พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 232

ตอนที่ 232 ไม่มีสาวใช้คนนั้น

ลูกน้องของติ่งเฟิงพาพวกนางมายังห้องห้องหนึ่ง แล้วเคาะประตูเบาๆ “คุณหนูใหญ่!”

“มีเรื่องอะไร!” มีเสียงส่งออกมาจากด้านใน

เป็นผู้หญิงนี่นา หลีโม่แปลกใจ

“องค์เสด็จ” ลูกน้องกล่าว

ด้านในเงียบเสียงลง แล้วมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก ภาพที่เห็นคือหญิงสาววัยรุ่นที่สวมชุดดำกรมท่า รูปร่างหน้าตาเข้มๆ หน้าตาคม ไม่มวยผมแบบผู้หญิง แต่ทำทรงผมผู้ชาย

เมื่อนางเห็นองค์หญิง ก็ทำความเคารพว่า “ไม่ทราบว่าองค์หญิงจะเสด็จมา ข้าไม่เตรียมตัว โปรดอภัยด้วย !”

ซือถูจิ้งมองไปที่นาง “เข้าไปคุยกันข้างใน”

“เพคะ ” แล้วนางก็สั่งลูกน้องว่า “ไปชงชามา”

“ขอรับ!” ลูกน้องหันหลังเดินออกไป

เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน หลีโม่ก็สังเกตภายในห้อง เครื่องตกแต่งในนั้นล้วนทำด้วยไม้เรดวู๊ดอย่างหรูหรา มีบัญชีวางอยู่บนโต๊ะ วางซ้อนกันเป็นกองกองดูแล้วตาลาย

ห้องทำงานนี้ยังมีห้องรับแขกเล็กๆอีกด้วย เถ้าแก่หูเชิญนางทั้งสองนั่งลง แล้วเถ้าแก่หูก็สังเกตหลีโม่

“หลีโม่ ท่านนี้คือเถ้าแก่ใหญ่ของติ่งเฟิง หูฮวนซี แม่นางฮวนซี ส่วนท่านนี้คือลูกสาวของจวนเฉิงเสี้ยง เสี้ยหลีโม่ ” ซือถูจิ้งแนะนำ

หูฮวนซีมองหลีโม่ด้วยความแปลกใจ “ที่แท้เจ้าก็คือเสี้ยหลีโม่ ลูกสาวคนโตผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของจวนเฉิงเสี้ยง”

หลีโม่ยิ้ม “ชมว่าชื่อเสียงโด่งดังคงจะรับไว้ไม่ได้ ข้าก็ได้ยินชื่อเสียงของติ่งเฟิงมานาน ไม่นึกว่าเถ้าแก่ใหญ่จะเป็นสาวงามวัยรุ่นเช่นนี้”

ซือถูจิ้งยิ้มแล้วพูดว่า “เถ้าแก่ใหญ่เป็นช่างเป็นผู้หญิงแก่จริงๆ”

หูฮวนซีโบกปัด “พอเถิด องค์หญิง ท่านอย่ายกยอข้าเลย ข้าเป็นแค่คนทำการค้าที่เนื้อตัวเหม็นไปด้วยกลิ่นเงินทองแดง”

หลีโม่ไม่อยากทักทายให้เสียเวลา นางกังวลว่าเย็นเอ๋อร์จะเกิดเรื่อง ก็เลยพูดเข้าเรื่องเลย “เถ้าแก่หู วันนี้รบมากวนถาม มีเรื่องอยากจะรบกวนให้เจ้าช่วย ”

หูฮวนซีพูดอย่างใจกว้าง “คุณหนูใหญ่เชิญพูดเลย”

หลีโม่พูด “ข้ามีสาวใช้นางหนึ่ง ถูกขายมายังจุ้ยเย่วโหลว ไม่ทราบว่าจะขอให้ท่านเถ้าแก่ใหญ่ออกหน้าแทนข้า ไปนำตัวนางออกมาได้มั้ย? จุ้ยเย่วโหลวซื้อตัวนางไปเท่าไร ข้าจะจ่ายคืนให้10เท่า”

หูฮวนซีขมวดคิ้ว “ถูกขายไป? เจ้าแน่ใจนะ?”

“ใช่ คนที่ขายตัวนางไปเป็นคนพูดเอง ” หลีโม่กล่าว

หูฮวนซีมองไปที่หลีโม่ สายตาเหมือนจะแปลกใจ แต่ก็พูดชมเชยขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ทำเพื่อสาวรับใช้ขนาดนี้ ช่างน่าเคารพจริงๆ”

“นางเสียสละเพื่อข้ามากมาย ข้าไม่อยากให้นางถูกรังแก ” หลีโม่พูดอย่างมั่นใจ

หูฮวนซีพยักหน้า “ได้ ดูจากมิตรภาพของคุณหนูใหญ่ ข้าจะช่วยเจ้าแน่นอน”

หลีโม่คิดไม่ถึงว่านางจะตอบตกลงเร็วขนาดนี้ เลยพูดอย่างดีใจว่า “ เช่นนั้นก็รบกวนเถ้าแก่ใหญ่ด้วยก็แล้วกันนะ บุญคุณครั้งนี้ ข้าจะจดจำไว้ ”

หูฮวนซียิ้มมองมาที่ซือถูจิ้ง “ บุญคุณอะไรกัน? ข้ารู้หน้าที่ต่างหากเล่า ไม่เช่นนั้นละก็องค์หญิงใหญ่รับสั่งขึ้นมา ข้าก็ต้องไปทำตามอยู่ดี ข้าก็เลยรับจัดการเสียเอง แถมยังได้แสดงความภักดีต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ด้วย”

ซือถูจิ้งหัวเราะแล้วด่าหยอกๆว่า “พอได้แล้ว เก็บคำพูดการค้าของเจ้าเสีย เรื่องนี้ยกให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน”

หูฮวนซีพูดยิ้มๆว่า “ให้ข้าจัดการก็ได้ แต่ว่า พวกเจ้าก็ต้องไปกับข้าด้วย อย่างน้อยก็ให้พวกนั้นรู้ว่าไม่ใช่ความต้องการของข้า แต่มีคนเดือดร้อนมาร้องเรียนให้ข้าช่วย”

ซือถูจิ้งถาม “ ทำไมล่ะ? ยังมีคนกล้าลองดีกับอำนาจของเจ้าอีกหรือ? ดูท่าคงจะอยากตายละคนพวกนั้น”

ถึงแม้จะยิ้มไปพูดไป แต่น้ำเสียงของซือถูจิ้งก็จริงจัง

หูฮวนซีพูดว่า “จะให้พวกคนแก่มายอมเชื่อฟังเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั้น ใครมันจะมายอม? ยังดีที่เห็นแก่นายท่านข้า เลยไม่มาหาเรื่องกับข้า แต่เบื้องลึกนั้น ก็มีแต่คนเกลียดข้าจนอยากจะดึงเอ็นลอกหนังข้า โดยเฉพาะทางบ้านนั้น มีแม่ทัพใหญ่หนุนหลังอยู่ ยิ่งทำให้ไม่เกรงกลัวใคร”

“อื้ม ข้าเข้าใจแล้ว งั้นก็ไปเถอะ รีบจัดการเสีย หลีโม่ใจร้อนจะแย่แล้ว ” ซือถูจิ้งพูด

หูฮวนซีก็ไม่ชักช้า บอกไปก็ไปทันที

ตอนที่ลูกน้องยกชามาให้ พวกนางก็ออกไปพอดี

หลีโม่เดินตามข้างหลัง รู้สึกว่าหูฮวนซีคนนี้ถึงแม้จะเป็นผู้หญิง แต่ใจกล้ามาก ความกล้าเช่นนี้เกิดจากที่ทำงานด้านการค้ามานาน

เป็นดั่งที่องค์กล่าว นางเป็นผู้หญิงมหัศจรรย์จริงๆ

ทั้งสามนั่งรถม้ามาถึงยังจุ้ยเย่วโหลว ตอนนี้เป็นช่วงที่จุ้ยเย่วโหลวเริ่มจะคึกคักขึ้นมา

เนื่องจากทั้งสามเป็นหญิง ก็เลยไม่ได้เข้าประตูหลัก แต่เข้าประตูข้างๆแทน

กุยนู๋รู้จักกับหูฮวนซี ก็เลยเชิญพวกนางเข้าไป

“ไปเรียกนายน้อยของพวกเจ้ามา ” หูฮวนซีกล่าว

กุยนู๋ตอบ “เถ้าแก่ใหญ่รอสักครู่ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”

ท่าทางของกุยนู๋มีมารยาทมาก แต่เมื่อเดินพ้นประตูไป หลีโม่ได้ยินเขาทำเสียงไม่พอใจ ท่าทางเหยียดหยามมาก

นางมองไปยังหูฮวนซี เห็นนางนั่งนิ่งๆ เหมือนกับไม่สนใจอะไร

รอไป รอไปจนถึงครึ่งชั่วยาม ถึงจะมีชายหนุ่มสวมชุดสีแดงเดินเข้ามา

เขาก็คือนายน้อยของบ้านน้อยตระกูลหู ชื่อว่า หูซิง

หูซิงไม่รู้จักซือถูจิ้ง แต่ก็ตะลึงต่อความงามของซือถูจิ้งและหลีโม่ แล้วก็ตั้งใจมองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หัวเราะยิ้มพูดกับหูฮวนซีว่า “อ้าว น้องพี่จะเอาสาวงามมาให้พี่อย่างนั้นหรือ? ดูจากความงามของพวกนางแล้ว สามารถเป็นตัวท็อปของจุ้ยเย่วโหลวได้เลยนะเนี่ย ”

หูฮวนซีพูดนิ่งๆว่า “นั่นน่ะสิ เจ้าถามองค์หญิงดูเองก็แล้วกันว่าจะยอมเป็นตัวท็อปของจุ้ยเย่วโหลวของเจ้าหรือไม่?”

หูซิงหน้าเปลี่ยนสี แล้วก็มองหลีโม่กับซือถูจิ้งอย่างแปลกใจ โดยไม่รู้ว่าองค์หญิงที่นางพูดถึงคือคนไหน

ซือถูกจิ้งพูดขึ้นว่า “เถ้าแก่หู จะให้ข้ามาเป็นตัวท็อปของร้านเจ้า ก็ย่อมได้อยู่ เรื่องนี้เจ้าต้องไปปรึกษากับอาซ้อของข้าดูก่อนก็แล้วกัน”

อาซ้อของนาง ไม่ใช่ฮองไทเฮาหรอกหรือ?

หูซิงตกใจ แล้วรีบพูดว่า “ขอประทานอภัยองค์หญิง ปากของข้ามันชอบหาเรื่อง”

หูฮวนซีพูด “เอาเถอะ อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ข้าถามเจ้าหน่อย วันนี้จุ้ยเย่วโหลวมีเด็กไหม่เข้ามาใช่มั้ย? ถูกขายเข้ามาทำงาน”

หูซิงมองไปที่หูฮวนซีอย่างสงสัย แล้วก็มองไปที่ซือถูจิ้งและหลีโม่ ส่ายหัวพูดว่า “วันนี้งั้นหรือ? ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ข้าไม่ได้สนใจ ”

ปากเขาพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็นึกขึ้นได้ว่า วันนี้เห็นมีเด็กไหม่เข้ามา แม่เล้าเป็นคนจัดแจงซื้อมา แต่หญิงคนนั้นเข้ามาก็ร้องไห้ร้องห่ม บอกว่าอยากตาย ไม่เป็นมงคลเอาสะเลย ตอนนี้ให้คนไปเฝ้าไว้อยู่ ถ้าสอนให้ทำงานไม่ได้ ก็คงจะต้องขายให้กับหอนางโลมอื่นต่อไป

ดูเหมือนว่า หญิงคนนั้นจะเป็นตัวปัญหา เพราะหูฮวนซีมาเยือนถึงที่ ทั้งยังเอาองค์หญิงมาด้วย

เรื่องนี้จะยอมรับว่ามีไม่ได้เด็ดขาด

หูฮวนซีพูด “เจ้าไม่รู้หรือ? งั้นก็ไปถามสิ ”

หูซิงตอบรับ แล้วก็เรียกลูกน้องว่า “ เด็กๆ ไปถามแม่เล้าทีว่า วันนี้ได้มีเด็กไหม่เข้ามาทำงานมั้ย?”

“รับทราบ !” กุยนู๋ออกไป ไม่นานก็กลับมา “นายน้อย ข้าถามแล้ว แม่เล้าบอกว่าวันนี้ไม่ได้ซื้อสาวคนไหนมาเลย ”

หูซิงมองไปที่หูฮวนซี “ น้องพี่ เจ้าคงมาถามผิดที่แล้ว วันนี้จุ้ยเย่วโหลวไม่ได้รับซื้อสางงามคนไหน เอางี้ ลองไปถามที่อื่นดูไหม?”

หูฮวนซีเหมือนจะเชื่อคำพูดของหูซิง “อื้ม ข้าก็ถามไปอย่างนั้นแหละ ถ้าไม่ได้ซื้องั้นก็แล้วไป เอ้อ แล้วกิจการของจุ้ยเย่วโหลวเป็นเช่นไรบ้าง?”

“ไม่ดีเลย ไม่ดีมาตลอด ” หูซิงได้ยินนางถามเช่นนี้ ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ แล้วรีบตอบไป

จุ้ยเย่วโหลวนี้ก็เป็นกิจการของตระกูลหู เพราะตอนแรกเงินที่เอามาลงทุนนั้น เป็นเงินส่วนกลางของตระกูล แต่กำไรที่ได้เขาไม่เคยส่งกลับมาให้ตระกูลเลย ขาดทุนอย่างมาก บัญชีทุกไตรมาสที่ทำส่งมาก็ล้วนปลอมแปลงขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม