พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 230

ตอนที่ 230 คำสารภาพ

เตาเหล่าต้าฟังคำพูดที่ยังคงยโสโอหังของนางเช่นเดิม ถือกริชมองไปที่หลีโม่ “คุณหนูใหญ่ ท่านสั่งมาเถอะ”

หลีโม่ที่นั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ก็พูดว่า “เสี่ยวเตา เริ่มจากหน้าของนาง กรีดนางจนกว่านางจะพูดค่อยหยุด”

บ่าวรับใช้ต่างพากันมุมดูอยู่ด้านนอก เมื่อก่อนหลานหยู้อยู่ในจวนมีชื่อเสียงและความนิยมมากที่สุด ตั้งแต่พ่อบ้านเสี้ยฉวนถูกไฟคลอกตาย บ่าวรับใช้ในจวนทั้งหมดก็เป็นนางที่ดูแล

ถึงแม้ว่านางจะพูดยโสโอหัง ทำเรื่องอะไรก็ตัดสินใจคนเดียวทำคนเดียว แต่เพราะว่านางเป็นคนในเรือนของนายหญิงแก่ ใครก็ไม่กล้าล่วงเกินนาง มีความแค้นก็ไม่กล้าพูดสักคำ ตอนนี้เมื่อเห็นนางถูกทำร้ายจนมีบาดแผลไปทั้งตัว ใจลึกๆ ของทุกคนต่างก็กำลังโห่ร้องดีใจกันอยู่

วิธีการของหลานหยู้กับเสี้ยเฉิงนั้นต่างกัน เฉิงเสี้ยงก็ไม่ใช่คนที่ได้เรื่องอะไร แต่ว่าเขารู้เข้าใจการเมตตาต่อบ่าวรับใช้ ดังนั้นแม้บ่าวรับใช้จะรู้ว่าเขาเป็นคนใจร้าย แต่ก็ไม่ก็ไม่ได้พูดแค้นเคืองอะไรกับเขา

โชคร้ายของหลานหยู้ อันที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนชอบใจยิ่งนัก

แต่ว่า พอได้ยินคำสั่งของหลีโม่ ทุกคนต่างก็อดตะลึงไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่จะใจคอโหดเหี้ยมขนาดนี้ คนที่ดูถูกหลีโม่ก่อนหน้านี้ ก็ค่อยๆ พากันเป็นเปลี่ยนทัศนคติทันที

เตาเหล่าต้าถือกริชก้าวเข้าไป หัวเราะฮิๆ ขึ้นมาแล้วพูดว่า “หลานหยู้กูกูใช่หรือไม่? ขอล่วงเกินหน่อยนะขอรับ”

กริชในมือของเขาที่ถืออยู่ก็ร่วงลงมา แสงสะท้อนของกริชนั้นผ่านหน้าหลานหยู้ไปอย่างรวดเร็ว

หลานหยู้ยังไม่ทันได้สติกลับมา ก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนเย็นวาบแวบหนึ่ง ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดแสบๆ ร้อนๆ นางยื่นมือขึ้นมาจับครู่หนึ่ง เลือดก็ติดมือของนางมาด้วย

“เจ้าโหดเหี้ยมมาก เจ้าจะต้องได้รับกรรมตามสนอง” หลานหยู้ตะโกนด้วยความโกรธ จากนั้นก็หลบไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว คิดอยากจะให้เสี้ยโล่เยว่ปกป้องนาง

เสี้ยโล่เยว่คิดไม่ถึงว่าหลีโม่จะไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่น้อย กล้าทำเช่นนี้กับหลานหยู้ต่อหน้าของนาง นางก็โมโหขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “เสี้ยหลีโม่ เจ้าอย่ารังแกคนอื่นให้มันมากเกินไป เพื่อบ่าวรับใช้สองคนต้องทำให้วุ่นวายจนสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขนาดนี้เชียวหรือ? ”

หลีโม่ไม่สนใจเสี้ยโล่เยว่เลยแม้แต่น้อย แต่ยังคงจ้องไปที่หลานหยู้ “จะพูดหรือไม่พูด?”

หลานหยู้หดตัวลง แต่ก็ยังปากแข็งเช่นเดิม “ข้าพูดแล้วว่าข้าไม่รู้เรื่อง ถ้าเจ้ามีความสามารถ ก็ไปตามหาเอาเองสิ วันนี้ที่เจ้าทำร้ายข้า นายหญิงแก่จะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่นอน”

“จะทำร้ายหรือไม่ทำร้ายเจ้า นายหญิงแก่ของเรือนพวกเจ้าก็ไม่ปล่อยข้าอยู่แล้ว” หลีโม่ยกมือขึ้น บอกให้เตาเหล่าต้าลงมือต่อไป

เตาเหล่าต้าเดินเข้าไปหาหลานหยู้ ลากนางออกมา

เสี้ยโล่เยว่ใช้เท้าเตะออกไป ด่าออกมาอย่างเดือดดาลว่า “ไอ้สุนัขรับใช้ ต่อหน้าคุณหนูอย่างข้าก็กล้าบังอาจขนาดนี้เชียวหรือ? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”

เตาเหล่าต้าเอี้ยวตัวหลบไป ปล่อยหลานหยู้แล้วจับแขนของเสี้ยโล่เยว่ลากออกไป โยนทิ้งไว้ด้านนอกลานบ้าน

เตาเหล่าต้าเป็นคนที่ไม่ได้สนใจชนชั้นอะไร เขารู้จักแค่เพียงคนที่ให้ข้าวเขากินคนนั้น ในเมื่อเสี้ยโล่เยว่ขัดขวางคำสั่งของหลีโม่ เขาก็ลงมือกับนางอย่างไม่เกรงใจ

เสี้ยโล่เยว่โกรธจนหน้าเขียว ในชีวิตนี้นางยังไม่เคยถูกบ่าวรับใช้คนใดจัดการกับนางเช่นนี้เลย นางก็ลุกขึ้นมาทันที ชี้พวกบ่าวรับใช้ ด่าด้วยความโกรธว่า “พวกเจ้าตาบอดกันหรืออย่างไร? แต่ละคนยืนมองข้าถูกรังแก ไปจับมันมา ข้าอยากจะดูนักว่าหัวของมันจะแข็งขนาดไหน”

พวกบ่าวรับใช้ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของเสี้ยโล่เยว่ ทำได้เพียงเข้าไปอย่างฝืนใจ หลีโม่กวาดตามองอย่างเย็นชา พูดเสียงจริงจังว่า “ถอยไป”

ใบหน้าที่เย็นชาของนาง ทำให้มีความน่าเกรงขาม บวกกับองค์หญิงใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วย ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าเข้ามาเลยสักคน

เสี้ยโล่เยว่กระทืบเท้าเร่าๆ “ได้ เจ้ารอไปก่อน ข้าจะไปตามท่านย่ามา”

อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเตาก็กำลังใช้มีดกรีดบนใบหน้าของหลานหยู้ เลือดสีแดงสดไหลอาบแก้มลงมา น่ากลัวจนพูดไม่ออก

หลานหยู้กำลังร้องไห้โหยหวนเสียงดัง หลีโม่ก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “เสี่ยวเตา ตัดนิ้วของนาง”

หลานหยู้ตกใจจนตัวสั่น แม้ว่าคุณหนูรองจะไปตามนายหญิงแก่มาแล้ว แต่ว่า กว่านายหญิงแก่จะมา เกรงว่าชีวิตนางก็คงจะไม่มีแล้ว

“ข้าบอกแล้ว ข้าบอกแล้ว” ในที่สุดหลานหยู้ก็ยอมพูดแล้ว นางร้องไห้ไป ตะโกนพูดไป

สีหน้าท่าทางของหลีโม่ไม่เป็นมิตร “พูด”

หลานหยู้พูดไปร้องไห้ไป “เย็นเอ๋อร์อยู่ที่จุ้ยเย่วโหลว ส่วนกุ้ยหยวน ตอนนี้น่าจะอยู่ในทุ่งกว้างของชานเมือง”

“จุ้ยเย่วโหลว?” เฉินหลิ่วหลิ่วลุกขึ้นมา พุ่งเข้าไปตบหน้าของหลานหยู้อย่างรุนแรงสองครั้ง “นั่นมันโรงเตี๊ยม นังบ่าวรับใช้แก่ผู้นี้ ดูเหมือนว่าข้าไม่อยากให้เจ้ามีชีวิตต่อแล้วล่ะ เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับเย็นเอ๋อร์เชียวหรือ?”

หลังจากตบเสร็จแล้ว ก็ใช้เท้าถีบไปอีกหนึ่งที

เฉินหลิ่วหลิ่วเดิมทีก็เป็นคนฝึกวรยุทธ์อยู่แล้ว การเตะในครั้งนี้จึงรุนแรงไม่น้อย นางเตะไปที่ส่วนท้องของหลีโม่ หลานหยู้หายใจไม่ออกจนสลบไป

สีหน้าของซือถูจิ้งเองก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่ว่าตอนนี้การช่วยคนสำคัญกว่า จึงรีบสั่งคนของนางให้ไปเอาตัวของกุ้ยหยวนที่ทุ่งกว้างของชานเมืองมา ส่วนจุ้ยเย่วโหลว นางจะไปด้วยตัวของนางเอง

“หลีโม่ ที่จุ้ยเย่วโหลว เจ้าไปกับข้า” ซือถูจิ้งกล่าว

เมื่อหลีโม่เห็นสีหน้าท่าทางของนาง ก็รู้ว่าจุ้ยเย่วโหลวไม่ใช่สถานที่ธรรมดา แม้แต่องค์หญิงใหญ่ในตอนนี้ก็ยังหวาดกลัวถึงขนาดนี้

ก่อนจะออกไป หลีโม่กำชับเตาเหล่าต้าว่า “คอยดูแลอยู่ที่นี่ ถ้าไม่มีคำสั่งของข้า แมลงวันตัวเดียวก็เข้ามาไม่ได้ และไม่อนุญาตให้ใครออกไปจากที่นี่”

“เจ้าตัวนี้ล่ะขอรับ?” เตาเหล่าต้าชี้ไปที่หลานหยู้แล้วถามขึ้นมา

“โยนออกไป” หลีโม่มองไปอย่างรังเกียจ

“จะปล่อยนางไปง่ายๆ ขนาดนี้เลยหรือ?” เฉินหลิ่วหลิ่วถามหลีโม่ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

หลีโม่ยิ้มอย่างเย็นชา มองร่างที่สั่นเทาของหลานหยู้ จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร? ไม่ ไม่ปล่อยแน่

แต่ว่า ให้นางกลับไปหานายหญิงแก่ก่อน เขย่าภูเขาให้สั่นสะเทือนจนเสือมันตกใจ สั่นสะเทือนไปถึงแม่เสือแก่ตัวนั้น

เตาเหล่าต้ายกหลานหยู้ขึ้นมาแล้วโยนออกไปข้างนอกด้วยสภาพเช่นนี้ หลังจากโยนออกไป บ่าวรับใช้ถึงกล้าเข้ามาใกล้ เอาตัวนางส่งกลับไปที่เรือนของนายหญิงแก่

เดิมทีนายหญิงแก่ก็คิดว่าหลีโม่จะลงโทษหลานหยู้เพียงเล็กน้อย พอได้ฟังเสี้ยโล่เยว่พูดมาก็ยังนึกว่านางพูดเกินความจริง แขวนอะไรกรีดหน้าอะไร นางไม่คิดว่าเสี้ยหลีโม่จะกล้าทำถึงขนาดนั้น ถึงอย่างไรหลานหยู้ก็เป็นคนของนาง

แต่พอเห็นบ่าวรับใช้พยุงหลานหยู้กลับมา นางถึงได้รู้ว่าเสี้ยโล่เยว่ไม่ได้พูดเกินจริงไปเลยแม้แต่น้อย

“ไปเชิญหมอมา” ยังไงก็เป็นคนที่นายหญิงแก่รักมาก พอเห็นสภาพหลานหยู้เป็นเช่นนี้ ความโกรธแค้นก่อนหน้านี้ล้วนย้ายไปที่ตัวของหลีโม่ทั้งหมด

หลานหยู้คุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น “นายหญิงแก่ ท่านต้องจัดการให้บ่าวนะเจ้าคะ”

ชุ่ยยุ่นพยุงนางขึ้นมา กลั้นน้ำตาเอาไว้ก่อนจะพูดว่า “เหตุใดคุณหนูใหญ่ถึงได้ใจคอโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้? เพิ่งจะเป็นแค่คนอายุสิบเก้าปีแท้ๆ แต่กลับโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้ ต่อไปถ้าแต่งเข้าตำหนักอ๋องจริงๆ จะขนาดไหนกัน?”

“คนของนางล่ะ?” นายหญิงแก่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“บ่าวทนไม่ไหว ก็เลยสารภาพไปแล้วเจ้าค่ะ” หลานหยู้พูดไปร้องไห้ไป “ตอนนี้นางกับคุณหนูใหญ่ออกไปด้วยกันแล้วเจ้าค่ะ”

“ท่านย่า แม้ว่านางไม่อยู่ แต่หลี่ซื่อกับเด็กรับใช้ที่ลงมือยังอยู่นะเจ้าคะ” เสี้ยหลีโม่รีบพูดขึ้นมา

นายหญิงแก่เงยหน้าขึ้นมองเสี้ยโล่เยว่ พูดด้วยความโมโหอย่างอดไม่ได้ “เจ้าก็อีกคน อยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องเพื่ออะไร? นางไม่มาหาเรื่องเจ้าก็แล้วไป แต่เจ้ายังไปหาเรื่องนาง นางในตอนนี้ก็เป็นคนที่ครอบครัวตกอับ ผู้ใดไปหาเรื่องผู้นั้นก็โชคร้าย”

“ท่านย่า ทั้งหมดนี้ก็เพราะว่าองค์รัชทายาททำตัวห่างเหินกับข้าไม่ใช่หรือ? น้ำเสียงเช่นนี้ข้าจะกลืนมันลงได้อย่างไรเจ้าคะ?” เสี้ยโล่เยว่กล่าวอย่างน้อยใจ

นางรู้ว่าท่านย่าของนางนับวันยิ่งอ่อนแอลง เมื่อก่อนช่างน่าเกรงขามเหลือเกินไม่ใช่หรือ? ตอนนี้แม้แต่จะจัดการกับเสี้ยหลีโม่คนเดียวยังกลัวจนหัวหด

นายหญิงแก่พูดเสียงเย็นชาว่า “องค์รัชทายาทห่างเหินกับเจ้า มันเป็นความผิดของเจ้าเอง วันนั้นจริงๆ แล้วก็ไม่ควรไปร่วมมือพวกเหลียงซื่อและซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยเลย ทั้งยังลากองค์รัชทายาทลงน้ำไปด้วย เรื่องนี้ ไถ้ฝู้โกรธมาก ก็เลยกดดันบิดาของเจ้าไปด้วย”

เสี้ยโล่เยว่เห็นนายหญิงแก่เอาแต่ว่านางอย่างเดียว ไม่ได้ส่งคนไปเอาตัวของเตาเหล่าต้ากับหลีซื่อมา พูดไปกระทืบเท้าไป “ท่านย่า คงไม่ใช่ว่าท่านกลัวหลีซื่อแล้วนะ? หากว่าท่านกลัวล่ะก็ ไม่แตะต้องหลีซื่อก็ย่อมได้ แต่ต้องเอาตัวเด็กรับใช้ผู้นั้นมาก็พอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม