พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 220

ตอนที่ 220 เมล็ดพันธุ์

เช้าวันที่สองในตำหนักอ๋องซื่อเจิ้ง ในจวนแขวนโคมขาวเต็มไปหมด

หน้าประตูมีตัวหนังสือเตี่ยนแปะไว้ โคมสีขาวถูกแขวนไว้ที่หน้าประตูของจวน

ซือถูเย้นที่พึ่งตื่นกำลังใส่เสื้อ จื่นเฉิงวิ่งเข้ามา เสียงต่ำ “ท่านอ๋อง ไท่เฟยเข้ามาในเรือนบอกว่า ซือจู๋กูกูเสียกะทันหันพะยะค่ะ!”

ซือถูเย้นหันกลับถามอย่างรวดเร็ว “เจ้าว่ายังไงนะ?”

จิ่นเซ่อพูดอย่างเสียใจ “เช้าของวันนี้คนใช้ได้เข้ามาแจ้งว่า ภายในจวนเริ่มแขวนโคมขาวกันแล้ว ถามไปถึงได้รู้ว่าซือจู๋กูกูเสียกะทันหันเมื่อคืนนี้”

ซือถูเย้นรีบใส่เสื้อผ้าเดินออกจากประตูไป ตรงไปยังเรือนชิงหนิงทันที

ร่างไร้วิญญาณของซือจู๋กูกูถูกวางไว้ในลาน โลงศพวางอยู่ข้างๆร่าง กุ้ยไท่เฟยยืนอยู่ข้างๆ ลงมือเช็ดหน้าเช็ดตาให้นางเองกับมือ

ซือถูเย้นยืนอยู่ทางเข้าลานหน้าเรือน มองผู้หญิงที่รักและดูแลเขามาตลอดทั้งชีวิตอย่างตะลึง ในใจรู้สึกเจ็บแปลบและเกลียดชังอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อคืน เขาน่าจะไปหานาง

เรื่องทุกอย่างพรั่งพรูเข้ามา ก่อนที่อ๋องเหลียงจะป่วย ทุกอย่างยังดีๆอยู่ ถึงแม้กูกูจะต้องปรนนิบัติทางแม่ แต่ว่า เวลาส่วนใหญ่ก็จะต้องเตรียมเรื่องกินเรื่องสวมใส่ให้เขา

นางมักพูดเสมอว่า สิ่งที่ท่านอ๋องยังไม่ทำให้นางสมปรารถนาก็คือ ถึงทุกวันนี้แล้วยังไม่ยอมแต่งงาน

กุ้ยไท่เฟยเห็นเขามาแล้ว จึงยื่นไปผลักตัวคนข้างกายออก แล้วจัดการเช็ดมือของนางต่อ เงยหน้าเผยยิ้มออกมา “มาเถอะ มาก้มคำนับนาง นางเป็นแม่บุญธรรมของเจ้า”

ซือถูเย้นเดินเหมือนหุ่นยนต์ขยับได้ พอสายตาปะทะกับใบหน้าของนางวินาทีนั้น สมองของเขาก็ดังเปรี้ยง เงยหน้ามองกุ้ยไท่เฟยอย่างยากลำบาก “ท่านถึงกับฆ่านางเชียวหรือ?”

ดวงตาของซือจู๋กูกูเบิกโพลง ดวงตาเหมือนต้องทรมานก่อนตาย ใบหน้าไร้สีเลือด บวมน้ำ ริมฝีปากม่วงคล้ำ เป็นอาการขาดอากาศหายใจตาย นางเป็นคนออกมาจากวัง ดูที่คอไม่มีร่องรอยอะไร รู้ได้เลยว่าต้องตายจากการลงทัณฑ์เทียเจียกวน

พอกุ้ยไท่เฟยได้ยินดังนั้น จึงหัวเราะอย่างตลก แล้วจัดการเช็ดมือนางต่อ ตรงข้อมือมีร่องรอยของการมัด เลือดคลั่งอย่างเห็นได้ชัด “คนที่ฆ่านางน่ะ เป็นเจ้า ไม่ใช่ข้าหรอก”

“ท่านพูดเรื่องบ้าอะไร?ท่านเสียสติไปแล้ว นางตามรับใช้ท่านมาตั้งหลายปี ท่านถึงกับกล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับนางขนาดนี้เลยหรอ ”ซือถูเย้นกัดฟันกรอด มือฉุดนางไว้ พูดเสียงเกรี้ยวกราด “ออกไป ท่านไม่มีสิทธิ์แตะตัวนาง”

กุ้ยไท่เฟยถูกผลักจนถอยไปหนึ่งก้าว พอยืนขึ้นอย่างมั่นคงแล้วก็หัวเราะเสียงดัง หัวเราะจนมีน้ำตาไหลออกมา “พูดได้ดี พูดได้ดีมาก ตามรับใช้ข้ามาหลายปี กลับกล้าลงมือกับข้าอย่างเหี้ยมโหด ซือจู๋เอ๋ย ข้าบอกว่าข้าไม่ได้เกลียดชังเจ้า เป็นเรื่องโกหก ข้าฆ่าเจ้าไปแล้ว ข้ายังเกลียดเจ้าอยู่เลย ”

ซือถูเย้นจ้องไปที่นาง นัยน์ตาโกรธแค้นลุกเป็นไฟโหมกระหน่ำ สายตานั้นพูดไม่ได้ว่าชั่วร้ายหรือเกลียดชัง

พ่อบ้านอาฝูรีบเดินไปข้างหน้า พูดพลางโค้งคำนับ “ท่านอ๋อง เมื่อวานซือจู๋กูกูวางยาพิษกุ้ยไท่เฟยหมายจะเอาชีวิตกุ้ยไท่เฟย แต่ถูกกุ้ยไท่เฟยพบเข้าเสียก่อน กุ้ยไท่เฟยถึงได้สั่งประหารนาง”

“เหลวไหล!”ซือถูเย้นโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก ใช้เท้าถีบไปที่อาฝู จนอาฝูกระเด็นไปไกล แต่เขาก็ยังลุกขึ้นอย่างยากเย็น รีบคุกเข่าต่อหน้าซือถูเย้น พลางพูด “ไม่ใช่พะยะค่ะ หนูขอสาบานด้วยชีวิต ว่าไม่มีปลดแม้แต่คำเดียว”

“เจ้ายังจะพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะฟันเจ้า!”ซือถูเย้นโกรธจนขีดสุด แล้วจึงถีบอาฝูอีกครั้ง อาฝูไม่กล้าหลบ จึงต้องเจ็บตัว มุมปากมีเลือดไหลออกมา

กุ้ยไท่เฟยพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เขาไม่ได้ผิดอะไร ซือจู๋วางยาให้ข้า เจ้ารู้ไหมทำไมนางต้องทำอย่างนี้?”

ซือถูเย้นจ้องมองใบหน้าที่เขาเกลียดชัง รู้สึกใจไม่ดี คิดถึงคำพูดที่ซือจู๋กูกูเคยพูดกับเขา หรือจะเป็นเพราะวันนั้น นางก็คิดที่จะลงมือแล้ว?

ทันใดนั้นกุ้ยไท่เฟยก็เกรี้ยวกราดขึ้น เสียงเล็กแหลม “นางกลัวว่าแม่คนนี้จะทำร้ายลูกชายแท้ๆของตัวเอง เพราะฉะนั้นชิงฆ่าข้าเสียก่อน กำจัดก่อนภัยมาถึงตัว นางเป็นคนที่ปรนนิบัติรับใช้ข้ามาหลายปี ข้าเห็นนางเป็นน้องสาวคนหนึ่ง แต่นางกลับทำเพื่อเจ้า ด้วยการจะวางยาพิษฆ่าข้า!”

ซือถูเย้นมือเท้าเย็น มองร่างไร้วิญญาณบนเตียงไม้ การตายของนางช่างน่าอนาถ กลับเป็นเพราะเขา

พ่อบ้านอาฝูคุกเข่าตรงนั้นไม่กล้าขยับ มุมปากยกยิ้ม ซือจู๋กูกูตายได้สักที หลังจากนี้ นางจะได้เป็นคนยืนข้างกุ้ยไท่เฟย เป็นคนที่กุ้ยไท่เฟยโปรด

แต่ว่า ก่อนอื่น เขาต้องแสดงให้กุ้ยไท่เฟยเห็นความจงรักภักดิ์ดีของเขา

เพราะฉะนั้น เขาพูด “ท่านอ๋อง ก่อนซือจู๋กูกูจะถูกลงทัณฑ์ ได้ให้ทหารยามพูดกับท่านหนึ่งประโยค”

“เขาพูดอะไร?”ซือถูเย้นมองเขาด้วยสายตาเหยียด ดวงตาแดงกร่ำ

อาฝูพูด “นางให้ทหารยามบอกกับท่านอ๋องว่า นางอยากให้ท่านขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์”

ซือถูเย้นไม่อยากเชื่อสักคำที่เขาพูด จึงพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด“ไปให้พ้นหน้าข้าซะ!”

อาฝูคุกเข่าไม่ขยับ “ท่านอ๋อง ข้าน้อยพูดเรื่องจริง ซือจู๋กูกูเป็นข้ารับใช้ที่ข้าน้อยให้ความเคารพมาโดยตลอด ตอนนี้ร่างไร้วิญญาณนางอยู่ตรงนี้ ข้าน้อยไม่พูดปลดต่อหน้าคนตายหรอกพะยะค่ะ เหตุใดนางวต้องวางยาพิษไท่เฟย?ก็ว่านางอยากปกป้องท่านอ๋อง นางยอมสละชีพตัวเอง เพื่อให้ท่านอ๋องปลอดภัย นางหวังว่าสักวันหนึ่ง ท่านอ๋องจะได้ขึ้นบัลลังก์”

“เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหล ข้าจะฆ่าเจ้าตอนนี้เลยก็ได้”ซือถูเย้นนัยน์เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง หันหลังกลับสั่งการ“ทหาร นำร่างของซือจู๋กูกูออกไป งานศพข้าจะจัดเอง ปิดล้อมชิงหนิงเกอ ไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามใครหน้าไหนเข้าออกทั้งนั้น”

กุ้ยไท่เฟยพูดขึ้นเสียงดัง “ซือถูเย้น เจ้ากล้าขังแม่รึ?”

ซือถูเย้นไม่แม้แต่จะมองนาง เดินขึ้นไปอุ้มร่างของซือจู๋กูกู สาวเท้าออกไป

ทหารยามรีบทำการปิดล้อม ปิดชิงหนิงเกออย่างแน่นหนา ปิดประตูใหญ่ คนออกไปบางส่วน เหลือบางส่วนคอยเฝ้าเวรยาม

กุ้ยไท่เฟยหันไปตบหน้าอาฝูฉาดใหญ่ “เจ้าคิดว่าเขาโง่รึไง?คิดว่าเรื่องที่เจ้าพูดจะหลอกเขาได้หรือ?”

อาฝูคุกเข่าอยู่กับที่ ปาดเลือดตรงมุมปากทิ้ง พูด “กุ้ยไท่เฟย ท่านอ๋องตอนนี้ไม่มีทางเชื่อ แต่ รอให้เขาใจเย็นลง คำๆนี้ จะเหมือนหนอนร้ายที่เข้ากัดกินใจเขาคอยย้ำเตือนเขา รอการฝังตัวเข้าไปในใจเขา”

“ไม่ เขาไม่มีวัน”กุ้ยไท่เฟยส่ายหน้า หัวเราะอย่างสิ้นหวัง “หากเขาเป็น ข้าก็ไม่ต้องมาพยายามอะไรมากมายขนาดนี้หรอก ตอนนี้เหล่าปาถูกเขาปล่อยอยู่ข้างนอก ข้าไม่มีหวังแม้แต่น้อย”

“กุ้ยไท่เฟย ท่านอย่าพึ่งยอมแพ้สิ ทุกวันนี้อ๋องหนานหวยยังรอให้ท่านย้ายเขากลับมาเมืองหลวงนะ ยังจำที่ท่านคำที่ท่านพูดไว้เมื่อวันวานได้ไหม?ขอให้มีแค่ความหวังเพียงเสี้ยวหนึ่งท่านก็จะไม่ยอมแพ้ ท่านพอใจแล้วหรือที่ต้องเบี้ยล่างให้ไทเฮา?ถึงเวลานั้น ท่านอ๋องขึ้นครองราชย์ นางจะเป็นแค่ฮองไทเฮาหมู่ฮ่อง ท่านก็จะเป็นเซิ้งหมู่ไทเฮา ถึงแม้ชื่อของตำแหน่งจะต่างกันอยู่มาก แต่ ท่านเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดท่านอ๋อง ทั้งหมดก็จะอยู่ในกำมือท่าน”

กุ้ยไท่เฟยสงบเงียบลง ถูกอาฝูให้ความหวังพูดกรอกหู ใช่แล้ว ชาตินี้ความฝันทั้งชีวิตของนาง นางจะยอมแพ้ไปง่ายๆหรือ?

ไม่ผิดแน่ อาฝูพูดมีเหตุผล นางจะเพาะเมล็ดพันธุ์กล้าขึ้นครองบัลลังก์ ค่อยๆฝังเข้าไปในใจเขาลึกๆ

ถึงจะเป็นวันหน้า เขากับนางจะเป็นศัตรูกัน แต่นางเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดเขานางก็จะต้องได้ขึ้นเป็นไทเฮาด้วย

“นัดพบฮูหยินจวนเฉิงเสี้ยงรึยัง?”กุ้ยไท่เฟยเก็บสีหน้าท่าทางพลางถามขึ้น

“โล่วส่วยได้นัดแล้วเพคะ พรุ่งนี้นัดเจอกันที่ร้านจู้เสี้ยน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม