พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 229

ตอนที่ 229 โล่เยว่มาช่วย

คำว่าไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่นี้เห็นได้ชัดว่าหมายถึงหลีโม่ แต่ว่าหลีโม่ไม่สนใจคำพูดอ้อมค้อมของนาง หันกลับไปยืนบนระเบียง สั่งเตาเหล่าต้าด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จับนางแขวนเอาไว้ ให้ขาทั้งสองข้างลอยอยู่เหนือพื้น นางพูดออกมาเมื่อไหร่ ก็ปล่อยนางลงมาเมื่อนั้น”

เรื่องมัดคนด้วยเชือก เป็นเรื่องถนัดที่สุดของเตาเหล่าต้าเลยล่ะ ก่อนจะเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เขาเคยทำอาชีพรับจ้างฆ่าหมูเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ

เขาใช้เชือกมัดสองมือของหลานหยู้เข้าด้วยกัน แล้วผูกให้เป็นปมยาว หลังจากนั้นก็ดึงนางขึ้นไปแขวนเอาไว้บนต้นฉัตร

หลานหยู้ตกใจจนร้องอุทานออกมาเสียงดัง ทั้งยังไม่ลืมข่มขู่หลีโม่ “คุณหนูใหญ่ หากนายหญิงแก่รู้ว่าเจ้าทำเช่นนี้กับข้า นางจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่นอน”

หลีโม่แค่ทำเป็นไม่ได้ยินเท่านั้น แล้วนั่งลงดื่มชากับซือถูจิ้งและเฉินหลิ่วหลิ่วอยู่ใต้ต้นไม้

อารมณ์ของทั้งสามไม่ดีเอามากๆ ซือถูจิ้งมีความหวังอยู่มากน้อยเท่าไหร่ตั้งแต่แรก คิดว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่รู้ว่าไปที่ไหนกันแน่

แม้หลานหยู้ไม่ยอมรับว่าลงมือกับพวกเขา แต่ก็สามารถฟังออกจากสีหน้าท่าทางและคำพูดของนาง พวกเขาทั้งสองคนจะต้องถูกนางจับตัวไปแน่นอน

หลีโม่โมโหความประมาทของตัวเอง นางคิดมาโดยตลอด เย็นเอ๋อร์เดินมากับนางตลอดทาง พบเห็นแผนการร้ายมาก็มากมายขนาดนี้ นางควรจะเดินเข้ามาพร้อมกับนาง แต่นางลืมไปว่าเย็นเอ๋อร์เป็นเพียงแม่นางน้อยผู้หนึ่ง แม้นางจะไม่ได้มีใจจงรักภักดีอะไรขนาดนั้น แต่ก็โดนคนคิดร้ายได้ง่ายๆ

ส่วนกุ้ยหยวนหลังจากผ่านเคราะห์ร้ายการถูกปล้นมาแล้ว ก็หวาดกลัวมาก ระมัดระวังรอบด้าน ระวังตัวก็ระวังแล้ว แต่ก็มีแรงเพียงเล็กน้อย ทำอะไรไม่ได้

หลานหยู้ยังคงด่ากราดเพราะความโกรธ หลีโม่พูดอย่างเย็นชาว่า “เสี่ยวเตา ข้าให้แส้ของเจ้ากินข้าวแต่ไม่ทำงานให้ข้าอย่างนั้นหรือ? พอตอนนี้จะใช้งานกลับไม่เห็นขยับเลยสักนิด”

เตาเหล่าต้าก็กำลังรอประโยคนี้ของหลีโม่อยู่ เสียงแส้ที่ถูกชักออกมาดังผ่านไปอย่างรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับหวดแส้ใส่หลานหยู้อย่างโหดเหี้ยม

หลานหยู้ร้องอย่างเจ็บปวด “นายหญิงแก่ช่วยข้าด้วย นางจะฆ่าข้าแล้ว”

“ร้องสิ ร้องให้ดังกว่านี้” เตาเหล่าต้าเฆี่ยนไปอีกหนึ่งที ครั้งนี้เฆี่ยนไปที่ใบหน้าของหลานหยู้ หลานหยู้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนไฟเผาที่แพร่กระจายไปทั่ว เจ็บปวดจนนางแทบจะเป็นลม

ตอนที่เตาเหล่าต้าลากตัวหลานหยู้ไป ก็มีบ่าวรับใช้นำเรื่องไปรายงานเสี้ยโล่เยว่แล้ว

เสี้ยโล่เยว่กำลังอยู่ที่เรือนเดี่ยวหลังสวน นับตั้งแต่ที่ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยไปแล้ว นางก็ดีกับหลิงหลงฮูหยินขึ้นมา

เสี้ยโล่เยว่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องบ่าวรับใช้สองคนนั้น จึงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เพื่อบ่าวรับใช้สองคนถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือ ยังนึกอยู่ว่านางเห็นอกเห็นใจบ่าวรับใช้มากขนาดนี้จริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้

หลิงหลงฮูหยินขมวดคิ้วพูดว่า “เสี้ยหลีโม่ผู้นี้ลงมือได้โหดเหี้ยมยิ่งนัก กลัวแต่ว่าท้ายที่สุดแล้วหลานหยู้จะเปิดโปงเจ้าออกมา เจ้ายังจะไปช่วยหลานหยู้กลับมาอยู่หรือ”

เสี้ยโล่เยว่เบะปาก “ข้าไม่ได้สนใจนาง แม้จะสารภาพออกมาแล้วจะอย่างไร? ข้าแค่ให้นางเรียกบ่าวสองคนนั้นให้ออกไปซื้อของ เรื่องนอกเหนือจากนั้นก็ไม่ใช่ข้าที่วางแผน”

“เจ้านะเจ้า” หลิงหลงฮูหยินกล่าวตักเตือนว่า “ยังไงหลานหยู้เป็นคนของนายหญิงแก่ นางอาจจะไม่รู้เรื่องที่เจ้าสั่งให้ทำในวันนี้ หากเจ้านั่งดูเฉยๆ ไม่สนใจจะยื่นมือเข้าไปช่วย นายหญิงแก่จะมองเจ้าอย่างไร? ตอนนี้เจ้ายังไม่สามารถเป็นศัตรูกับนายหญิงแก่ได้ นางยังคอยสนับสนุนเจ้าอยู่”

เสี้ยโล่เยว่ได้ฟังประโยคนี้แล้ว ก็พลันใจคอเหี่ยวแห้งขึ้นมาทันที “ท่านแม่ ฝ่าบาทในตอนนี้ดูไม่แยแสข้าเลย กลัวแต่ว่าแม้แต่ฮองไทเฮามีราชโองการลงมา พระองค์ก็คงจะไม่อภิเษกกับข้า”

หลิงหลงฮูหยินจับหน้านางเบาๆ “เจ้าเด็กโง่ รอจนแผลเจ้าหายดีแล้ว พระราชโองการของฮองไทเฮาก็ต้องประกาศลงมา องค์รัชทายาทจะต้องอภิเษกกับเจ้าแน่นอน เขาเห็นความสำคัญในเส้นสายและอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของพ่อเจ้า”

“ไม่ ไม่ใช่ต้องไม่ใช่เพียงเท่านี้ ฝ่าบาททรงรักข้า” เสี้ยหลีโม่กำหมัดแน่น พูดอย่างเดือดดาล

นางเกลียดที่สุดก็คือโดนคนหาว่าองค์รัชทายาทมาขอนางเพราะบิดา นางอยากให้คนคิดว่าองค์รัชทายาทรักนางถึงได้มาขอนางแต่งงาน

ที่นางถือสาเช่นนี้ ก็เพราะว่านางรู้ว่าองค์รัชทายาทจะต้องมาขอนางอภิเษกจริงๆ

แต่เมื่อก่อนไม่ใช่อย่างนี้ เมื่อก่อนนางกับองค์รัชทายาทชอบพอกันอย่างแท้จริง องค์รัชทายาทเคยบอกว่า ไม่ว่านางจะเป็นลูกสาวของเฉิงเสี้ยงหรือไม่ เขาก็จะมาขอนางอภิเษกสมรส

เพียงแต่ภายหลังเกิดเรื่องมากมายขึ้น ทำให้ความประทับใจที่องค์รัชทายาทมีต่อนางเปลี่ยนเป็นแย่ลง ที่เปลี่ยนไปทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ก็เพราะเสี้ยหลีโม่

นางเกลียดเสี้ยหลีโม่ยิ่งนัก

“ใช่ องค์รัชทายาทต้องชอบเจ้าแน่นอน แต่ว่า โล่เยว่ ความชอบของบุรุษมันเป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว มีเพียงตัวเจ้าที่สามารถควบคุมอำนาจเอาไว้ได้นั่นถึงจะสามารถทำให้เจ้าร่ำรวยมีเกียรติชั่วนิรันดร์กาล หากรู้เร็วกว่านี้ ข้าคงกำจัดหลี่ซื่อกับเสี้ยหลีโม่ไปตั้งแต่ปีที่สองของการแต่งเข้าจวนเฉิงเสี้ยงแล้ว”

ตอนที่หลิงหลงฮูหยินพูด ความเคียดแค้นก็ลอยขึ้นมาจากสายตาของนาง นางเสียใจจริงๆ ที่ไม่ทำไปตั้งแต่ตอนนั้น

นางเห็นเสี้ยโล่เยว่ดูเหมือนไม่อยากฟังที่นางพูด จึงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ไปเถอะ ไปช่วยหลานหยู้กลับมา อย่าให้นายหญิงแก่มีความคิดเห็นไม่พอใจต่อเจ้าได้”

เสี้ยโล่เยว่ทำได้เพียงลุกขึ้นมา นางรู้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถทำให้นายหญิงแก่ไม่พอใจได้

นางเดินไปสองก้าว แล้วหันกลับไปมองหลิงหลงฮูหยิน “ท่านแม่ เมื่อก่อนที่ท่านเคยบอกว่าเฉินเอ้อเป็นบิดาของข้า คำพูดนี้ มันเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันแน่?”

หลิงหลงฮูหยินมองไปที่นาง ก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “แน่นอนว่าข้าโกหกเจ้า ใครใช้ให้เจ้าไร้น้ำใจกับข้าในตอนนั้นล่ะ?”

เสี้ยโล่เยว่ถลึงตามอง พูดด้วยความโกรธว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าลำบากใจมานานแค่ไหน? เหตุใดท่านยังเอาเรื่องแบบนี้มาพูดล้อเล่นกับข้าอีก?”

หลิงหลงฮูหยินพูดอย่างหยอกล้อว่า “ได้ แม่ผิด แม่ขอโทษ รีบไปเถอะ”

เสี้ยโล่เยว่ใจร่วงไปถึงตาตุ่มแล้ว แต่ยังคงโกรธมากเช่นเดิม “ข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับท่านทีหลัง”

พูดจบ ก็พาสาวใช้เดินไป

เมื่อมาถึงประตูของลานเสี้ยจื้อ นางก็ได้ยินเสียงร้องของหลานหยู้ นางจึงรีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เห็นเตาเหล่าต้ากำลังยกแส้ขึ้นหวดหลานหยู้พอดี นางจึงตวาดด้วยความโกรธว่า “หยุดนะ”

เตาเหล่าต้าฟังเพียงคำสั่งของหลีโม่ สามารถพูดได้ว่าเขาไม่สนใจการมาถึงของเสี้ยโล่เยว่ที่ตวาดเสียงดัง เขาก็หวดแส้ลงอย่างไม่สนใจอะไร

หลานหยู้ถูกตีด้วยแส้หลายที นางใกล้จะสลบแล้ว กำลังขอความช่วยเหลือ เมื่อเห็นเสี้ยโล่เยว่มาถึง ก็รีบร้องขอความช่วยเหลือ “คุณหนูรองช่วยบ่าวด้วยเจ้าค่ะ”

ซือถูจิ้งยิ้มเย็นชาพร้อมกับพูดว่า “ดูเหมือนว่า หลานหยู้จะชำนาญหลักการของบ่าวรับใช้ที่สุดนะ คุณหนูใหญ่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวน ดังนั้นคำที่พูดกับคุณหนูใหญ่ก็มีแต่คำพูดยโสโอหัง แต่พอคุณหนูรองมา ก็เรียกตัวเองว่าบ่าว สีหน้านี่เปลี่ยนเร็วจริงๆ ”

พอเสี้ยโล่เยวเห็นซือถูจิ้งอยู่ด้วย ก็ไม่ล่วงเกิน ก้าวขึ้นไปถวายบังคม แล้วถามหลีโม่ว่า “หลานหยู้เป็นคนของท่านย่า ท่านพี่แขวนเอาไว้เช่นนี้ทั้งยังทุบตีอย่างทารุณมันไม่ดีนะเจ้าคะ”

หลีโม่รู้สึกแปลกใจที่เสี้ยหลีโม่จู่ๆ ก็โผล่มา เพราะถึงอย่างไร ช่วงนี้ทั้งสองคนไม่ได้มีการติดต่อกัน เสี้ยโล่เยว่สนใจแต่เรื่องเอาหัวใจของรัชทายาทกลับคืนมา จึงไม่มีเวลามาทำให้นางลำบากใจ

หลีโม่รู้นิสัยของเสี้ยโล่เยว่ดี นางไม่ได้ใจดีถึงขั้นมาช่วยหลานหยู้ขนาดนี้ มีเพียงอย่างเดียวที่จะเป็นไปได้ ก็คือเรื่องนี้เป็นนางที่สั่งให้ทำ

ดูท่าแขวนเอาไว้อย่างนี้จะไม่มีผลอะไร หลานหยู้เป็นคนปากแข็ง ก็คงต้องลงมือให้หนักกว่านี้หน่อย

ดังนั้นนางจึงยิ้มแล้วมองไปที่เสี้ยโล่เยว่ พูดว่า “น้องหญิงพูดได้มีเหตุผล แขวนเอาไว้เช่นนี้อันที่จริงมันก็ไม่ดี เสี่ยวเตา ปล่อยนางลงมา”

พูดจบ ก็เอากริชโยนให้เตาเหล่าต้า

เตาเหล่าต้ารับคำสั่ง พอกระโดดขึ้นไปก็ตัดเชือกขาดในครั้งเดียว หลานหยู้ร่วงลงพื้นเสียงดังปัก

หลีโม่มองไปที่หลานหยู้ ถามอย่างอดทนว่า “เย็นเอ๋อร์กับกุ้ยหยวนอยู่ที่ไหน?”

เมื่อหลานหยู้เห็นโล่เยว่มาแล้ว ก็ไม่หวาดกลัวเพราะมีคนเข้ามาช่วยแล้ว “คุณหนูใหญ่เหตุใดต้องทำให้พวกเราบ่าวรับใช้เหล่านี้ต้องลำบากใจด้วย? พวกเขาไปที่ไหนข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? หรือว่าคนของลานเสี้ยจื้อแอบไปอู้งานก็ต้องมาหาข้างั้นหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม