ตอนที่ 148 ท่านอ๋องขี้บ่น
ซุนเฟยโมโหมาก นางจึงหยิบถ้วยชาอีกใบบนโต๊ะ คิดจะฟาดมันไปทางศีรษะของหลีโม่ แต่ว่าหลีโม่เดินเร็วมากจึงหลบเศษแก้วเหล่านั้นได้ ทำสายตาดุดันแล้วพูดว่า “เจ้าลองอีกทีดีไหม?”
ซุนเฟยคิดไม่ถึงว่านางจะกล้าถึงขนาดนี้ ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นสายตาของนางก็เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง
และในช่วงจังหวะสำคัญนี้ ซือถูเย้นกับจิ่นเฉิงก็เข้ามา
ซุนเฟยเปลี่ยนท่าทางที่กำแหงและเย่อหยิ่งเป็นการขอความช่วยเหลือที่น่าสงสาร “ท่านอ๋องช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ”
ซือถูเย้นเดินมาอย่างรวดเร็ว สายตาพลันเปลี่ยนเป็นเดือดดาลและบ้าคลั่งทันที พูดอย่างดุดันว่า “วางลง”
เขาผลักหลีโม่ออกไป หลีโม่ที่ถูกเขาผลักอย่างรุนแรงก็ยืนได้ไม่นิ่งเซไปเซมา เกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น หลังจากพยายามยืนให้นิ่งแล้ว ก็ถอยออกไปด้านข้างด้วยสายตาเย็นยะเยือก หรือว่าเขาจะปกป้องพระชายารองของเขา ไม่ใช่กระมัง? นางมารร้ายผู้นี้ต้องการจะทำร้ายผู้หญิงของเขา คงจะเจ็บปวดใจใช่หรือไม่?
“ท่านอ๋อง...” ซุนเฟยดวงตาแดงก่ำ คิดจะเข้ามาแอบอิงซบไหล่ท่านอ๋อง ซือถูเย้นกลับหยิบแก้วในมือของนางขึ้นมา พูดอย่างเดือดดาลว่า “วางลงเดี๋ยวนี้ ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องแก้วของข้า?”
ในขณะที่เขามองไปที่เศษแก้วที่แตกเป็นเสี่ยงๆ บนพื้น หน้าก็เขียวคล้ำขึ้นมาทันที หันกลับไปพูดด้วยความเดือดดาลว่า “ซุนเฟย เจ้าบังอาจมากนะ”
จิ่นเฉิงเข้ามาดูใกล้ๆ หน้าก็เปลี่ยนสีเล็กน้อย “โอ้สวรรค์ นี่เป็นแก้วหยกมังกรขาวที่ฮ่องเต้องค์ก่อนประทานให้ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะตกมาแตกไม่เหลือชิ้นดีแล้ว”
ซุนเฟยได้ยินว่าเป็นของที่ฮ่องเต้องค์ก่อนประทานให้ ก็ตกใจจนหน้าซีด “ท่านอ๋องเย็นพระทัยก่อนนะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ทำแตกนะเพคะ เป็นนาง เป็นนางเพคะ...”
ซุนเฟยชี้ไปที่หลีโม่ พูดด้วยความเดือดดาลเสียงดังว่า “ท่านอ๋อง นางทำแตกเพคะ”
ซือถูเย้นตะโกนขึ้นด้วยความโกรธว่า “ไสหัวไป ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้”
ซุนเฟยเห็นสายตาที่ดุดันปานพายุใหญ่ที่บ้าคลั่ง ไหนเลยจะกล้าพูดต่อ? นางและเหล่าคนรับใช้ก็พากันเดินออกไปด้วยท่าทางหวาดกลัว
หลังจากที่ซุนเฟยเดินไปแล้ว ซือถูเย้นมองไปที่หลีโม่ “เจ้าโง่นักหรือ?”
หลีโม่ตะลึงงันครู่หนึ่ง “หม่อมฉันไม่ได้โยนนะเพคะ นางต่างหากที่โยน”
ซือถูเย้นโยนแก้วลงบนโต๊ะ แก้วนั่นก็กลิ้งไปหลายตลบ เกือบจะตกลงไปบนพื้น หลีโม่ตกใจจนแทบจะบินเข้าไปปกป้องแก้วนั้นเอาไว้ โชคดีที่ไม่ตกลงมา แต่ก็ทำให้นางตกใจจนเหงื่อไหลท่วมตัว
คนผู้นี้ก็จริงๆ เลย เหตุใดต้องหงุดหงิดขนาดนี้? แก้วที่ทรงคุณค่าเช่นนี้ จะโยนใส่โต๊ะตามอำเภอใจได้อย่างไร? ถ้าแตกไปอีก แม้ใบเดียวก็ไม่มีแล้ว
จิ่นเฉิงก็เก็บเศษแก้วที่แตกออกเสี่ยงๆ ขึ้นมา “เป็นแก้วที่ดีมาก ข้าน้อยใช้เงินไปตั้งสิบตำลึงซื้อมาแหนะ”
“...” หลีโม่หยิบแก้วใบนั้นขึ้นมา หน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำทันที
คิ้วคมยาวของซือถูเย้นเลิกคิ้วขึ้นสูง แค่นเสียงเย็นชาหนึ่งที “บอกว่าเจ้าโง่เขลายิ่งนักยังไม่ยอมรับอีกรึ?”
หลีโม่มองเขาอย่างไม่พอใจนัก “เป็นความผิดของข้างั้นรึ?”
ใครจะไปรู้ว่าที่เขาพูดมาจริงหรือเท็จ? เข้ามาก็โหวกเหวกโวยวายให้วางลงๆ นางในตอนนั้นขวางทางซุนเฟยอยู่ เป็นธรรมดาที่ซุนเฟยจะโจมตีนาง
อีกทั้งเขาเป็นคนบอกเองว่าแก้วนั่นเป็นฮ่องเต้องค์ก่อนประทานให้ ทั้งนางไม่รู้ว่าเป็นของที่จิ่นเฉิงใช้เงินสิบตำลึง “จำนวนเยอะมาก” ซื้อมา จะมาโทษนางว่าโง่ได้อย่างไร?
เขาหรี่ตาขึ้น มองไปที่ตัวของนางเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งตัว อีกทั้งหลังมือด้านขวาของนางถูกลวกจนเป็นรอยแดง สายตาก็เดือดดาลจนลุกเป็นไฟ จากแก้วชาจนถึงกาน้ำชาจนไปถึงแผลโดนลวกของนาง เขาก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ส่ายหัวอย่างผิดหวังแล้วพูดว่า หากเจ้าเป็นเช่นนี้ หากอยู่ในตำหนักของข้า มีสิบชีวิตก็ไม่พอให้เจ้าใช้ ฉลาดขึ้นหน่อยก็ได้กระมัง?
หลีโม่จะไปคาดคิดได้อย่างไรว่าซุนเฟยจะมา?
แต่สิ่งที่เขาพูดมานั้นก็ไม่ผิด นางประมาทเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...