พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 251

ตอนที่ 251 ได้เวลาตอบโต้บ้างแล้ว

หลีโม่คิดไม่ตก

หนีไป นายหญิงแก่กับกุ้ยไท่เฟยก็จะตามล่าอยู่ดี ถ้าหากตกอยู่กำมือของพวกนาง แน่นอนว่าต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเป็นแน่

ถ้าไม่หนี ก็จะต้องสู้ท่ามกลางคนชั่ว ยังไงตัวเองก็ต้องเป็นคนที่ถูกเตะออกไป

จะหนีก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อก็ไม่ได้ นี่ยังมีทางไหนให้นางเลือกเดินอีก?

“รู้จักสถานที่ดักซุ่มไหม?”หลีโม่ถามขึ้น

เฉินหลิ่วหลิ่วส่ายหัว “เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก ขอแค่เจ้าออกจากเมืองหลวงไป ก็จะมีคนตามปกป้องเจ้าตลอด ไม่ว่าจะเดินไปทางเหนือออกตกใต้ ก็จะมีคนตามอารักขาเจ้าทุกฝีก้าวอยู่แล้ว”

หลีโม่คิ้วขมวด ถ้าหากเป็นดังที่กล่าว อย่างนั้น ก็เหลือแค่ทางเดียวที่สามารถเลือกได้ ก็คือการวิจัยยาต้านไวรัสผีดิบขึ้นมาให้ได้

หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เฉินไท่จูนต้องการสื่อ?แต่เหตุใดเฉิน ไท่จุนถึงมั่นใจว่านางจะสามารถคิดค้นออกมาได้ล่ะ?

แม้แต่นางเองยังไม่แน่ใจเลย ไม่ ไม่ใช่ไม่แน่ใจ แต่ไม่มีความมั่นใจอะไรเลยต่างหาก

“เจ้าตั้งใจทำให้เซียวโธ่โมโหหรอ ก็คือไม่อยากให้เขาส่งข้าออกจากเมืองหลวงอย่างนั้นรึ ใช่ไหม?เจ้ามีที่อื่นให้ไปได้หรอ?”หลีโม่ถามขึ้น

“ใช่แล้ว ใกล้ๆประตูเมือง พวกข้ามีบ้านหลังหนึ่ง ติดกับกำแพงเมือง เจ้าสามารถพักที่นั่นได้ชั่วคราว ข้าจะตามไปกับเจ้า ถึงที่นั่น ข้าจะค่อยๆคิดแผนการ ถ้าหากไม่ไหวจริงๆ พี่ชายข้าจะล่อคนพวกนั้นออกไปเอง แล้วพวกเราค่อยหนีไป”

“จะล่อยังไง?หากข้าคาดเดาไม่ผิด ขอเพียงข้าก้าวออกจากจวนเฉิงเสี้ยง พวกเขาก็จะตามข้าไป ข้าหนีออกไปจากเมือง พวกเขาก็จะตามข้าไป”

“จุดนี้เจ้าวางใจเถิด พวกเขาสามารถรู้ได้ว่าเจ้าอยู่บ้านของตระกูลเฉิน แต่ถ้าหากเราจะไป พวกเขาจะไม่สามารถรู้ได้”เฉินหลิ่วหลิ่วพูดอย่างมั่นใจเต็มอก

หลีโม่คิดว่าวิธีนี้เป็นทางออกที่ดีในตอนนี้ ตอนนี้นางยังไม่อยากจากเมืองหลวงไป ถ้าหากสามารถหลบซ่อนตัวแล้วค่อยๆคิดหาวิธีแก้ไขแล้วก็ อาจจะหาทางที่ดีกว่านี้ได้

“ได้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ข้าจะไปกับเจ้า!”หลีโม่พูดขึ้น เปิดประตูสั่งการหยางมาม่า“แม่ของเจ้าให้นางอยู่ที่นี่ ข้าจะพาเตาเหล่าต้ากับเย้นเอ๋อร์ไป เจ้าเอาอยู่ไหม?”

คำเอาอยู่ในที่นี้ ก็คือสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้คนของจวนเฉิงเสี้ยงเข้ามายุ่งวุ่นวาย

หยางมาม่าพูด “เจ้าวางใจเถอะ มีพานดานอยู่ที่นี้ ถึงพานดานจะไม่ขอยู่งเกียวเรื่องของจวนเฉิงเสี้ยง แต่เขาไม่ยอมให้ฮูหยินต้องโดนกลั่นแกล้วรังแกหรอก ”

“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนมาม่าช่วยดูแลท่านแม่กับกุ้ยหยวนด้วยนะคะ วิธีการใก็ยาของกุ้ยหยวนข้าเขียนไว้ให้แล้ว ท่านช่วยหยิบยาตามขนาดที่ข้าเขียนไว้ให้นางกินก็พอแล้วค่ะ!”

“ข้ารู้แล้ว ขอคุณหนูใหญ่โปรดระมัดระวังตัวเองด้วย”หยางมาม่าไม่รู้ว่านางกับเฉินหลิ่วหลิ่วพูดคุยอะไรกัน แต่ต้องเป็นเรื่องที่วางแผนกันแน่ๆ เพราะฉะนั้น นางจึงไม่ถามให้มากความ

หลีโม่พาเตาเหล่าต้ากับเย้นเอ๋อร์ออกจากจวนเฉิงเสี้ยงไป ไม่มีใครถามว่าพวกเขาจะไปไหน

แต่ นางพึ่งออกไป ก็มีคนไปรายงานนายหญิงแก่แล้ว เวลานั้นเอง เฉิงเสี้ยงเสี้ยก็อยู่ที่นั่นด้วย

“นายหญิงแก่คะ คุณหนูใหญ่กับคุณหนูตระกูลเฉินออกไปแล้วเจ้าค่ะ”

นายหญิงแก่แสยะยิ้มขึ้น “นางหนีไปไหนไม่พ้นหรอก”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูด “ท่านแม่ พรุ่งนี้ควรลงมือแล้วใช่ไหม?”

“ไม่ต้องรีบหรอก ให้นางหลบซ่อนตัวก่อนสองวัน ให้เหตุการณ์มันรุนแรงก่อนแล้วค่อยลงมือเถอะ”นายหญิงแก่พูด

เฉิงเสี้ยงเสี้ยจึงลังเลไปครู่หนึ่ง “แต่ว่า หากเรื่องมันใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้ กลัวว่าพวกเราก็ไม่สามารถควบคุมได้นะขอรับ”

“เจ้าวางใจเถอะ ข้ามีวิธีของข้า ตอนนี้จุดที่ปล่อยโรคผีดิบมีอยู่สี่จุด ถึงตอนนั้นฆ่าเสี้ยหลีโม่เสีย เหตุการณ์วุ่นวายหลังจากนั้น ราชสำนักจะต้องบีบให้อ๋องซื่อเจิ้งฆ่าคนที่อยู่บริเวณนั้นๆที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ อย่างนั้น พวกราชครูก็จะได้โอกาสพากันครหาว่าเขาจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยส่ายหัว “ไม่หรอก ท่านแม่ บางครั้งสถานการณ์ก็อาจตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน ระหว่างนั้นอาจจะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงมากมาย นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ พวกเราจะต้องควบคุมการติดเชื้อของคน จะปล่อยเชื้ออีกไม่ได้แล้ว”

“มาวันนี้มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่พวกเราจะควบคุมได้แล้ว แค่ปล่อยเชื้อออกไปหนึ่งจุด ก็จะไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะควบคุมมันได้แล้ว เจ้าก็อย่ากังวลใจไปนักเลย เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว เดินหน้าตามแผนการต่อเถอะ ตายแค่ไม่กี่คน จะนับอะไรได้”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยรู้สึกไม่วางใจ หลังจากที่เรื่องนี้เงียบลง หากเกิดการตรวจสอบขึ้น เป็นไปได้ที่จะสาวมาถึงตัวเขาไม่ได้

“จบเรื่องนี้แล้วเกิดการตรวจสอบล่ะ?”

นายหญิงแก่โบกมือ “ตรวจสอบขึ้นมาก็สาวไม่ถึงตัวเจ้าหรอก นายกรมฮู่ยหมินถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว ไอ้แก่ต้นเหตุที่เขาพากลับมาก็ตายแล้ว ใครมันจะสาวถึงตัวเจ้าอีกได้ล่ะ?”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยคิดทบทวน กัดฟันพูด “จะทำการใหญ่ต้องไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่ควรคิดหน้าพะวงหลัง”

“เจ้าคิดอย่างนี้ถูกแล้ว รอดูไปอีกหน่อยแล้วกัน เมืองหลวงด้านทิศตะวันออกให้แพร่ออกไปอีก ก็จะครบทั้งสี่จุด ค่ายทหาร มุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หมู่บ้านสือโถวมีการแพร่ระบาดของโรค หากจะให้ไทฮองไทเฮาพบเจอ ยังต้องรอให้กลางเมืองปะทุขึ้นพร้อมกัน”

“ได้ ลูกไปจัดการเถอะ”เฉิงเสี้ยงเสี้ยลุกยืนขึ้น คิดชั่วครู่“เสี้ยหลีโม่ทางนั้น จะปล่อยให้เป็นหน้าที่กุ้ยไท่เฟยอย่างนั้นหรือท่านแม่?”

“กุ้ยไท่เฟยได้จัดการให้คนติดตามนางไปแล้ว นางหนีไปไหนไม่พ้นหรอก มากที่สุดก็แค่หลบซ่อนตัว หากนางออกเมืองไป ก็จะยิ่งดีต่อเรา อยู่ในกำมือของกุ้ยไท่เฟยแล้ว นางจะต้องได้รับความทุกข์ทรมาน แล้วให้นางไปประจำการที่เขตกักกันโรค”นายหญิงแก่พูดไปกัดฟันกรอดไป

แค้นนี้ต้องชำระ โทษฐานที่เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่มันพังทำลายฮวงจุ้ยของจวน ยังไงก็จะให้นางชดใช้ด้วยชีวิต

“อย่างนั้นก็ดี!”

นายหญิงแก่มองเขาแวบเดียว “เจ้าน่ะ อย่าไปคลุกคลีกับซีเหมินเซียวเยว่ยอีก รอจิ่นโก๋กงจัดการเรื่องนี้สำเร็จก่อน ตัดการแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เจ้าจะหายาก ข้าได้พูดคุยกับซุ่ยไท่เฟยทางนั้นแล้ว ว่าให้หาหญิงที่เหมาะสมกับเจ้า แล้วให้นางแต่งเข้ามาออกลูกออกหลาน ทายาทของจวนเฉิงเสี้ยงต้องรุ่งโรจน์ให้ได้ ”

“ขอรับท่านแม่ ลูกทราบแล้ว”เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูด

ถึงเวลาที่ต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับซีเหมินเซียวเยว่ยแล้ว เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายซีเหมินเซียเยว่ยแล้วเหมือนกัน

“เจ้าอยากได้ผู้หญิงยังไงล่ะ?ไหนเจ้าลองข้ามา ข้าจะได้พูดกับซุ่ยไท่เฟยถูก”

นายหญิงแก่ร้อนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พอเสี้ยหลีโม่ตาย จวนเฉิงเสี้ยงก็จะไม่มีทายาท นางต้องรีบผลิตทายาทให้จวนเฉิงเสี้ยง บ้านรองก็ไม่ได้ดั่งใจนาง แต่งผู้หญิงเลวเข้าบ้านแท้ๆ ทะเลาะกับเฉินเอ้อร์จนฉาวโฉ่กันไปทั้งเมือง นางก็ไม่ตั้งความหวังอะไรกับบ้านรองนั่นอีก

โชคยังดี ตอนนี้เขายังหนุ่มยังแน่น แต่งฮูหยินเข้ามาสักคนแล้วก็บ้านน้อยอีกสองสามบ้าน ไม่กี่ลงมา ลูกหลานจะได้เต็มบ้านเต็มเมือง

หลีโม่ได้ไปบ้านที่อยู่ตรงประตูเมืองของตระกูลเฉิน หลังจากที่จัดการเรื่องที่พักเสร็จ ก็รีบไปจัดการเรื่องที่วางแผนไว้

หากจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ก็ต้องทำให้จวนเฉิงเสี้ยงวุ่นวายเสียก่อน

เพราะฉะนั้น นางพูดกับเฉินหลิ่วหลิ่วว่า “เจ้าไปช่วยข้าหาคุณหนูใหญ่ตระกูลหูที ส่งสารไปให้นาง”

“เจ้ารู้จักนางหรอ?”เฉินหลิ่วหลิ่วเบิกตาโพลง “นางเป็นคนกินเนื้อไม่คายกระดูก”

“ข้าก็เลยต้องการคนแบบนางไง”หลีโม่รู้ดีว่าฮวนซีที่นางเจอวันนั้นไม่ใช่ตัวตนจริงๆของนาง ฝีมือนางร้ายกาจ ถ้าได้ความช่วยเหลือจากนาง จวนเฉิงเสี้ยงก็จะวุ่นวายเป็นอย่างมาก

ถ้าจะทำให้จวนเฉิงเสี้ยงวุ่นวายแล้วล่ะก็ ทำได้แค่ลงมือตอนงานมงคลของเสี้ยโล่เยว่แล้วล่ะ ให้จวนเฉิงเสี้ยงกับความสัมพันธ์ของท่านราชครูตัดขาดกันให้สิ้น ทำให้เฉิงเสี้ยงเสี้ยตกอยู่ในลักษณะโดดเดี่ยวไม่มีใครช่วยเหลือ

ถึงวิธีการนี้จะทำให้เฉิงเสี้ยงเสี้ยกับนายหญิงแก่หันไปพึ่งกุ้ยไท่เฟยเต็มตัว แต่ มันก็สามารถชะลอสถานการณ์ให้เบาลงได้ ทางกุ้ยไท่เฟยถึงแม้จะยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือเฉิงเสี้ยงเสี้ยกับนายหญิงแก่ ต่างต้องขอเวลาในการรอดูเหตุการณ์ก่อน ไม่กล้าคาดหวังกับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อย่างนี้ นางก็จะสามารถใช้โอกาสจากเรื่องของโรคระบาด ถอนรากถอนโคนจวนเฉิงเสี้ยง

แน่นอนว่า จะทำถึงขั้นนี้ได้ ยังต้องมีตัวช่วยจำเป็นหนึ่งอย่าง ก็คือการที่นางต้องคิดค้นยาต้านไวรัสโรคนี้ให้ได้

ถนนหนทางที่เดินผ่านมา นางคิดได้แล้วว่าเหล่าไท่จุนอยากให้นางทำอะไร การหนีไม่ใช่วิธีที่ดีอะไร ในเมื่อพวกเขาต้องการบีบบังคับให้นางเข้ามาในเรื่องนี้ นางจะเข้าไปเองก็ได้ จากที่ถูกชักจูงเป็นแรงจูงใจ

หลายวันมานี้ ไม่เอาไหนมานานแล้ว ตั้งแต่โรคผีดิบระบาดนางก็ถูกคนควบคุมตลอด ถึงเวลาที่นางต้องสู้กลับไปบ้างแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม