ว ก็พูดออกมาด้วยสุ้มเสียงที่เย็นชาว่า “หากหมุยเฟยจะส่งเขากลับมา เมื่อถึงเวลานั้น ก็คิดหาวิธีส่งตัวเขากลับบ้านเกิด ก็จะลดสิ่งกวนใจลงไปได้ไม่น้อย สังหารเขานั้นย่อมทำไม่ได้ ตอนนี้เจ้ายังไม่สามารถทำให้โล่เยว่สงสัยได้ มิเช่นนั้นหากนางรู้ว่านางไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเจ้า วันข้างหน้าแม้นางจะเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท เจ้าก็ไม่สามารถหาประโยชน์อะไรจากนางได้”
“ลูกทราบดีขอรับ” เขาเหลือบสายตาที่โหดร้ายขึ้นมา “ส่วนเรื่องการหาอนุภรรยา คงต้องขอรบกวนท่านแม่ช่วยจัดการหาให้แล้ว”
“หากเจ้าอยากให้จวนสงบสุขในภายภาคหน้า เสี้ยหลีโม่จะต้องอยู่ที่นี่ไม่ได้ ส่วนหลี่ซื่อ เจ้าคิดหาวิธีเองเถอะ การหย่าร้างย่อมทำไม่ได้ เหตุผลเจ็ดข้อในการขอหย่าภรรยาไม่มีสักข้อที่สามารถใช้ได้ หากเจ้าอยากหย่า คนอื่นอาจจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ จวนเฉิงเสี้ยงของพวกเราในตอนนี้ถูกตำหนิมากพอแล้ว ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยพยักหน้า “ท่านแม่พูดถูกแล้ว ตอนนี้เสี้ยหลีโม่เกลียดข้าเข้ากระดูก จะเก็บนางเอาไว้ไม่ได้ หากนางเอาความเกลียดชังที่ถูกบังคับออกเรือนไปกับอ๋องซื่อเจิ้งนี้ มาขัดขวางเส้นทางในการเป็นขุนนางของข้า ข้าจะต้องคิดหาวิธีกำจัดนางออกไปให้สิ้นซาก”
“คิดหาวิธีอื่นเถอะ อยู่ในจวนนี้ จัดการนางไม่ได้หรอก” ใบหน้าที่ดูฉลาดหลักแหลมของนายหญิงแก่ ตอนนี้มีความเหนื่อยล้าเล็กน้อย นางชอบเอาชนะคน เดิมทีคิดว่าการกำจัดเสี้ยหลีโม่นั้นเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ ดังนั้น จึงยกเรื่องนี้ให้ซูหลิงหลงเป็นคนทำ นางประเมินซูหลิงหลงสูงเกินไป และประเมินเสี้ยหลีโม่ต่ำเกินไปด้วย
เมื่อนางคิดจะลงมือด้วยตัวเอง แต่กลับพบว่าเสี้ยหลีโม่แข็งแกร่งมากเกินไป แม้แต่ตัวเองก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้
ณ ลานเสี้ยจื้อ
หลีโม่ตรวจดูอาการของหลี่ซื่อเพราะว่าบาดแผลที่สมองมีก้อนเลือดกดทับเส้นประสาทส่วนตาเอาไว้ วิธีรักษาด้วยการฝังเข็มสำหรับการสลายเลือดคั่งยังนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก
หลี่ซื่อนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอน หลีโม่ก็ทำการฝังเข็มให้นาง
หยางมามายืนมองอยู่ด้านข้าง เห็นสองแม่ลูกดูเหมือนไม่มีเรื่องจะพูดคุยสนทนากันในวันนี้ จึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ฮูหยิน ท่านคิดว่าเสี้ยห้วยจุนจะขับไล่สองแม่ลูกเสี้ยโล่เยว่กับซูหลิงหลงนั่นออกไปจากจวนหรือไม่เจ้าคะ?”
หลี่ซื่อพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่หรอก”
หยางมามาตกใจเล็กน้อย “ไม่รึเจ้าค่ะ? อับอายขายขี้หน้าขนาดนี้ เสี้ยห้วยจุนทนได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...