พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 250

ตอนที่ 250 เจ้าจะต้องคิดหาหนทางได้

นางลากเท้าที่หนักอึ้งกลับมาถึงจวนเฉิงเสี้ยง หยางมามาถือตะเกียงไฟออกมา เห็นสีหน้านางซีดขาว จึงถามขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ นี่เกิดอะไรขึ้น?”

หลีโม่ส่ายหัว “ข้าไม่เป็นไร ท่านไปพักผ่อนเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆคนเดียวสักพัก”

หยางมามามองนางอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถาม “ได้ งั้นท่านก็รีบพักผ่อนเถอะ”

นางเข้าไปจัดเตรียมที่นอนให้หลีโม่ เห็นหลีโม่นั่งอยู่อีกด้านอย่างเม่อลอย ถอนหายใจเบาๆด้วยท่าทางหนักใจ “มีเรื่องอะไร ก็อย่าเพิ่งคิดเลย พักผ่อนเถอะ”

หลีโม่เงยหน้า มองหยางมามาอย่างสับสนหมดหวัง “ได้ ข้ารู้แล้ว”

หยางมามาหันเดินออกไป “คืนนี้บ่าวจะเฝ้าอยู่ข้างนอก หากคุณหนูใหญ่อยากมีคนคุยด้วย บ่าวก็อยู่ตลอด”

นางปิดประตู หลีโม่ได้ยินเสียงลากเก้าอี้ประตูข้างนอก นางรู้ว่าหยางมามาจะเฝ้ายามอยู่ที่นี่

หลีโม่ม้วนตัวนั่งอยู่ที่ข้างหน้าต่าง นางรู้ว่าซือถูเย้นตั้งใจพูดคำพวกนั้น จุดประสงค์ก็คือให้นางไป

แต่นางก็รู้ว่า ในใจเขาที่จริงก็โทษนางอยู่บ้าง เพียงแค่ไม่อยากต่อว่า นางอยากให้เขาด่านางออกมา นางอวดดีเกินไป เงื่อนงำในวันนั้น อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคผีดิบเลย

นางทำให้จื่นเฉิงตาย ทำให้พี่หวางตาย ทำให้ทหารองครักษ์คนนั้นตาย

นางทำให้เสี้ยฮ่าวหรานตายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีอีกสามคนที่ตายเพราะนางอีก

นางไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน ในหัวคิดเรื่องโรคผีดิบไปเรื่อย คิดว่าทำไมหวางหยูถึงฟื้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้

โดนฝังจุดชีพจรเข้าสู่สภาวะตายชั่วคราว แม้กระทั่งซือถูเย้นตอนนั้นก็ไม่มีหนทางฟื้นขึ้นมาได้ จะต้องรอนางถอดเข็มถึงสามารถฟื้นขึ้นมาได้

หวางหยูฝ่าจุดสะกดชีพจรได้ยังไง?

ครุ่นคิดทั้งคืน อะไรก็คิดไม่ออก ในหัวนางก็ยิ่งสับสนวุ่นวาย

เช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยวโธ่ก็มาถึงแล้ว

เมื่อคืนซือถูเย้นสั่งคนไปบอกเขา ให้พาหลีโม่ออกจากเมืองหลวง

เขาก็รู้เรื่องจื่นเฉิงแล้ว ดังนั้น วันนี้เมื่อมาถึงจวนเฉิงเสี้ยง เห็นหน้าหลีโม่แล้วคำแรกที่ถามคือ “เจ้าจะไปแบบนี้เฉยๆหรือ?”

หลีโม่ไม่พูดอะไร นางไม่อยากไป แต่หากไม่ไปแล้วอยู่ที่นี่จะช่วยอะไรได้?

นางช่วยอะไรไม่ได้

“ไปตอนนี้ จวนเฉิงเสี้ยงห้ามเจ้าไม่ได้ อีกวันสองวัน ถึงตอนนั้นต่อให้อยากไปก็ไปไม่ได้แล้ว” เซี่ยวโธ่พูดขึ้นอีก

หลีโม่มองดูเขา “งั้น เจ้าหวังอยากให้ข้าไปหรืออยากให้ข้าอยู่?”

“ข้าไม่รู้ ท่านอ๋องสั่งให้เจ้าไป เจ้าก็ต้องไป แต่ข้าอยากฟังข้อมูลจากปากเจ้า” เซี่ยวโธ่มองดูนาง ด้วยสายตาที่ยังมีความหวัง

แต่สายตาที่มีความหวังของเขาก็ค่อยๆดับลง เพราะสีหน้าที่มืดมนของหลีโม่

นางไม่มีหนทาง

เซี่ยวโธ่พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลว่า “ไปเถอะ”

หลี่ชุยหยุ่นเก็บของเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้ว หยางมามากับเตาเหล่าต้าเย็นเอ๋อร์ถือของยืนอยู่หน้าประตู ล้วนมองดูหลีโม่ รอคำสั่งหลีโม่

หลีโม่กลับนั่งลงบนบันไดหิน

“ข้าไปไม่ได้” หลีโม่เงยหน้ามองดูเซี่ยวโธ่อย่างกะทันหัน “เจ้ากลับไปบอกท่านอ๋องของเจ้า ข้าไม่ไปแล้ว”

“ไม่ได้ ท่านอ๋องเคยพูด หากเจ้าไม่มีหนทางรับมือโรคระบาด จะต้องรีบจากไป”

“ไม่” หลีโม่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “นางไม่ไป”

เซี่ยวโธ่โกรธจัด “เจ้ายังอยากทำยังไง? ตอนนี้ก็ทำให้จื่นเฉิงโดนกัดแล้ว เจ้ายังจะทำให้คนเดือดร้อนอีกกี่คน เจ้าถึงจะพอใจ?”

“เซี่ยวโธ่ เจ้าพูดบ้าอะไร? หุบปาก” เสียงใสไพเราะดังขึ้น ที่แท้ก็เป็นหลิ่วหลิ่วมา

นางหอบถุงผ้า พาคนใช้เข้ามาถึงข้างนอกก็ได้ยินคำพูดของเซี่ยวโธ่ จึงโกรธขึ้นมาทันที

เซี่ยวโธ่เงยหน้ามองนาง สีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ามาทำอะไร?”

หลิ่วหลิ่วมองดูหลีโม่ “จู๋หมู่สั่งให้ข้ามา นางบอกว่าเจ้าจะไปจากเมืองหลวง ให้ข้าไปเป็นเพื่อน”

หลีโม่อึ้ง “จู๋หมู่ของเจ้ารู้ว่าข้าจะไปจากเมืองหลวง?”

“ใช่ นางรู้”

“ใครเป็นคนบอกนาง?”

หลิ่วหลิ่วส่ายหัว “ไม่รู้ แต่คนเฒ่านี้ปกติก็จะรู้ไปทุกอย่าง ต่อให้ไม่มีใครบอกนาง นางก็สามารถรู้ได้”

หลีโม่ไม่พูดอะไร แต่รู้ว่าในกองทัพมีคนของเหล่าไท้จูน ในกองทัพมีคนติดโรคผีดิบ ราชสำนักจักต้องให้ความสำคัญ มีหมอก็ต้องถูกส่งตัวไป ดังนั้นจึงเดาว่าอ๋องซื่อเจิ่งจะต้องให้ตนเองจากไป

สิ่งที่นางไม่เข้าใจคือ ทำไมเหล่าไท้จูนถึงให้หลิ่วหลิ่วไปกับนางด้วย?

เซี่ยวโธ่มองดูเฉินหลิ่วหลิ่ว “เจ้าจะไปยุ่งอะไรด้วย? รีบกลับไป”

หลิ่วหลิ่วมองเซี่ยวโธ่อย่างเสียความรู้สึก “ทีแรกข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนแยกแยะความแค้นได้ กลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าก็เป็นคนไม่รู้จักแยกแยะอะไรเลย เจ้าพูดว่าหลีโม่ทำให้จื่นเฉิงตาย นั่นเป็นสิ่งที่นางต้องการหรือ? ไม่ใช่เพราะนางอยากช่วยคนหรือ?”

“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?” เซี่ยวโธ่จ้องมองนาง

“ซูชิงบอกข้าเอง” หลิ่วหลิ่วก้าวเท้าไปดึงมือหลีโม่ “จู๋หมู่บอกว่า เจ้าออกจากเมืองหลวงเป็นวิธีที่ดีที่สุด พวกเราไปกันเถอะ”

เซี่ยวโธ่ดึงแขนเฉินหลิ่วหลิ่วไว้ พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ทำไมซูชิงต้องบอกเรื่องนี้กับเจ้า?”

“ซูชิงมีอะไรก็บอกข้าทุกสิ่งอย่าง” เฉินหลิ่วหลิ่วสะบัดมือเขา “ยังไงข้าก็รู้ทุกอย่าง เจ้าไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าไปกับพวกเรา เจ้ากลับไปบอกท่านอ๋อง บอกว่าข้าเฉินหลิ่วหลิ่วพาหลีโม่ไป และตลอดทางข้าก็มีคนของจู๋หมู่จัดการดูแล ไม่มีใครสามารถทำอันตรายเราได้”

“ทำไมซูชิงบอกเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟัง? เพราะอะไร? ทำไมเขาต้องเล่าให้เจ้าฟัง?” เซี่ยวโธ่ยังไม่หยุดถามเรื่องนี้

“นี่ก็เป็นเพราะเจ้าไง? เจ้าแนะนำซูชิงให้ข้าได้รู้จัก รอเมื่อไหร่ที่เราแต่งงานกัน จะต้องเชิญเจ้าไปดื่มเหล้าในงานแต่งนะ”

เซี่ยวโธ่พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ใครอยากดื่มเหล้างานแต่งของพวกเจ้า? เจ้าจะพานางไปใช่ไหม? ดี มีตระกูลเฉินของพวกเจ้าออกหน้า ข้าก็ไม่ต้องอยู่ช่วยแล้ว”

พูดจบ สะบัดแขนเสื้อแล้วก็จากไป

หลีโม่มองดูหลิ่วหลิ่ว “เจ้าเล่นแรงไปไหม? เล่นถึงเหล้าแต่งงานเลยหรือ?”

หลิ่วหลิ่วพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ไม่ ไม่ได้พูดเล่นกับเจ้า หากเขาไม่มาสู่ขอข้า ซูชิงยินยอมแต่งกับข้า หากข้าต้องมีแค่คนแต่งงานด้วย ถึงตอนนั้นหากเขาเจอคนที่ถูกใจเขาก็แค่หย่ากับข้า”

ตอนนี้หลีโม่ไม่มีกะจิตกะใจคิดเรื่องพวกนี้ จึงมองนางแล้วพูดว่า “จู๋หมู่ของเจ้าจะคุ้มครองข้าออกจากเมืองหลวง?”

“เข้าไปคุยข้างใน” เฉินหลิ่วหลิ่วมองดูข้างหลัง เห็นไม่มีคนแล้วจึงดึงนางเข้าไป

เมื่อเข้าไปแล้ว นางปิดประตู แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เจ้าไปไม่ได้ จู๋หมู่บอกว่าตอนนี้ไท่เฟยกับนายหญิงแก่ได้กบดานคนไว้แล้ว หากเจ้าไป ออกจากเมืองหลวงไม่นาน ก็จะเจอนักฆ่า พวกนักฆ่าจะไม่เอาชีวิตเจ้าทันที แต่จะบังคับเจ้ากลับมาเมืองหลวงหรือจับตัวเจ้าไว้ ถึงตอนนั้นเมื่อมีราชโองการลงมา พวกเขาก็จะปล่อยเจ้า”

“พวกเขาร่วมมือกันแล้ว” หลีโม่ขมวดคิ้ว

“ใช่ คนเฒ่าในบ้านพวกเจ้าคนนั้น เป็นคนเห็นแก่ทรัพย์สินเงินทอง กุ้ยไท่เฟยเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้นางมากมาย เพื่อให้นางให้ความร่วมมือ”

“แต่ พวกเขามั่นใจว่าจะมีราชโองการลงมา?”

“แน่นอนสิ ฮองไทเฮาเป็นพี่สาวแท้ๆของกุ้ยไท่เฟย เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่เลว จู๋หมู่พูดว่า กุ้ยไท่เฟยได้เคยเข้าวังไปคุยกับฮองไทเฮาแล้ว ฮองไทเฮาก็หวั่นไหวแล้ว ตอนนี้หากสถานการณ์ยังแย่ลง ยังไงฮองไทเฮาก็ต้องมีราชโองการลงมา เขตโรคระบาดเป็นแผนการของพวกเขา เมื่อเจ้าเข้าไปในเขตโรคระบาด เจ้ารู้ผลที่จะตามมาไหม?”

หลีโม่ถามนางอย่างสงสัย “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมจู๋หมู่ของเจ้ายังให้เจ้าไปกับข้า?”

เฉินหลิ่วหลิ่วขยับเข้าใกล้นาง “จู๋หมู่บอกว่าเล่าสถานการณ์พวกนี้ให้เจ้าฟัง เจ้าจะคิดหาหนทางได้เอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม