พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 237

ตอนที่ 237 บุคคลที่3ได้ประโยชน์

เตาเหล่ต้าเป็นคนซื่อ นึกว่าหลานหยู้จะยอมรับผิดจริงๆ ก็รับชามา “ อย่าคิดว่ายกน้ำชาให้แล้วขอโทษก็จะจบเรื่อง เจ้าทำร้ายกุ้ยหยวนอย่างหนัก แล้วยังขายเย็นเอ๋อร์ไปจุ้ยเย่วโหลวอีก ไม่ใช่เรื่องที่ชาถ้วยด้วยจะสะสางได้”

หลานหยู้จ้องชาถ้วยนั้น ท่าทางมีมารยาทมาก “ เพราะความโกรธชั่ววูบของข้า เลยทำเรื่องทำร้ายกุ้ยหยวนและเย็นเอ๋อร์ ข้ารู้สึกผิดมาก คุณหนูใหญ่จะลงโทษข้าอย่างไร ข้าก็จะไม่บ่นสักคำ แต่หวังว่าคุณหนูใหญ่จะไม่โทษนายหญิง เพราะล้วนเป็นความคิดของข้าน้อยเอง ไม่เกี่ยวกับนายหญิง”

หลีโม่หยิบชาจากมือเตาเหล่าต้า เปิดฝาออก มองไปมองมา แต่ยังไม่รีบดื่ม

หลานหยู้กลืนน้ำลาย หน้าเริ่มตึง สายตามองเกร็งไปตรงๆ กำมือแน่น ตื่นเต้นอย่างมาก

นายหญิงแก่มองไปตาขวางไปยังชุ่ยยุน ชุ่ยยุ่นก็รู้ความนัย เลยเข้าไปพูดว่า “คุณหนูใหญ่ ดื่มชาตอนกลางคืนไม่ดี เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ เดี๋ยวข้าน้อยจะไปเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าให้”

“ชุ่ยยุ่น” หลานหยู้รีบเรียกชื่อ “นี่เป็นชาที่ข้าตั้งใจมากขอโทษคุณหนูใหญ่ เจ้าอย่ามายุ่ง”

หลีโม่มองชาที่ถือ แล้วก็มองนายหญิงแก่ ท่าทางจะยิ้มไม่ยิ้ม “ท่านยา ท่านว่า จะเอาหลานหยู้ให้ข้าจัดการ หรือจะเอาชาถ้วยนี้ให้ตำรวจ”

นี่เป็นครั้งแรกที่หลีโม่เรียกว่าท่านย่า เรียกออกมาได้อารมณ์เย็นชามากๆ

นายหญิงแก่ไหล่ตก มองไปที่หลานหยู้ครู่หนึ่ง เจ็บใจเพราะอยากให้หลานหยู้ได้ดีกว่านี้

หลานหยู้ก็หน้าซีดขึ้นทันที

เสี้ยหลีโม่รู้ดีแต่แรกแล้วว่าในน้ำชานั้นมียาพิษ

ใช่แล้ว นายหญิงแก่พูดถูก นางไม่ใช่เสี้ยหลีโม่คนเดิมแล้ว นางไม่อยากจะเชื่อ เพราะว่าที่ผ่านมาในใจนางหลีโม่ก็เป็นแค่คนที่อ่อนแอและโง่เขลา นางลืมไปว่าที่ผ่านมา หลีโม่ไม่เพียงฉลาดหลักแหลม และยังเจ้าเล่ห์ด้วย

นางไม่ได้มองศัตรูต่ำไป แต่นางตีตัวเองสูงเกินไป

อีกอย่าง ชุ่ยยุ่น พูดถูก ต่อให้นายหญิงแก่จะยกย่องนางเพียงใด สุดท้ายก็เป็นแค่คนรับใช้

“นายหญิง ช่วยข้าน้อยด้วย!” ความกลัวเริ่มเข้ามาในหัวของหลานหยู้ นางมองนายหญิงแก่ ขอร้องอย่างหมดหวัง

นายหญิงแก่มองหลีโม่ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก “บอกข้าหน่อย เจ้าจะทำอย่างไรกับนาง?”

หลีโม่สายตาเป็นประกาย “เรื่องนี้ นายหญิงไม่ต้องถามหรอก!”

นายหญิงแก่มีสีหน้าขอร้อง “นางติดตามข้ามาหลายปี เจ้าอย่าลงมือกับนางหนักนะ”

หลี่โม่รู้สึกว่าตนเองหูฝาด แล้วก็เอาถ้วยชาในมือยื่นให้เตาเหล่าต้า “นายหญิงกำลังพูดว่า อย่าให้ข้าลงมือกับนางหนักเกินไป?”

สีหน้าขอร้องของนายหญิงแก่เปลี่ยนไปเป็นหน้าโกรธ แต่ก็อดกลั้นไว้ “ ใช่แล้ว อย่าลงมือกับนางหนักไป”

หลีโม่ยืดอกขึ้น สีหน้ายิ้มเย็น “นายหญิง ข้าขอคุยกับท่านสองต่อสองหน่อยได้มั้ย?”

นายหญิงแก่มองนาง เหมือนกำลังเดาใจนางว่าจะทำอะไร ครู่หนึ่ง นางก็ผายมือ “ ทุกคนออกไปก่อน ”

หลานหยู้เงยหน้า สีหน้าซีดๆมองไปที่หลีโม่ “คุณหนูใหญ่ เจ้าอย่ารังแกกันมากเกินไป ข้าไม่กลัวเจ้าไปแจ้งความ ขอแค่ข้าไม่ยอมรับผิด เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้ ”

หลีโม่ยิ้มเย็นขึ้น “หลานหยู้กูกู เมื่อก่อนข้าคิดว่าเจ้าฉลาดหลักแหลม แต่ว่า คราวนี้ถึงได้รู้ว่าเจ้านั้นโง่เขลาเบาปัญญายิ่งนัก ข้าสามารถเอาเย็นเอ๋อร์กลับออกมาได้ แล้วก็ช่วยกุ้ยหวนให้ปลอดภัย ทั้งยังหาคนกระทำผิดได้ด้วย เจ้าว่ามันยากมั้ย? และอีกอย่าง ถ้าข้าหาเบาะแสไม่เจอจริงๆ แล้วถ้าข้าอยากจะเอาความผิดทั้งหมดโยนให้เจ้า เจ้าคิดว่ามันยากสำหรับข้ามั้ย?”

หลานหยู้รีบลุกขึ้น แล้วชี้ไปที่หลีโม่พูดว่า “นายหญิง ท่านได้ยินหรือยัง นางจะใส่ร้ายข้า ท่านอย่าไปยอมนะเจ้าคะ เห็นแก่ที่ข้าดูแลติดตามท่านมาหลายปี ท่านต้องให้การช่วยข้าน้อยแก่ศาลนะเจ้าคะ”

นายหญิงแก่หลับตาลงเบาๆ แล้วผายมือออก “เอาตัวออกไป วันนี้ข้าอยากให้เรื่องจบๆไป แล้วอยู่อย่างสงบสุข อย่าดื้อดึงกันอีกเลย ไปเสีย ไปเสีย ”

ในห้องโถงหลัก เหลือแค่หลีโม่กับนายหญิงแก่2คน

นายหญิงแก่หายใจแรงขึ้น หน้าอกขยับแรงมาก นางกำลังควบคุมอารมณ์ตนเอง

“เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าส่วนตัว? ” นายหญิงแก่พูด ตาก็หรี่ลง เปิดตาเพียงเล็กน้อย ด้านในเป็นดวงตาที่เย็นชามาก

หลีโม่มองนาง นางตอนที่โกรธอยู่ ก็ยังมีความเสียใจแทรกด้วย

“เมื่อครู่นายหญิงบอกว่า หลานหยู้รับใช้ท่านมานาน ขอให้ข้าอย่าทำอะไรนางมากไป ใช่มั้ย?”

นายหญิงแก่พูดเบาๆ “เจ้าสงสารคนรับใช้ของเจ้าทั้ง2คน ข้าจะสงสารคนที่รับใช้ข้ามา30กว่าปีบ้างไม่ได้หรือ? คนนะไม่ใช่ท่อนไม้ จะได้ไม่มีความรู้สึก”

“ใช่ คนไม่ใช่ท่อนไม้ ” เสียงหลีโม่จริงจังขึ้น “ขนาดคนที่ไม่ได้มีสายเลือดอะไรกับท่าน ท่านยังรักเพียงนี้ ข้าล่ะ ข้าเป็นลูกคนเดียวของลูกชายท่าน ข้าเป็นหลานท่านแท้ๆ ท่านกลับจะบีบให้ข้าไปทางตัน ข้าไม่เข้าจริงๆ ว่าท่านทำไปเพื่ออะไร?”

สีหน้านายหญิงแก่ขาวซีด จ้องหน้าหลีโม่เขม็ง “เจ้าไม่ควรอย่างมาก เจ้าไม่ควรล้มงานแต่งเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว ”

“ ใช่ ผลประโยชน์ของจวนเฉิงเสี้ยงต้องยิ่งใหญ่กว่าสิ่งอื่น ” หลีโม่ลุกขึ้น “ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว”

เมื่อพูดจบ นางก็รีบเดินออกไป

เตาเหล่าต้าถามว่าควรทำอย่างไรกับหลานหยู้ หลีโม่ทิ้งท้ายเพียงว่า “มัดนางไว้ในป่าไผ่ ถ้าวันที่2นางยังมีชีวิตออกมาได้ เรื่องนี้ก็จบกันไป ถ้านางถูกงูพิษกัดตาย ก็ให้ทำการฝังนางด้วย ถือว่าเห็นแก่ความสงสารที่นายหญิงแก่มีให้นาง”

“เสี้ยหลีโม่ เจ้าอำมหิตเกินไปแล้ว ” นายหญิงแก่ได้ยินเช่นนั้น ก็รีบเดินออกมาตหวาด

หลีโม่หันกลับไป “นายหญิง ท่านใช้การกระทำสอนข้ามาตลอด ว่าอะไรคือการอมหิต”

เตาเหล่าต้ามองหลานหยู้อย่างโกรธแค้น หลานหยู้คิดจะหนี เตาเหล่าต้าก็รีบคว้านางเอาไว้ แล้วก็ใช้เชือกมัดมือนางไว้ แล้วก็เอาตัวไปสวนดอกไม้ด้านหลัง

“นายหญิง ช่วยข้าน้อยด้วย!” หลานหยู้ตะโกน

นายหญิงแก่จะก้าวเข้าไปช่วย แต่ก็เห็นหลานหยู้ถูกเตาเหล่าต้าอุ้มไป

นางปากคอแห้ง ปากสั่นระริก แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร นางยอมให้เสี้ยหลีโม่จัดการหลานหยู้แล้ว

ตอนที่หลีโม่เดินออกไป ก็ปะหน้ากันกับเสี้ยโล่เยว่

เสี้ยโล่เยว่ได้ใจจนยิ้มขึ้น “ความรู้สึกของการเข่นฆ่ามันดีใช่มั้ย?”

หลีโม่มองนาง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เดาผิดไป เป็นนางเองที่ยุแยงให้หลานหยู้วางยาพิษ แต่ไม่ได้อยากให้ตนเองตาย แต่ถ้าตายได้ตายก็ดี ถ้าไม่ตาย อย่างน้อยก็ทำให้ความแค้นของหลีโม่และนายหญิงแก่จะถึงขีดสุด

มาถึงขั้นที่ไม่เจ้าหรือข้าต้องตายกันไปข้าง

เสี้ยโล่เยว่คิดแผนเช่นนี้ไม่ออกหรอก แต่เฉินหลิงหลงที่คิดออก

ไม่ออกมาปะทะต่อหน้า แต่ยุแยงให้นายหญิงแก่กับหลีโม่หักกันเอง

“ไปบอกแม่เจ้านะ ถึงแม้ข้ากับนายหญิงแก้จะสู้กันจนตายไปข้าง ข้ากับแม่เจ้าก็ต้องมาคิดบัญชีกัน อยากจะเป็นตาอยู่มารอรับผลประโยชน์ ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ” หลีโม่พูดนิ่งๆ แล้วก็เดินจากไป

ดูเหมือนว่า จากที่เฉินหลิงหลงไปอยู่ที่สวนดอกไม้มาพักหนึ่ง คงจะเก็บอารมณ์ได้ดีขึ้นเยอะ

ก็นะ คนเราต้องเผชิญกับอะไรหลายๆอย่าง ถึงจะเติบโต ก่อนหน้านี้นางหยิ่งผยอง วางมาดเป็นฮูหยินเฉิงเสี้ยง ก็เลยยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ เมื่อคิดได้ ก็เลยกลับมาไหม่อีกครั้ง

เสี้ยโล่เยว่ตะลึง “เจ้าพูดอะไร? เกี่ยวอะไรกับแม่ข้า?”

นางมองตามไปที่หลังของหลีโม่ ในใจนั้นโมโห ว่าหลีโม่รู้แผนได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม