พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 217

ตอนที่ 217 ถูกไล่กลับมา

หลังจากที่หลีโม่เดินออกไป ไทเฮามองไล่หลังนางแล้วดูคนไม่ผิดใช่ไหม อมยิ้มเล็กๆ

ซุนกงกงเดินขึ้นมาพลางยิ้ม “ไทเฮา หม่อมฉันดูคนไม่ผิดใช่ไหมเพคะ? คุณหนูท่านนี้ เป็นคนมีอุดมการณ์ แต่ไม่เห็นแก่ตัว”

ไทเฮาขานตอบอืม “ไทฮวงไทเฮาช่างดูคนได้อย่างแม่นยำยิ่งนัก เราเห็นนางอยู่จวนเฉิงเสี้ยง คิดว่านางจะเป็นหญิงจิตใจต่ำ คิดไม่ถึงว่า จิตใจจะดีขนาดนี้ ถือว่าเสี้ยเฉิงเสี้ยงยังมีลูกสาวดีขนาดนี้ น่าเสียดาย ไม่รู้จักรักษาดีๆ”

“ใช่แล้ว”ซุนกงๆยิ้มหน้าบาน “มาวันนี้ ท่านไล่เจ้าตัวกลับไปอย่างนี้แล้ว หากท่านอ๋องกลับมา แล้วท่านจะบอกกับท่านอ๋องอย่างไร?”

ไทเฮาเก็บสีหน้า“เรายังต้องพูดอะไรอีก?ถึงแม้นางจะถูกใจเรา แต่ว่า ไม่ไว้หน้าเราเลยแม้แต่น้อย เราไล่นางไปแล้วใครจะทำไม?”

ซุนกงๆยิ้มแหยๆพูด “พอใจก็ดีแล้ว ยังจะมาโมโหอะไรอีกเพคะ?”

“ยุ่งยาก รีบไปเขียนศาลเถอะ ลูกสะใภ้คนนี้ เรายอมรับแล้ว”ไทเฮาพูดอย่างชื่นชม

ผ่านไปสักพัก นางก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้น “แต่ว่า เรื่องที่พูดเมื่อครู่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล หลี่ซ่วยหยุ่นเป็นแม่ของนาง หากนางอยากครองรักกับอ๋องอานชินนี่จะทำลำดับวงศ์ตระกูลของบรรพบุรุษเราวุ่นวายไปหมด?”

“บรรพบุรุษเคยพูดไว้ แต่ คำพูดมีความ……”ซุนกงๆมองหน้าไทเฮาด้วยความลำบากใจ

“เป็นอย่างนี้มาตลอด เราไม่รู้วิธีการพูดการจาของนางอีกหรือ?”

ซุนกงๆจึงตอบไปว่า “ใช่แล้วเพคะ คนเฒ่าคนแก่เคยพูดไว้ว่า พวกไม่มีสมอง ถึงเวลานั้นเอาหลี่ซ่วยหยุ่นให้ตายๆไปเลยนะ เอาไปฝังไว้บนเขา ให้เสี้ยหลีโม่สืบทอดราชสกุลให้ได้ลาภยศเงินทองทุกอย่าง หลังจากนั้น ถ้าเหล่าเอ้อร์ตรอมใจ ให้มันออกจากเมืองหลวงอย่างเสียใจ ขึ้นไปบนเขาขุดร่างหลี่ซ่วยหยุ่นออกมา ให้มันตายตามกันไป ใครยังจะพูดนินทาอะไร?ถ้าพูดอีก ก็ได้แค่พูดเท่านั้น นี่มันเรื่องของข้า?ข้าทำแล้วมีความสุขก็พอ”

ไทเฮามองไปที่เขา “เราไม่เชื่อว่าเป็นคำพูดของคนแก่ เจ้าจะต้องเพิ่มเติมอะไรแน่”

ซุนกงๆปิดปากพลางหัวเราะ “มีบางคำหยาบเกินไป หม่อมฉันไม่กล้าพูดเพคะ”

ไทเฮาอดไม่ได้ยิ้มออกมา“เป็นอย่างนี้ แต่จะว่าไป เจ้าให้คนไปเตือนหลี่ซื่อฝั่งนู้นหน่อยแล้วกัน ถึงแม้บรรพบุรุษท่านจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่เราไม่อยากเห็นภาพอย่างนั้น เราก็จะเร่งเวลาหาคู่ให้เจ้าสอง ชาตินี้พวกเขาไม่มีบุญวาสนาต่อกัน ก็ไม่ควรฝืนต่อไป”

“เพคะ!”ซุนกงๆขานตอบ

หลังจากที่ซือถูเย้นกลับมา ไทเฮาก็เข้าไปแล้ว ซุนกงๆที่ยืนรออยู่ด้านนอก พอเห็นเขาเดินมาก็นำคำสั่งของไทเฮามอบให้เขา แล้วพูดกระซิบ “ไทเฮาไล่คุณหนูกลับไปแล้วเพคะ”

ซือถูเย้นพูดอย่างอึ้งๆ “ไล่ไปแล้ว?”

“ไม่เป็นไรเพคะ ไทเฮาไม่ได้ทรงกริ้ว แค่ตั้งใจทดสอบนาง”ซุนกงๆนำเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นเล่าให้ซือถูเย้นฟัง ซือถูเย้นกลั้นไม่ได้ เก็บพระราชโองการไว้ “ถ้าอย่างนั้นฝากบอกท่านแม่ว่า ข้ากลับแล้วนะ”

หลีโม่ถูกไล่ออกจากวัง ในใจรู้สึกกระอักกระอ่วนมาก ไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ไม่ได้รับการยอมรับให้จัดพิธีอภิเษก แต่เป็นเรื่องที่ไทเฮาขัดขวางความรักของท่านแม่และอ๋องอานชินถึงท่านแม่กับอ๋องอันชินจะมีใจต่อกันกลัวว่าจะมีเรื่องให้ต้องพรากจากกัน

อีกทั้ง หากท่านแม่รู้ว่าไทเฮามีความคิดอย่างนี้ กลัวว่านางจะไม่กล้าก้าวออกมาจากตรงนั้น

หวังแค่เพียงค่อยๆหล่อหลอมความรู้สึก หล่อหลอมเสร็จ ก็จะกลายเป็นเรื่องมงคลในที่สุด

ไม่มีรถม้า ทำได้แต่เดินแล้วสินะ

แย่ตรงที่ยุคโบราณ การสื่อสารต้องใช้การตะโกน การสัญจรสาธารณะต้องใช้การเดิน

นางไม่ได้กังวลว่านางจะได้เป็นพระชายาซื่อเจิ้งหรือไม่ หากนางจะต้องแต่งกับซือถูเย้น ก็เพียงเพราะหัวแถวของพระชายาซื่อเจิ้ง

กุ้ยไท่เฟยทางนั้น ตอนนี้ในใจนางมีแต่เรื่องอยากฆ่าคน

นางเกลียดตัวเอง แน่นอน ตนเองก็เกลียดนาง นางไม่ได้ใจกว้างพอจะให้อภัยคนที่ครั้งเคยคิดจะฆ่าตัวเองได้หรอก

หากเป็นคนที่ไม่รู้จัก นางคงจะสู้กลับไปอย่างไม่ลังเลแล้ว แต่นางเป็นแม่แท้ๆของซือถูเย้น นางลำบากใจอยู่ทั้งสองฝั่ง

นิสัยของนาง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมานางถือคติแค้นต้องชำระ พูดอีกก็คือ ความโกรธในครั้งนี้นางทำอย่างไรก็ไม่สามารถลืมได้จริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม