พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 233

ตอนที่ 233 หลอกใช้องค์หญิง

หูฮวนซีได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วพุดว่า “ข้ารับช่วงมาดูแลติ่งเฟิงได้1ปีแล้ว ใน1ปีมานี้ พวกกิจการที่ไม่มีกำไรและกิจการที่ไม่เป็นประโยชน์ ข้าก็ช่วยพยุงเอาไว้ให้ ถ้าจุ้ยเย่วโหลวยังทำกำไรไม่อีกล่ะก็ เช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำต่อไป แล้วข้าก็จะให้คนไปตรวจสอบบัญชีทั้งหมด เจ้าไปบอกกับแผนกบัญชี อีกไม่กี่วันข้าจะไปรับช่วงต่อ”

หูซิงนึกไม่ถึงว่าหูฮวนซีจะพูดเช่นนี้ เพราะตอนที่หูซิงบอกว่ากิจการนี้ไม่ได้กำไร ก็เพราะกลัวว่าจะต้องให้เงินปันผลแก่ตระกูล

เพราะว่านายท่านตระกูลหูมีกฎว่า กิจการที่เปิดด้วยเงินกองกลาง ต้องแบ่งกำไรที่ได้50%เข้ากงสี หลายปีมานี้หูซิงได้แต่บอกกับนายท่านว่าจุ้ยเย่วโหลวไม่มีกำไร จริงๆแล้วนายท่านก็ไม่เชื่อ แต่ก็ถือว่าเป็นการเติมเต็มให้กับบ้านเล็ก และอีกอย่างนายท่านก็ไม่มีมาตรวจที่จุ้ยเย่วโหลว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย

แต่ว่า หูฮวนซีไม่ใช่นายท่านหู หลังจากรับช่วงต่อติ่งเฟิง ก็เข้มงวด ถ้าเป็นกิจการที่ไม่ได้กำไร นางก็จะตัดทิ้งไม่ทำต่อ

หลีโม่กัดปากยิ้ม จริงๆแล้วตั้งแต่ที่หูซิงบอกว่าไม่ได้ซื้อเด็กไหม่เข้ามา นางก็รู้แล้วว่าหูซิงโกหก

ถ้าคนที่กำลังโกหกอยู่ ถึงแม้คำโกหกนั้นจะแนบเนียนเพียงใด แต่สีหน้าและท่าทางก็จะบ่งบอกมาเอง หลีโม่เคยเรียนจิตวิทยามา ดังนั้นเพียงแว๊บเดียวก็ดูออกว่าหูซิงพูดโกหก

หูซิงปฏิเสธ หูฮวนซีไม่มีทีท่าสงสัย แต่กลับรีบเชื่อไปเลย ครู่เดียวก็เปลี่ยนเรื่องคุย ว่าจะเลิกกิจการจุ้ยเย่วโหลว เรื่องนี้สำหรับหูซิงแล้ว เป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวพันกับชีวิตของเขาเลย

ดังนั้น เขาก็เลยไม่กล้ารับคำพูดของหูฮวนซี แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย “เอ้อ น้องพี่ เจ้าบอกว่าตามหาเด็กสาวคนหนึ่ง นางเป็นคนรับใช้บ้านไหนหรือ?”

หลีโม่ก็พูดขึ้น “คุณชายใหญ่ สาวใช้นั่นเป็นของข้าเอง มีคนบอกว่าถูกขายตัวมาที่จุ้ยเย่วโหลว ”

“เจ้าคือ? ” หูซิงมองไปที่หลีโม่ แล้วก็สังเกตอีกครั้ง ถึงแม้นางจะนั่งเงียบอยู่ตรงนี้ แต่มาดของนางนี่ไม่น้อยไปกว่าองค์หญิงใหญ่และเจ้าชั่วนั่นเลย

“ข้าชื่อว่า เสี้ยหลีโม่”

เสี้ยหลีโม่?

หูซิงรู้สึกว่าคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี หรืออาจจะพูดได้ว่า คนในเมืองหลวงล้วนคุ้นเคยกับชื่อนี้ดี ว่าที่พระชายาซื่อเจิ้ง ลูกสาวจวนเฉิงเสี้ยง คนที่ทำลายงานแต่งอ๋องเหลียงแล้วไม่โดนลงโทษ แล้วยังได้รับการโปรดปรานจากอ๋องซื่อเจิ้งแล้วฮองไทเฮาอีก

ได้ยินว่าอยู่ดีๆก็รู้การแพทย์ขึ้นมาอีก เหมือนกับนางตัวดีนั่น เมื่อก่อนยังเป็นสาวใช้ที่ฟังคำสั่งทุกอย่าง อยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป

ช่างแปลกประหลาดจริงๆ ช่วงนี้ทำไมพวกผู้หญิงอยู่ดีๆก็กล้าขึ้นมานะ?

“ที่แท้ก็คือคุณหนูของจวนเฉิงเสี้ยง ข้าเสียมารยาทแล้ว!” หูซิงพูดยิ้มไม่จริงใจ

“คุณชายใหญ่กล่าวเกินไปแล้ว ” หลังจากหลีโม่รู้แผนการของหูฮวนซีแล้วก็ไม่รีบร้อน นั่งนิ่งๆรอหูซิงเอาคนมาส่งคืน

หูซิงถาม “เมื่อครู่คุณหนูเสี้ยพูดว่า มีคนเห็นกับตาว่ามีคนขายสาวใช้คนนั้นเข้ามาในจุ้ยเย่วโหลว คนคนนั้นมองผิดไปหรือเปล่า?”

หลีโม่ส่ายหัว “น่าจะไม่ผิดนะ เพราะว่า คนที่ขายนางเป็นคนพูดเอง บอกตามตรง สาวใช้คนนี้ผิดต่อข้า ข้าก็เลยหัวร้อนอยากจะขายนางทิ้งเสีย ถูกพ่อบ้านในจวนได้ยินเข้า เขาก็เลยคิดว่าข้าจะขายนางคนนั้นเสียจริงๆ แล้วก็ตัดสินใจขายนางมาจุ้ยเย่วโหลวโดยพละการ”

หลีโม่พูดเช่นนี้ ก็เท่ากับบอกกับหูซิงว่า การขายตัวเย็นเอ๋อร์นั้นเป็นความผิดของนาง ไม่เกี่ยวข้องกับจุ้ยเย่วโหลว ถ้าส่งคนคืนกลับมา ก็จบเรื่อง

หูซิงได้ยินเช่นนั้น ก็หัวเราะขึ้น “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ในเมื่อบอกว่าถูกขายมาในจุ้ยเย่วโหลวจริงๆ ก็แสดงว่าแม่เล้าฮัวเองก็คงไม่รู้เรื่อง เพราะนางมัวยุ่งกับเรื่องต่างๆ เกรงว่าจะไม่ได้สนใจเรื่องเล็กพวกนี้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะออกไปถามคนอื่นๆดู”

หลีโม่ยิ้ม “เช่นนั้นก็รบกวนคุณชายใหญ่ด้วยก็แล้วกัน ข้าคุ้นชินกับนางที่เคยอยู่ข้างกายข้าเสียแล้ว ถ้าเปลี่ยนคนข้าไม่ค่อยคุ้นชิน ก็เลยมารบกวนคุณชายใหญ่ที่นี่”

“ถ้าไม่มีเรื่องกันจะรู้จักกันหรือ คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเกรงใจ รอสักครู่ ดื่มชากันก่อน ” พูดจบ เขาก็คำนับซือถูจิ้ง แล้วจากไป

ประตูถูกปิดลง หูฮวนซียิ้มเย็นพูดว่า “ข้าไม่เห็นด้วยให้เปิดกิจการจุ้ยเย่วโหลวต่อ ควรจะล้มเลิกตั้งนานแล้ว”

ซือถูจิ้งมองไปที่นาง “เอาเถอะ เจ้าช่วยข้าเช่นนี้ เจ้าต้องการอะไรตอบแทนล่ะ?”

หูฮวนซีบอกว่า “องค์หญิงเข้าใจข้าผิดไปหรือเปล่า? ข้าต้องการข้อตอบแทนที่ไหนกันเล่า? ถือว่าเป็นน้ำใจของข้า”

“ไม่ต้องการใช่มั้ย? เช่นนั้นข้าก็จะคิดว่าเป็นน้ำใจของเจ้าก็แล้วกัน ” ซือถูจิ้งมองขวางไปที่นาง แล้วพูดอย่างโกรธๆ

หูฮวนซีหัวเราะ “ไม่มีอะไรปิดบังองค์หญิงได้จริงๆ”

นางปรับอารมณ์ไหม่ “คืออย่างนี้ ช่วงนี้เหลียงไท่ฝู้ติดต่อกับนายท่านของข้าบ่อยขึ้น แถมยังมีความคิดที่จะไปสู่ขอพระชายาให้กับองค์ชายรัชทายาทเองเสียด้วย ”

“สู่ขอ? ไม่ใช่มีว่าที่พระชายาแล้วหรอกหรือ? เสี้ยโล่เยว่ ลูกสาวของจวนเฉิงเสี้ยง ฮองเฮาก็มีราชโองการลงมาแล้วด้วย ” ซือถูจิ้งแปลกใจ

“เสี้ยโล่เยว่เป็นพระชายาองค์รัชทายาท แต่ถ้าจะนางสนมก็ได้อยู่นะ” หูฮวนซีพูดเบาๆ

หลีโม่และซือถูจิ้งสบตากัน ฮองเฮาและไท่ฝู้ช่างแผนกันจริงๆ

อันดับแรกให้เสี้ยโล่เยว่เป็นพระชายาหลวง สร้างอำนาจในราชสำนักให้มั่นคง จากนั้นก็ให้แต่งหูฮวนซีเป็นสนมมียศเหลียงตี้อีกคน เช่นนี้ ก็จะมีทั้งอำนาจ และเงินทอง มีบ่อเงินบ่อทองอย่างตระกูลหูเช่นนี้ พวกนั้นจะทำอะไรไม่ได้อีกเล่า?

ซือถูจิ้งยิ้ม “เป็นเหลียงตี้ขององค์รัชทายาทก็ดีนะ วันข้างหน้าองค์รัชทายาทครองบัลลังก์ พระชายาก็ได้เป็นฮองเฮา ส่วนเหลียงตี้อย่างเจ้า อย่างดีก็ได้เป็นสนมฮ่องเต้ พอมีลูกชาย ก็ได้เป็นสนมเอกกุ้ยเฟย”

“เอาเถอะ ท่านไม่ต้องมาเยาะเย้ยข้า จะกุ้ยเฟยก็ดี เหลียงตี้ก็ดี ใครจะเป็นก็เป็น ข้าไม่สนใจ”

หลีโม่ยิ้มเล็กๆ “แต่ว่า ถูกฮองเฮาและไท่ฝู้มองไว้แล้ว คงจะปฏิเสธยาก”

“ก็เพราะอย่างนี้ไง ” หูฮวนซีปุ้ยปาก “พวกท่านมาหาข้าพอดี ข้าเลยมีที่พึ่งแล้ว”

“เจ้าช่างหน้าด้านจริงๆ เอาคนรับใช้เล็กๆมาแลกให้ข้าช่วยขนาดนี้ ” ซือถูจิ้งถอนหายใจ

“หูฮวนซียิ้มพูด “ คนทำการค้าไง ก็ต้องหน้าด้านหน่อย องค์หญิงก็คุ้นชินหน่อยก็แล้วกัน”

ซือถูจิ้งหันไปมองหลีโม่ “เจ้าดู ความหน้าด้านของนาง ไม่แพ้เจ้าเลย”

ครั้งนี้ถึงคราวหลีโม้พูดอธิบายบ้าง “ข้าไปหน้าด้านตอนไหน?”

“เจ้าคิดดูเอง ” ซือถูจิ้งถอนหายใจ

หลีโม่นึกไปสักพัก ก็ถูก นางหน้าด้านที่หาพวกมาเป็นที่พึ่งมากมาย แต่ว่า มีคนตั้งมากมายทำไมไม่ใช้งาน? มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ? ต่อให้เป็นหญิงที่โดดเดี่ยวเพียงใด ก็ต้องมีคนคอยช่วยเหลือ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีเรื่องมากมาย ที่ทำคนเดียวไม่ได้ เส้นสายก็ต้องได้มาจากความสามารถของตนเอง

หรืออีกอย่าง คนที่มีเส้นสายก็แสดงถึงความสามารถของตน

เห็นหลีโม่เงียบไป ซือถูจิ้งก็พูดขึ้นว่า “ก็คงมีแต่ข้าที่โง่เขลา ในแคว้นต้าโจวแห่งนี้ ผู้หญิงกว่าครึ่งมีแต่จะถูกผู้ชายหลอกลวง แต่ข้ากลับถูกผู้หญิงอย่างเจ้าทั้งสองหลอกใช้ เอาเถอะ ใครให้ข้าใจอ่อนเองล่ะ?”

“ท่านก็ไม่ได้เห็นอะไรมามากมายแล้วหรือ? ” หลีโม่นึกคำของเฉินหลิ่วหลิ่วได้ ก็เลยดีใจหัวเราะขึ้นมา

“มันก็ใช่ ถือว่าไม่ขาดทุน!” ซือถูจิ้งพูดอย่างใจกว้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม