พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 24

ตอนที่ 24 ช่วยอ๋องเหลียงให้ฟื้นคืน

ซือถูเย้นเอาความหวังทุกอย่างไปฝากไว้ที่หลีโม่ ในวินาทีนั้น จากที่ไม่เชื่อเรื่องหมอผี ก็แอบสาบานอย่างเงียบ ๆ ถ้าหากว่าหลีโม่ช่วยชีวิตอ๋องเหลียงได้ เขาจะขอนางแต่งเป็นภรรยา

หลีโม่ในสมองรู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมา เลือดที่ออกที่หัวผสมกับเหงื่อไหลไปตกที่ร่างกาย ที่หน้าของอ๋องเหลียง

คนที่ตามนางมาอย่างหยางมามา ก็รีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาคอยซับเลือดซับเหงื่อให้หลีโม่ หลังจากเช็ดเสร็จก็รู้สึกว่าการกระทำของตัวเองออกแนวจะประหลาด เลยพูดไปว่า “ เพื่อไม่ให้ร่างกายอ๋องเหลียงเลอะเทอะ”

โชคดีที่คนที่อยู่ตรงนั้นใช้แรงทั้งหมดไปกับร่างของอ๋องเหลียง แม้กระทั่งฮองเฮาก็ไม่ห้ามการกระทำของนาง นางก็ค่อย ๆ ถอยออกไป

กระตุ้นไปห้าครั้ง หลีโม่ก็มึน ๆ งงๆ เดินลงจากเตียง เกาะของเตียง ถอนเข็มออกจากจุดฝังเข็ม หลังจากนั้นคุกเข่าลงอีกครั้งเพื่อเป่าปาก

ในที่สุด ก็ได้ยินเสียเฮือกจากอ๋องเหลียง แล้วก็ค่อย ๆลืมตาขึ้น

ทุกใจตื่นตระหนกตกใจ มีความรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ฮองเฮาร้องไห้เสียงดัง โผล่เข้าไปข้างหน้า “ ลูกแม่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง “

อ๋องเหลียงยังรู้สึกมึนงง จ้องมองฮองเฮาสักครู่ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง

แต่หลีโม่ที่อยู่รู้สึกหัวหมุนติ้วยื่นไม่อยู่ ในที่สุดแขนขาก็อ่อนแรงลง ภาพข้างหน้ามืดสนิท รู้สึกว่าโลกหมุน แล้วก็ล้มตัวลง

ซือถูเย้นที่อยู่ด้านหลังนางอุ้มนางไว้ ในเวลาที่ได้อุ้มนางนั้น สติก็ดึงให้คิดว่ารู้สึกผิดเล็กน้อย นางตัวเบาจนแทบจะไร้น้ำหนัก

หน้าผากมีเลือดและเหงื่อไหล อารมณ์สับสนเป็นพัลวันเรียกหมอหลิว “รีบมาห้ามเลือดให้นาง”

หลีโม่ถูกแบกไป อยู่ที่ห้องรักษาด้านนอกของฮองเฮา

ไต้เท้าหย้วนพ่านก่อนหน้า เพื่อวินิจฉัยอ๋องเหลียง จับชีพจรเพื่อดูจับอยู่นาน ฮองเฮามองเขาด้วยความเครียด “เกิดอะไรขึ้น”

ไต้เท้าหย้วนพ่านกลับไป​ ทูลฮองเฮา องค์ชายชีพจรยังไม่เข้าที่ สภาพร่างกายยังไม่ดีมาก แต่ว่า การมีชีวิตกลับมา อย่างไรก็ถือว่าดีอยู่มาก และยัง......”

“และยังอะไรหรือ” ฮองเฮารีบร้อนถามขึ้นมา อย่างโมโห “พูดให้มันเข้าใจง่าย ๆ หน่อย อย่ามาอึก ๆ อัก ๆ เรื่องมันเป็นอย่างทุกวันนี้มันยังจะมีอะไรอีก”

ไต้เท้าหย้วนพ่านก้มศีรษะลงต่ำ “ ยังคงต้องถามแม่นางเสี้ยอีกครั้ง”

ตอนนั้นเองไท่จื่อก็โมโหขึ้นมา” พวกเจ้าแต่ละคนเป็นหมอข้าวรึไง เป็นหมอหลวง รักษาอะไรกันแบบนี้ แล้วยังต้องไปถามผู้หญิงอีก ดูเถอะเลี้ยงพวกเจ้าไว้ในวัง สิ้นเปลืองเงินทอง แบบนี้ส่งออกนอกวังไปให้หมด”

ไต้เท้าหย้วนพ่านรีบคุกเข่าลง ด้วยความเกรงกลัว “โปรดอภัยด้วยไท่จื่อ อ๋องเหลียงอยู่ในจุดวิกฤติเต็มที ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับคุณหนูใหญ่ก็เป็นคนช่วยชีวิตอ๋องเหลียงไว้ หลังจากอาการกำเริบหนัก ท่านอ๋องเหลียงจะมีโรคแทรกซ้อนอะไรเกิดขึ้นก็ยังมิทราบได้ และก็ไม่ทราบว่าเมื่อสักครู่นี้คุณหนูใหญ่ใช้วิธีไหนในการรักษาท่านอ๋องให้ดีขึ้นมาได้ ดังนั้น นางจะรู้สภาพของท่านอ๋องเหลียงได้ดีที่สุด การถามนางจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

“อะไรคือช่วยไม่ช่วย เดิมที่ชีวิตอ๋องเหลียงไม่ควรขาด เป็นเพราะพวกเจ้าเป็นหมอข้าวที่ทำให้เขาตาย” ในใจไท่จื่อเกิดความโกรธค้าน เดิมที่คิดว่ากำจัดพวกนี้ไปก็เป็นแค่พวกหมอข้าวไร้ความหมาย ไม่คิดว่าพวกเขาจะช่วยให้ชีวิตฟื้นคืนมาได้ ถ้าหากว่าให้พวกเขารอดพ้นไปได้ เขาก็จะตามฆ่าคนพวกนี้อยู่ดี

อ๋องซื่อเจิ้งฟังไต้เท้าหย้วนพ่านพูดอย่างนี้ ก็พูดว่า” สั่งให้คนออกไปดูว่าเสี้ยหลีโม่เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากว่านางอาการดีขึ้นให้พานางมารักษาอ๋องเหลียงต่อ เจ้าคอยเฝ้าดูอยู่ที่นี่ ป้องกันอย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับอ๋องเหลียง”

“ พ่ะย่ะค่ะ “ ไต้เท้าหย้วนพ่านรับคำ เหลือบไปมองหน้าสีขาวซีดของหมอหลิว “รีบ ๆ ออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก”

หมอหลวงหลิวขาสั่น ขาอ่อนไม่มีแรงที่จะขยับเดินได้

อ๋องชื่อเจิ้งมองเข้าด้วยสายตาเฉียบคม “ พอแล้ว เจ้าอยู่เฝ้าที่นี่ไป ข้าจะไปดูด้วยตัวเอง”

ซือถูเย่นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนางอยู่ในวังถูกดอกคำฝอย กลับไปที่จวนก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสบายนัก แต่ทว่า เขายกคิ้วขึ้น “เจ้าพูดว่านางถูกพิษหรือ”

“ถูกแล้ว ท่านอ๋อง โดนพิษแน่ ๆ เป็นพิษรุนแรง ถึงแม้ว่าปริมาณจะไม่มาก แต่ทว่าสามารถทำร้ายอวัยภายในได้ โชคดีที่คุณหนูใหญ่มีความรู้เรื่องการฝังเข็ม จึงสงบพิษไว้ได้ ถ้าไม่สงบไว้ ป่านฉะนี้ คงจะครึ่งเป็นครึ่งตายก็ว่าได้”

ซือถูเย่จ้องมองหลีโม่อย่างพิจารณา “ใครเป็นคนวางยาพิษนาง”

หลีโม่เงียบไปครู่นึง ก็เห็นว่าอ๋องซื่อเจิ้งเป็นคนฉลาด ทำไมจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษนาง แต่ทว่าเขาถามออกมาแบบนี้ ก็แสดงว่าเขามีใจออกหน้าช่วยนาง แน่นอนว่า เพราะเห็นแกนางที่ช่วยชีวิตอ๋องเหลียงไว้

หลีโม่อยากจะพูด แต่นางรู้ว่าไม่ควรจะรีบร้อน โดยเฉพาะ ไม่อยากให้อ๋องชือเจิ้งรู้สึกว่าอยากได้ข้อแลกเปลี่ยนจึงช่วยชีวิตอ๋องเหลียงไว้

เกรงว่า ในใจอ๋องเหลียงจะรู้ว่านางคิดเช่นไร นางก็ไม่ควรจะเอ๋ยอย่างนั้น

ยิ่งตำแหน่งฐานันดรสูง ยิ่งไม่อยากปฏิสัมพันธ์กับคนที่คิดวางแผนล่วงหน้า

ดังนั้น หลีโม่ถามด้วยเสียงเบา “ ทูลท่านอ๋อง ข้าไม่รู้ว่าตัวเองโดนพิษได้อย่างไร “

ซือถูเย่ยกคิ้ว “ไม่รู้หรือ”

“ ใช่ ข้าไม่รู้”

ซือถูเย่จ้องมองนาง มองไปสักพักถึงย้อนไปถามหมอหลิว “อีกนานเท่าไหร่นางถึงจะลุกไหว”

หมอหลิวยังไม่ทันได้ตอบ หลีโม่ก็พยุงตัวขึ้นมา ยืนโอนเอนไปมา “ข้าไม่เป็นอะไรมาก ข้าขอตัวไปดูอ๋องเหลียงก่อน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม