พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 202

ตอนที่ 202 ค่อยๆบีบคั้น

เหลียงซื่อกำลังพูดอยู่ดีๆ ทันใดนั้นก็คิดอะไรได้จึงถามซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยว่า “ใช่ล่ะ ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าสินสอดที่ส่งไปต้องเอากลับมาคืนส่วนหนึ่ง แล้วส่วนหนึ่งนั้นเอากลับมาหรือยัง?”

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยยังไม่รู้ว่าทำไมนางถึงถามเรื่องนี้ แต่ก็ตอบอย่างอ้อยอิ่งว่า “ก็อยู่ในห้องด้านข้างไม่ใช่หรือ? ไฟไหม้หมดแล้ว”

ก่อนที่จะจัดการวางแผนไฟไหม้ นางได้ใช้ให้คนไปขนสิ่งของมีค่าออกมาหมดแล้ว

เหลียงซื่อจ้องมองปิ่นปักผมบนหัวนาง “ปิ่นปักผมนี่ก็คือหนึ่งในสินสอดนั่นไง ข้าเป็นคนเอาใส่ในหีบสินสอดด้วยตัวเอง ถ้าโดนไฟเผาหมดแล้ว ทำไมเจ้ายังเอาออกมาใช้ได้?”

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยยื่นมือลูบปิ่นปักผมของตน สีหน้าตึงเครียด “อันนี้......ใช่หรือ? อันนี้ใช่หรือ?”

“ไม่ผิดแน่ สินสอดของเจ้าผ่านมือข้าทุกชิ้น ที่ประดับบนหัวเจ้าวันนี้ ล้วนเป็นชิ้นที่ข้าสั่งช่างเร่งทำทั้งวันทั้งคืนกว่าจะเสร็จ” เหลียงซื่อมองหน้านางแล้วพูดขึ้น

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยนิ่งงัน เพิ่งพูดไปว่าไฟไหม้หมดแล้ว จะให้พูดอีกว่าจำผิดก็ไม่ได้? หากยอมรับรับว่าไม่ได้โดนไฟไหม้ ก็เป็นการยอมรับต่อหน้าทุกคนว่าตนเองตั้งใจซ่อนไว้?

อีกอย่าง สินสอดที่ต้องเอากลับมาคืนก็เป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว นางพูดขึ้นมาแบบนี้ ช่างทำให้ลำบากใจยิ่งนัก ผู้อาวุโสที่นั่งอยู่ทุกคนต่างไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“สินสอดทั้งหมดถูกเก็บไว้ในเรือนด้านข้าง เมื่อตอนที่ข้ากับคุณหนูใหญ่เข้าไปตรวจเช็ค สินสอดทั้งหมดก็ต้องอยู่ด้านใน เมื่อหลังจากที่ข้าเอาออกมาส่วนหนึ่ง ที่เหลือเจ้าถึงสามารถเก็บเข้าคลังตัวเอง ไม่ใช่หรือ? แต่ตอนที่ไฟลุกไหม้ ข้ากับคุณหนูใหญ่ไม่ได้ออกไปไหน จนไฟมอดไหม้เสร็จ เรือนทั้งหลังก็ไหม้หมด ขอถามหน่อยว่า เครื่องประดับพวกนี้กระโดดออกมาได้ยังไง?” เสียงของเหลียงซื่อดังขึ้นอย่างโกรธเคือง

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยตื่นตระหนก จนลิ้นพันกัน อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ยอมรับว่า “ข้าแบ่งสินสอดไว้เองส่วนหนึ่ง ป้ารองไม่รู้เอง”

“เจ้าเอาไปส่วนหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมข้าไม่รู้? ในวันแต่งเจ้านอกจากช่วงพิธีที่ข้าไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้า หลังจากนั้นข้าก็อยู่กับเจ้าตลอด” เหลียงซื่อถามอย่างคาดคั้น

“อันนี้ อันนี้....” ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยครุ่นคิดอย่างสุดขีด กำลังคิดว่ามีช่วงไหนที่เหลียงซื่อไม่ได้อยู่กับตน

“ไต้เท้าไท้เป่า” เหลียงซื่อพูดขึ้น “เรื่องนี้ยังมีข้อที่น่าสงสัย ขอให้ท่านสืบดูอย่างกระจ่าง สินสอดทั้งหมด ข้ามั่นใจว่าเมื่อส่งไปถึงแล้วทุกชิ้นล้วนเก็บไว้ในเรือนด้านข้าง หีบเครื่องประดับมีกุญแจล็อกไว้ มีข้าคนเดียวที่มีกุญแจ แน่นอน กุญแจสามารถทุบได้ แต่จะทุบกุญแจในวันแต่งงานเพื่อขนเอาสินสอดบางส่วนไปไม่น่าแปลกหรือ? หากไม่เอาไปบางส่วนก็ยกไปทั้งหีบ แล้วทำไมต้องยกหีบเครื่องประดับไป? วางไว้ในเรือนด้านข้างก็ไม่มีคนเฝ้า เพราะนางรู้ว่าจะเกิดไฟไหม้ เมื่อไฟไหม้หมดแล้ว เครื่องประดับพวกนี้ก็จะถูกเผาทิ้งหมด”

“ป้ารอง ข้าไม่ได้คิดที่จะทำร้ายท่านจริงๆ ท่านอย่าคิดมาก หากท่านไม่ยินยอมที่จะยกเครื่องประดับพวกนี้ให้ข้า ข้าคืนให้ก็ได้” ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยพูดขึ้นอย่างน่าสงสาร

ไท้เป่าพูดกับเหลียงซื่ออย่างไม่ค่อยพอใจว่า “เอาล่ะ เจ้าช่างเอาเรื่องซะจริงๆ วันนี้ถ้าได้ถามให้ชัดเจน เจ้าคงไม่ยอมสินะ”

พูดจบ เขาก็มองดูซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย “ไหนเจ้าเล่าเหตุที่เกิดขึ้นในวันนั้นอีกรอบสิ ข้าจะเป็นคนให้ความยุติธรรม”

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยโดนเหลียงซื่อชักนำให้ตื่นตระหนก ตกใจ และไท้เป่าก็ให้นางเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นอีกรอบ นางจึงต้องตั้งสติรวบรวมสมาธิ เล่าเรื่องทั้งหมดอีกรอบ “....พิธียกน้ำชาที่ทำให้ข้าไม่พอใจข้าไม่ได้เก็บมาคิด เมื่อกลับไปถึงห้องหอ ป้ารองเห็นสีหน้าข้าไม่สบายใจจึงถามขึ้น ข้า.....” เมื่อนางพูดถึงตรงนี้ แล้วก็เริ่มงง ลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ตนได้พูดไปอย่างไร

หลังจากลังเลสักพัก ไท้เป่าจึงเตือนขึ้นว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าบ่นให้ฮูหยินรองฟัง”

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยพยักหัว “ใช่ค่ะ หลังจากที่ข้าบ่นให้ป้ารองฟัง ป้ารองก็คิดที่จะไปเอาเรื่องสั่งสอนหลีโม่ ข้าห้ามนางแล้ว แต่ห้ามยังไงก็ไม่เป็นผล”

ไท่เป่าก็แทรกพูดขึ้นมาอีกว่า “อืม หลังจากนั้นเมื่อเฉิงเสี้ยงมาหา เจ้าก็เล่าให้เฉิงเสี้ยงฟัง เฉิงเสี้ยงไม่สนใจ คิดว่าฮูหยินรองไม่น่ากล้าลงมือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม