ตอนที่ 26 ตอบแทนน้ำใจ
คนของเฉิงเสี้ยงรู้สึกกลัวฮองเฮา ซือถูเย่คิดอยากเป็นที่พักพิงให้นาง ดังนั้นถึงพูดออกมาว่านางโดนยาพิษ และอ๋องเหลียงจำเป็นต้องมีนางในการรักษา
ฮองเฮาได้ยินคำที่ซือถูเย่พ่านพูด นางก็ตกใจถามว่า “ โดนยาพิษ ไปโดนได้อย่างไร ร้ายแรงไหม”
ฮองเฮาไม่ได้เอาใจใส่นางอย่างจริงใจ เอาเข้าจริงๆ เรื่องนางจะตายหรือจะอยู่ฮองเฮาไม่ได้สนใจที่นางสนใจคือพิษที่โดนนั้นร้ายแรงไหม ยังทำการรักษาให้อ๋องเหลียงได้ไหม
หลีโม่ก้มหน้าลงหลังฟังจบ “ทูลฮองเฮา ข้าน้อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
เดิมทีฮองเฮาอยากจะถามมามา แต่ดูถ้าวันนี้นางคงอยากรู้สภาพของอ๋องเหลียง ดังนั้น คำถามติดอยู่ที่ปลายปากแล้วก็เงียบไป
หลีโม่ยังคงอธิบายอาการของอ๋องเหลียงต่อไปให้กับข้อสงสัยของซือถูเย่“โรคลมชักเวลาอาการกำเริบจะเกิดโรคปอดอักเสบได้ง่าย เพราะว่าเวลาอาการกำเริบไม่ได้ดูแลให้ดีหรืออาจมาจากสาเหตุอื่น ทำให้มีผลต่อของเหลวในร่างกาย หรือกรดในกระเพาะเกิดการไหลย้อน เข้าไปในหลอดลมปราณ แล้วเข้าไปในปอด กลายเป็นปอดอักเสบ จะแสดงอาการออกมาว่าหายใจได้ยากลำบาก สีหน้าหมองคล้ำ สภาพเหมือนขาดออกซิเจน เวลารักษาค่อนข้างยาก นอกจากจะให้มีออกซิเจนที่เพียงพอแล้ว ยังต้องให้ปอดขับสิ่งแปลกปลอมออกมาด้วย
หมอหลวงหลิวทนไม่ไหว “ที่เจ้าพูดมาทั้งหมดนี้ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน เจ้าไปเรียนตำราผีบอกที่ไหนมา”
หลีโม่ตอบอย่างเบาๆ “ สิ่งที่หมอหลิวไม่รู้ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริง”
ไต้เท้าหย้วนพ่านได้ยินดังนั้น ก็ตะโกนหมอหลวงหลิว “ เจ้าหุบปาก แล้วไปถอยไป”
หมอหลวงหลิวไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เหลือมองฮองเฮา “ ฮองเฮา สิ่งที่นางพูด ข้าน้อยไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน แม้แต่หมอในวังก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ข้าน้อยรู้สึกว่า อาจเป็นเพราะนางรักษาไม่ดีเลยทำให้อ๋องเหลียง…….”
ซือถูเย่ดุขึ้นมาฉับพลัน “ตอนแรกเป็นเจ้าเองที่ลงเข็ม ทำให้อ๋องเหลียงอาการกำเริบ แค่นิดเดียวก็จะถึงชีวิต ถ้าไม่ใช่เพราะเสี้ยหลีโม่รีบเข้ามา ปานนี้อ๋องเหลียงคงตายในมือเจ้าไปแล้ว เจ้ายังจะมาพูดว่านางพุดจาไร้สาระ”
หมองหลวงหลิวพูดตะกุกตะกัก ท่านอ๋อง ข้าน้อยเพียงคิดเพื่ออ๋องเหลียง”
ฮองเฮาหงุดหงิดขึ้นมา “ หากว่าเจ้าคิดเพื่ออ๋องเหลียงก็หุบปากซะ”
หมอหลวงหลิวถึงตอนนี้คงยากที่จะได้รับความโปรด สีหน้าเคร่งเครียดยอมถอยไปอยู่มุมนึง
ไท่จือยืนมองอย่างเยือกเย็นอยู่ข้าง ๆ ถึงแม่ว่าจะไม่เชื่อเสี้ยหลีโม่ แต่ว่าจากที่เสี้ยหลีโม่พูดมาทั้งหมดนี้ ก็แสดงได้ว่าอาการของอ๋องเหลียงยังหนักหนาสาหัส เพียงแค่พลิกปลายมือก็ตายได้ สีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมานิดนึง
หลีโม่ไม่ชอบหมอหลวงหลิวเอามาก ๆ เป็นแพทย์ แต่ไม่รู้จักวางตัวให้ดี และไม่รู้จักมีใจเข้าใจคนอื่น คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นแพทย์
ฮองเฮาถามหลีโม่ “โรคปอดอักเสบนี้ จะต้องรักษาอย่างไร”
หลีโม่เก็บอาการไว้ตอบว่า “ วิธีการรักษานั้น ข้าน้อยต้องปรึกษาแนวทางกับไต้เท้าหย้วนพ่าน”
หลีโม่ต้องไปทำความเข้าใจแพทย์จีนในยุคนี้ก่อนว่ามีการพัฒนาไปถึงไหน แล้วตัวยาควรใช้ตัวยาอะไร ดังนั้นจึงได้พูดออกมาว่าจะปรึกษากับไต้เท้าหย้วนพ่านก่อน
ฮองเฮามองไปที่ไต้เท้าหย้วนพ่าน หย้วนพ่านโค้งตัว “ข้าน้อยยินดีจะทำงานร่วมกับคุณหนูใหญ่”
ชือถูเย่ถามหลีโม่ “ อาการของอ๋องเหลียงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ยังจะกำเริบอีกไหม ยังจะมีอะไรอันตรายไหม”
หลีโม่ตอบ ทูลท่านอ๋อง สภาพของท่านอ๋อง ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก ปัญหาเรื่องการหายใจต้องค่อย ๆ ปรับ สมองได้รับการขาดออกซิเจนเวลานานก็ทำให้เกิดการเสียหาย แบบนี้ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการกำเริบได้ ข้าน้อยจะใช้ลงเข็มช่วยในการหายใจลำบากของอ๋องเหลียงก่อน แล้วค่อยรักษาเรื่องคอ”
“ยังต้องลงเข็มเพื่ออาการหายใจลำบากอีกหรือ” ฮองเฮาคิ้วขมวด เมื่อสักครู่ หมอหลวงหลิวก็พูดแบบนี้ แต่สุดท้ายก็เกิดอาการกำเริบรองสอง
หลีโม่ตอบตามตรง”ฮองเฮา นี่เป็นสิ่งจำเป็น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...