พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 215

ตอนที่ 215 ความทะเยอทะยานของผู้หญิง

ไทเฮาโกรธจนตัวสั่นไปหมด เงื้อมือขึ้น แทบอยากจะตบเข้าไปที่หน้านางฉาดใหญ่

นางอดกลั้นไว้ พูดอย่างผิดหวัง “เจ้ายังจำวินาทีที่ให้กำเนิดเย้นเอ๋อร์ได้ไหม เจ้าอุ้มเขาแล้วพูดกับข้าว่า บนโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าเขาอีกแล้ว เจ้าบอกนี่คือของขวัญที่สวรรค์ประทานให้เจ้า”

กุ้ยไท่เฟยแสยะยิ้ม ใช่แล้ว กำเนิดเขาแล้ว ฮ่องเต้ก็เลื่อนตำแหน่งให้นางเป็นกุ้ยเฟย เขาเป็นของขวัญที่ดีที่สุด จริงๆ

แต่ว่า สายตานางตอนนี้มีความรักมอบให้เขา เป็นความรักที่มีต่อชายคนนี้ ชาตินี้นางไม่รู้ว่า นางรักเขามากเท่าใด

ไทเฮาเห็นนัยน์ตาของความอบอุ่นจากนาง นึกว่าจะพูดให้นางรู้สึกตัวได้ จึงพูดต่อว่า “ยังจำได้ไหม?ตอนเย้นเอ๋อร์สามขวบ ไม่เอาใครทั้งนั้น จะเอาแค่เจ้ากับซือจู๋ จะให้เรากอดบ้างในบางครั้ง ตอนนั้น เจ้าบอกว่าเขาเป็นสิ่งของที่ตามติด กลัวว่าชาตินี้จะห่างจากแม่คนนี้ไม่ได้”

มีน้ำตาไหวออกมาหยดหนึ่ง แต่กลับเป็นของซือจู่กูกู

คิดถึงตอนนั้น ท่านอ๋องติดคนเป็นอย่างมาก และกตัญญูไม่ดื้อ แค่อายุสามขวบ ก็รู้ได้แล้วว่าจะต้องของอร่อยให้แม่กับซือจู่กูกูกินก่อน

ไทเฮาพูดต่อว่า “ฮ่องเต้ลูกหลานหลายคน แต่คนที่เขาเอนดูที่สุดคือเย้นเอ๋อร์ หากไม่เป็นเพราะบัลลังก์ต้องมีคนสืบทอดต่อในตอนนั้น ตำแหน่งนี้ก็ต้องเป็นของเขา แต่เด็กคนนี้ เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้ไหม?เพื่อที่จะปกป้องเจียงซานของพี่ชายเขา เขาสู้สุดกำลัง แม้กระทั่งต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เขาก็ไม่เคยคิดถอย เจ้าเป็นแม่ของเขา ไม่ภูมิใจในตัวเขาหรือ? ”

ทายาทของเมียใหญ่ต้องสืบทอดบัลลังก์ ไม่ได้คัดเลือกจากลูกที่เกิดจากเมียน้อย จุดนี้เป็นสิ่งที่นางเกลียดที่สุด

ตอนนั้นฮ่องเต้เอนดูซือถูเย้นมาก นางคิดว่า ฮ่องเต้จะแหกกฎมณเฑียรบาล ให้ลูกของเมียน้อยสืบทอดบัลลังก์ไม่ใช่ลูกของเมียหลวงสืบทอด แต่ว่า นางหวังไว้มากเกินไปกับความรักความเอนดูของเขา ฮ่องเต้ไม่เคยแม้แต่จะคิดผิดกฎมณเฑียรบาล

ยังจำได้ปีนั้น เย้นเอ๋อร์อายุหกขวบ ฮ่องเต้พาสองแม่ลูกออกไปล่าสัตว์

เย้นเอ๋อร์ที่อายุย่างเข้าหกขวบ ยิงธนูฆ่าหมาป่าได้หนึ่งตัว เป็นเรื่องที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็น อย่าว่าแต่ในราชวงศ์เลย แม้แต่ยุทธภพยังพบเจอได้ยาก

ตอนนั้นฮ่องเต้ดีใจมาก อุ้มเขาหมุนไปหลายรอบ แล้วก็พูดโวอวดกับพวกที่ไปล่าสัตว์ด้วยกัน “ลูกชายของข้า วันหน้าต้องเป็นใหญ่ได้อย่างแน่นอน”

นางที่อยู่เหตุการณ์ตอนนั้น ดูท่าทางดีใจของฮ่องเต้ นางดีใจจนน้ำตาเอ่อล้น

นางรู้สึกว่า ฮ่องเต้อาจจะคิดตัดสินใจอะไรสักอย่างหนึ่ง

เพราะฉะนั้น คืนวันนั้นนางได้เข้าปรนนิบัติฮ่องเต้ หมายจะพูดเรื่องการคัดเลือกรัชทายาทขึ้นบัลลังก์

ฮ่องเต้ตบหน้านางฉาดใหญ่ พูดกับนางด้วยความโกรธ “ข้าไม่มีวันให้เย้นเอ๋อร์ขึ้นเป็นรัชทายาทเด็ดขาด กฎมณเฑียรบาล จะต้องให้ทายาทของเมียใหญ่ขึ้นเป็นรัชทายาทเท่านั้น ถึงจะไม่มีกฎข้อนี้ ข้าก็ไม่มีวันแต่งตั้งเย้นเอ๋อร์ขึ้นเป็นรัชทายาทเด็ดขาด เพราะว่า มารดาของเขามีใจฝักใฝ่ทะเยอทะยาน ข้าร่างกายไม่แข็งแรง แต่งตั้งเย้นเอ๋อร์ แม่ลูกจะแข็งแกร่งขึ้น เป็นเรื่องใหญ่ นอกเสียจากว่า เจ้าจะลงหลุมไปพร้อมกับข้า”

การตบหน้าในครั้งนั้นและคำพูดแสนไร้เยื้อใย นางจำจนมาถึงทุกวันนี้

ชายที่นางรักเดียวใจเดียวมาตลอด นางนึกว่าที่เขาเอนดูโปรดปรานในฐานะฮ่องเต้แล้ว จะยังมีรักจริงๆอยู่บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่า ภายในใจของเขา ตนเองเป็นแค่คนมักใหญ่ใฝ่สูง

ใช่แล้ว นางยอมรับว่านางใฝ่สูง แต่ว่า ทำไมผู้ชายมีความทะเยอทะยานได้ แล้วผู้หญิงจะมีไม่ได้ล่ะ?ไทเฮาในตอนนั้นไม่มีความทะเยอทะยานรุไง?หากไม่ใช่ว่าราชวงศ์ต้องการความสมดุล นางได้ขึ้นเป็นไทเฮาตั้งนานแล้ว

“ภูมิใจอย่างนั้นหรอ ให้ข้าภูมิใจยังไง?ที่เขาได้ขึ้นเป็นเซ่อเจิ้งหวังทุกวันนี้ ก็เพราะพี่ชายเขาเป็นคนผลักดัน”กุ้ยไท่เฟยพูด

ไทเฮาได้ยินนางพูดดังนั้น น้ำเสียงอ่อนน้อม แต่ทุกคำบาดลึกหัวใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม