พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 214

ตอนที่ 214 ข้าไม่ยอมให้เย้นเอ๋อร์แต่งกับนาง

คืนวันนั้น เป็นไปตามคาดฝนตกลงมาอย่างหนัก ลมพายุโหมกระหน่ำ เคล้าไปกับเสียงของฟ้าผ่า น้ำข้างๆของทะเลสาบเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกช่างและคนงานต่างช่วยกันขนของขึ้นที่สูงทั้งคืน ขนไปไหวบนห้องที่อยู่ตรงเฉลียง ฮูหยินหลิ่งหลงโกรธมากเหวี่ยงอย่างหนัก แต่พวกคนงานทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องขนไปไว้ที่ข้างสวนไผ่

หลีโม่ไม่รู้เรื่องพวกนี้ พวกช่างไม่ได้บอกอะไรนาง พอขนของเสร็จ ก็กลับไปพักผ่อนกันหมด

ฝนตกครั้งนี้ตกนานถึงกลางวันของวันที่สอง ประมาณช่วงเวลากลางวันถึงเริ่มซา รถม้าของซือถูเย้นพึ่งมาถึง เขามีเรื่องที่ทำให้ล่าช้าไปเล็กน้อย ตอนแรกนัดไว้ช่วงเช้าตรู่

หยางมาม่าก็ตามเข้าวังเช่นกัน

ตอนนางออกจากวัง นางได้ให้คำมั่นสัญญากับไทเฮาไว้ว่า จะกลับไปรายงานบ่อยๆ

เมื่อคืนซือถูเย้นได้สั่งให้คนเข้าวังไปแจ้งไทเฮาแล้ว ว่าจะพาหลีโม่เข้าวัง

ไทเฮาต้องรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อาศัยเวลาก่อนที่พวกเขาจะเข้าวัง สั่งให้หลิงกุ้ยไท่เฟยเข้าวัง

ตอนแรกกุ้ยไท่เฟยไม่อยากไป แต่ว่า ไทเฮาสั่งกำชับหนักแน่น ว่านางต้องเข้าเฝ้า

ทำอะไรไม่ได้ นางจึงต้องจำใจตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเข้าวัง

ขณะที่กุ้ยไท่เฟยจะเข้าวัง ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ไทเฮานั่งอยู่ห้องโถงใหญ่ตรงหน้าทางเดิน มองฝนที่เทกระหน่ำลงมาจนสาดไปที่ลานด้านใน เม็ดฝนสาดกระเส็นจนทำให้เสื้อนางเปียกหมด

ไทเฮาดูโทรมลงไปมาก วันนี้เปากงกงเข้ามารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นางเป็นห่วงหนักเข้าไปอีก

แต่เรื่องข้างนอกวัง นางคอยเฝ้าสังเกตมาตลอด เรื่องภายในของจวนเสี้ยง พูดได้ว่ายังคาดเดาสถานการณ์อะไรไม่ได้ การแก่งแย่งชิงดี ทำให้นางกลุ้มใจมาก

ยังมี เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวของนางกับอ๋องซื่อเจิ้ง ทำให้นางปวดหัวกลุ้มใจมาโดยตลอด

วันนี้ที่เรียกนางเข้าเฝ้า เพราะอยากใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายลองดูอีกสักตั้ง

นางมองเห็นซือจู๋กูกูเดินถือร่มบังฝนกับกุ้ยไทเฟยเดินเข้ามา ท่ามกลางลมพายุฝน ร่มคันนี้เปียกจนแทบต้านทานลมฝนไม่ได้ ข้างๆร่างของซือจู๋กูกูเปียกไปหมด แต่นางปกป้องกุ้ยไท่เฟยอย่างดี

กุ้ยไท่เฟยเดินไปที่ทางเดิน นางสวมชุดผ้าไหมสีเขียวโบราณปักด้วยดิ้นทองลายผักทองและดอกเก๊กฮวย ผมเผ้าประดับประดาอย่างสวยงามดุจเมฆ ใบหน้าแต่งแต้มงดงามหาใดเปรียบ รองเท้าปักด้วยลายดอกไม้ ข้างบนรองเท้าถูกปักด้วยลายดอกไม้ ชั้นนอกถูกฝนสาดจนเปียก ทำให้ด้ายทองดูหม่นๆ

“หม่อมฉันขอคารวะไทเฮา ขอให้ไทเฮาสุขภาพร่างกายแข็งแรง”กุ้ยไท่เฟยความเคารพอย่างอ่อนน้อม มารยาทพิธีรีตองครบถ้วนแต่กลับเรียบง่ายมากๆ

ไทเฮามองหน้านางครู่ใหญ่ จึงชี้ไปยังเก้าอี้พลางพูดขึ้น “เตรียมเก้าอีกไว้ให้เจ้า ไปนั่งเถอะ สนทนาเป็นเพื่อนเราหน่อย”

“เพคะ ขอไทเฮาโปรดชี้แนะ”กุ้ยไท่เฟยพูดเสร็จ ก็ย้ายตัวเองไปนั่งเก้าอี้ข้างไทเฮา นางไม่แสดงสีหน้าอะไร แต่ในใจกลับมีความไม่พอใจมาก เป็นอย่างนี้มาตลอด นางต้องเป็นคนที่นั่งได้แค่ข้างๆ

“วันนี้”ไทเฮาหันข้างมองไปที่นาง “เย้นเอ๋อร์จะพาเสี้ยหลีโม่เข้าวัง เหตุใดต้องมา เจ้ารู้แล้วใช่ไหม?”

กุ้ยไทเฟยก้มหน้าก้มตา พูดด้วยท่าทางนอบน้อม “ไทเฮาโปรดอธิบาย หม่อมฉันไม่รู้เพคะ”

ไทเฮาถอนหายใจเบาๆ “เจ้ากำลังทำให้เราโกรธอย่างนั้นเหรอ?”

“หม่อมฉันมิกล้าเพคะ!”

ไทเฮาย้ายสายตาไปจากหน้านาง ยื่นมือหนวดระหว่างคิ้วของตนเอง ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า “เราซ่อนเรื่องหลายเรื่องไว้ในใจมานาน ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน เราเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ยังวัยเยาว์ พวกเราพี่น้องสองคน ตั้งแต่เล็กจนโตความชื่นชอบก็เหมือนกัน เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หรือเจ้าจะชอบซ้อนเรื่องทุกอย่างไว้ในใจ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม