พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 22

ตอนที่ 22 ท่านหมอหลวงหลิวฝังเข็ม

หยูหยินมองชุ่ยยุ่ยด้วยสีหน้าหนึ่ง และส่งตั๋วแลกเงินให้นาง ให้นางรีบตามออกไป

ชุ่นยุ่ยรู้ความหมาย รีบตามออกไป

นางรีบไปช่วยพยุงหลีโม่ ไม่พูดไม่จา ประคองไปถึงประตู คนเฝ้าประตูก็รีบเข้ามาช่วย หลังจากนำหลีโม่ลงจากรถ ชุ่ยยุ่ยก็กึ่งลากกึ่งดึงหยางมามา เอาตั๋วแลกเงินใส่ลงไปในกระเป๋านาง พูดเสียงเบา ๆ “ มามา “หยูหยินอยากทราบว่าฮองเฮาจะนำตัวนางไปทำอะไร “

พอหยางมามาได้ยิน ก็หยิบตั๋วเงินที่อยู่ในกระเป๋าออกมาคืนให้ชุ่นยุ่ย แม้แต่ใบที่หยูหยินให้นางก็รับไว้ไม่ได้พูดเสียงเบา ๆ “เอาไปคืนหยูหยินเถอะ บอกนางว่า ข้าเป็นนางกำนัลเท่านั้นรับไว้ไม่ได้”

พูดจบ นางก็ขึ้นรถไป สีหน้าเรียบเฉียบสั่งคนรถ “ไป!”

คนรถก็ลากรถออกไปตามทาง มีกองทหารอคอยอยู่ ตอนรถม้าออกเดินทาง ก็มีกองทหารตามมาอย่างเงียบ ๆ

หยางมามานั่งอยู่บนรถ มองเลือดที่ไหลบนหน้าหลีโม่ ยื่นผ้าเช่นหน้าออกมาแล้วถอนหายใจเบา ๆ “เรื่องค่อนข้างจะรีบ เลยไม่ทันให้เจ้าได้กลับไปอาบน้ำแต่งตัว เข้าวังมาแล้วสองครั้ง เจ้าคงอึดอัดไม่น้อย ครั้งนี้ฮองเฮาเรียกหาเจ้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าต้องทำให้ดีที่สุด ถึงจะรักษาชีวิตของเจ้าไว้ได้ ไม่เช่นนั้น เจ้าคงเป็นคล้ายกับคนตระกูลเจ้า ไม่ช้าก็เร็วเจ้ากลายเป็นศพไม่มีกระดูกจะให้เก็บ”

หลีโม่น้ำตาไหลเปื้อนขนตา มองดูมามาอย่างซื่อซื่อ กลื่นน้ำลายฝืดๆ “ หลีโม่ชาตินี้นอกจากมารดาแท้ๆ ไม่เคยได้รับความรักแท้จากคนอื่น ก็ได้มามานี่แหละที่เมตตา น้ำใจนี้หลีโม่จะจำไว้ในใจ หากวันหน้ายังมีชีวิตอยู่ จะตอบแทนพระคุณ”

หลีโม่รู้ว่าหยางมามาอยู่ข้างกายฮองเฮามาเป็นคนที่พูดด้วยได้ และคนอย่างมามาที่อยู่ในวังมานาน ก็ตัดขาดจากญาติข้างนอกไปแล้ว สีหน้าท่าทางนั้นเยือกเย็น แต่ก็ยังเห็นน้ำใจในส่วนนี้

ดังนั้น หลีโม่บีบน้ำตานั้นถึงจะดูปลอม แต่ในใจมามาก็สัมผัสได้

“เจ้าเป็นคนไม่น่ารำคาญ หากวันข้างหน้าได้ดี ข้าน้อยก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณแล้ว หากวันหน้าเจ้ายังจำได้ ค่อยว่ากัน แต่หากจำไม่ได้ ก็ถือว่าข้าน้อยได้ให้รางวัลตัวเองไปแล้วนิดนึง”

“น้ำค้างน้อยยังทำให้อบอุ่น หากมีชีวิตอยู่ไม่กล้าที่จะลืม” หลีโม่พูดเบา ๆ น้ำตาหยดลงไปที่หลังมือมามา

มามารู้สึกที่หลังมือได้ว่าร้อนกว่าปกติ จ้องมองเสี้ยหลีโม่

อยู่ในวังมาหลายปี รู้ตัวดีว่าห้ามใจอ่อน โดยเฉพาะเสี้ยหลีโม่ที่กำลังเข้าวัง ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร นางจึงไม่อยากเอื้อมไปเกี่ยวข้องมากนัก

แต่ทว่าน้ำตาของหลีโม่ที่หยดลงมา ก็ละลายใจที่เย็นเฉียบของนางใจอ่อนไปส่วนหนึ่ง นางว่า คุณหนูใหญ่ หลังจากเข้าวังไปแล้ว รีบไปขออภัยจากฮองเฮา ถ้าหากว่าเรื่องนี้ได้ทำผิดต่อฮองเฮา ข้าน้อยจะช่วยท่านอีกแรง”

“ขอบคุณมามา” หลีโม่พูดแบบกลื่นน้ำลายยาก ในใจเบาลงส่วนหนึ่ง มีหยางมามาอยู่ในวังคอยเตือน แน่ว่าดีกว่ามีนางคนเดียว

เมื่อกี้ที่ขึ้นรถมา นางเห็นหยางมามาคืนตั๋วเงินไป ก็พอรู้ได้ว่านางเป็นคนเช่นไร

นางไม่มีทางเลือก นอกจากการใช้ใจคนเท่านั้น ในวังหลวงยากนักที่จะมีคนจิตใจดี นางได้เจอ ก็ถือว่าฟ้ายังเห็นใจ

ข้าเสี้ยหลีโม่ ชีวิตยังไม่ควรถึงขลาด

จะพูดไปอ๋องซื่อเจิ้งเข้าวังมาก่อนก้าวหนึ่ง พอถึงตำหนักฮองเฮา สภาพของอ๋องเหลียงก็ไม่สู้ดีนัก

ลมหายใจออกไปมาก ลมหายใจที่เข้ามีน้อย หายใจอ่อนแรงดูจากสีหน้าแล้วไม่ค่อยจะลอด

อ๋องซื่อเจิ้งร้อนรนจนตาแดงก่ำ โมโหไปที่หมอหลวงหลิว “พวกเจ้าจะมายืนทำอะไรกันตรงนี้ รีบๆ คิดหาวิธีเข้า”

หมองหลวงหลิวกล้าที่จะออกมาพูด “ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่า ให้ข้าน้อยลองฝังเข็มดู”

“อย่างนั้น.....” ฮองเฮามองไปที่อ๋องชื่อเจิ้ง อ๋องซื่อเจิ้งส่งสายตาไม่เห็นด้วย นางทำได้แค่เพียงกัดริมฝีปาก “ ได้ เจ้าไปเถอะ”

การตรวจไต้เท้าหย้วนพ่านและหมอหลิวผิดมาตั้งแต่ต้น ยกเว้นการบาดเจ็บที่สมองและที่คอ

การตรวจไต้เท้าหย้วนพ่านของหมอหลวงหลิว ก็ลงเข็มไปกระตุ้นเลือดลมแล้ว นึกว่าจะช่วยขับสิ่งแปลกปลอมออกมา ทำให้หายใจได้ดี

เขาคิดว่า เพียงทำให้หายใจได้ดี ก็จะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้

เขาเพิกเฉยต่อการดูโรคลมชักที่เป็นอยู่แต่เดิม และเขาก็ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคลมชักได้อย่างลึกซึ้ง โรคลมชักเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทในสมองกลับไปกลับมา ทำให้ร่างกายเกิดการชักอย่างที่เห็น ดังนั้นการลงเข็มจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก หลีกเลี่ยงการกระตุ้นไปที่เส้นประสาท ไม่เช่นนั้น จะทำให้อาการกำเริบครั้งที่สองยิ่งหนักขึ้น

แต่ว่าก่อนหน้านี้จัดการได้ไม่ดี ทำให้ส่วนสมองของอ๋องเหลียงมีเลือดออก คอได้รับบาดเจ็บ หากยังจะใช้การฝังเข็มอีก ก็ยังต้องหลีกเลี่ยนจุดที่เลือดออก ไม่งั้นเลือดจะไหลย้อนกลับ ทำให้อุดตันภายใน ภายในจะมีแรงดันเยอะขึ้น คนก็อาจจะถึงชีวิตได้

ท่านหมอหลวงหลิวฟังคำสั่งฮองเฮา ดีใจอย่างบอกไม่ถูกหมุนตัวกลับไปเตรียมพร้อม แต่สีหน้าของเขาดูกังวลหนัก

การตรวจของไต้เท้าหย้วนพ่านถึงจะดูกังวลอยู่บ้าง แต่ลูกน้องคนนี้ภายในใจคิดอะไรเขารู้ดี ความสามารถมีมากน้อยแค่ไหน เขารู้อย่างชัดเจน ไม่กลัวที่จะเสียใจภายหลัง หยิบเข็มขึ้นมา

ท่านหมอหลวงหลิวให้คนถอดเสื้อผ้าของอ๋องเหลียง เอากระเป๋าเข็มวางไว้ข้าง ๆ เตียง หลังจากนั้นก็ยื่นมือออกมาเลือกจุด

จะว่าไปการเลือกจุดฝังเข็มสำหรับหมอหลิวไม่ใช่งานที่ยาก เขาก็มีฝีมือในการฝังเข็มและมีการฝึกฝนมา แต่ดูเกี่ยวกับหนังสือการฝังเข็มมาไม่มา เขาก็ไม่สามารถบรรลุไปขั้นสูงได้

ดังนั้นทุกคนจึงจ้องมองหมอหลิว อ๋องชื่อเจิ้งยังคงคัดค้าน แต่ว่าสภาพของอ๋องเหลียงดูจะยิ่งหนักขึ้น แล้วตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์ ทำได้แค่เพียงทำตามคำแนะนำของหมอหลวงหลิวเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม