พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 27

สรุปบท ตอนที่ 27 โน้มน้าวอ๋องซือเจิ้ง: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอนที่ 27 โน้มน้าวอ๋องซือเจิ้ง – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 27 โน้มน้าวอ๋องซือเจิ้ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 27 โน้มน้าวอ๋องซือเจิ้ง

หลีโม่พูด “ไม่เอาแล้ว ของคุณมามา วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้กินอะไรเลย ถ้ากินมากเกินไป เดี๋ยวจะไม่ย่อย แบบนี้พอแล้ว”

“งั้นก็ได้! “มามาเรียกคนมาให้เก็บไป แล้วก็สั่งคนให้ชงชา แล้วตัวเองก็ออกไปยืนรอด้านนอกตำหนัก

ชือถูเย่มองหลีโม่ด้วยสายตาประหลาด ผู้หญิงนางนี้ไม่ธรรมดา ทำให้หยางมามาที่อยู่กับฮองเฮามาหลายปีจากที่เป็นคนเย็นชา ก็ถูกนางใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็เปลี่ยนไป คนข้างตัวที่อยู่มาด้วยหลายปีไม่มีใครทำได้

หลังจากหลีโม่กินเสร็จ ก็ไปถามไต้เท้า หลีโม่ว่า “ ไต้เท้า ข้าอยากรู้อาการที่กำเริบสองครั้งของอ๋องเหลียงก่อนหน้านี้”

หย้วนพ่านพยักหน้า แล้วก็อธิบายอาการที่กำเริบทั้งสองครั้งให้นางฟัง รวมไปถึงอาการที่ตามมาจากการรักษา และความคิดของเขา

หลังจากที่หลีโม่ฟังเสร็จ ก็พอรู้อาการเบื้องต้นของอ๋องเหลียงว่าเป็นอย่างไร

นางคิดแล้วคิดอีก เงยหน้าขึ้นมามองชือถูเย่ “ท่านอ๋อง สภาพของอ๋องเหลียงในตอนนี้ ร้ายแรงที่สุดคงจะเป็นปอดอักเสบ ปอดอักเสบนั้นจะเกิดอาการอย่างรวดเร็วภายในสองถึงสามชั่วโมง จะมีผลต่อการหายใจ หากฮองเฮาไม่ยอมให้ลงเข็มรักษาปัญหาการหายใจของอ๋องเหลียง ถ้าใช้การรักษาแบบก่อนหน้านี้ของพวกเราต่อไป ก็จะทำให้อ๋องเหลียงต้องทนกับความทุกข์ทรมานอีกนาน”

ซือถูเย่คิดไม่ถึงว่าการหายใจเข้าจะทำให้ปอดอักเสบยิ่งรุนแรง ไม่หยุดที่จะเอาคิ้วชนกัน “แล้ววิธีที่จะให้ยืดการรักษาต้องทำอย่างไร”

หลีโม่ตอบ “ให้ออกซิเจน”

“อะไรนะ” ซือถูเย่ฟังนางไม่เข้าใจ “ให้ออกซิเจน”

“ออกซิเจน ออกซิเจนก็คือ.... “ หลีโม่พยายามที่คิดหาคำอธิบายที่ง่ายที่สุด เพราะดูแล้วว่าอ๋องชือเจิ้งไม่ใช่คนที่จะมีความอดทนสูงนัก “ออกซิเจนคืออากาศที่เราหายใจเข้าไปในร่างกาย ตอนนี้อ๋องเหลียงขาดออกซิเจน ทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายได้ หากออกซิเจนไม่พอก็จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้น การให้ออกซิเจนเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด หลังจากนั้นค่อยสลายความอักเสบ สุดท้ายก็จะจัดการกับปัญหาที่เกิดกับร่างกายเขาได้”

ไต้เท้าหย้วนพ่านเริ่มที่จะสนับสนุนหลีโม่ แต่พอได้ฟังเรื่องออกซิเจนอะไรในอากาศนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไร้สาระ อดไม่ได้ที่จะตอบโต้ขึ้นมา “อากาศก็คืออากาศ ยังมีอะไรในอากาศ หรือว่าอากาศนั้นยังแบ่งได้อีกหลายชนิด”

หลีโม่อยากจะอธิบายเรื่องการเกิดบรรยากาศ แต่ว่าตอนนี้คงจะไม่ทันเวลา อยากให้เขาเข้าใจค่อนข้างจะยากอยู่ จึงพูดว่า “หากไต้เท้าหย้วนพ่านเชื่อในคำพูดข้า เชื่อว่าข้าจะไม่ทำร้ายอ๋องเหลียง เพราะหากว่าอ๋องเหลียงเกิดอะไรขึ้น ชีวิตข้าก็ยากจะรักษา ที่ข้าให้ท่านมา ก็หวังว่าจะได้ท่านมาสนับสนุนช่วยเหลือในแผนการรักษา”

ไต้เท้าหย้วนพ่านยื่นอยู่ในที่นั้นก็นาน ดูไปก็ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ทว่าในใจก็ต้องมีจุดป้องกันไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงไม่กล้าเรียกอ๋องเหลียงให้มาเป็นพยาน

แต่ว่า ฟังหลีโม่พูดแบบนี้ และมองในตาที่ซื่อสัตย์ เขาก็รู้สึกสับสน สงสัยอยู่เล็กน้อย เขาก็พูดว่า “ ว่าแต่ เจ้าจะให้ออกซิเจนอย่างไร เจ้าพูดว่ามันอยู่ในอากาศ แค่หายใจก็ได้แล้วใช่หรือไม่ เจ้าคงไม่พูดว่าเจ้าหยิบอากาศมาแล้วก็จะกลายเป็นออกซิเจนหรอกนะ มันออกจะไร้สาระไปหน่อย”

หลีโม่ก็คิ้วขมวด จริงๆ แล้วนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่ง ที่นี่ไม่มีวิธีที่จะแยกออกซิเจนออกจากอากาศ

วิธีที่ง่ายที่สุดในการแยกออกซิเจนคือการแยกอุณหภูมิด้วยจุดเดือดของก๊าซแต่ละชนิดในอากาศอย่างไรก็ตามนางไม่มีวิธีลดอุณหภูมิต่ำกว่า 183 องศา

นางนึกได้ถึงป่าเขา ผู้คนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจกับปริมาณออกซิเจนในอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจะมีจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงสำหรับไปสูดอากาศ ให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในร่างกาย แน่นอนว่า ไม่ดีเท่าเครื่องออกซิเจนที่หมอใช้ แต่ว่า จากสถานการณ์ตรงนี้ คงมีวิธีนี้วิธีเดียว

แต่ทว่า ตอนนี้ถ้าจะเคลื่อนย้ายอ๋องเหลียงไปที่ภูเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ นางคิดอยู่สักครู่ ในวังมีสวนดอกไม้จะต้องมีพืชจำนวนมากและพืชเป็นสิ่งที่ผลิตออกซิเจนได้มากที่สุด

พูดจบ เขาก็หมุนกลับเข้าไปในตำหนัก

หลีโม่เหมือนยกภูเขาออกจากอกแล้วครึ่งนึง ก่อนหน้านี้คิดว่าจะทำให้ฮองเฮากับอ๋องซือเจิ้งทะเลาะกัน อ๋องชือเจิ้งอาจจะไม่พอใจให้นางเข้าไปช่วยอ๋องเหลียง แต่ว่าตอนนี้เข้าเห็นสภาพของอ๋องเหลียงค่อนข้างวิกฤติ แบบนี้ นางก็ไม่ห่วงที่จะต้องช่วยอ๋องเหลียงแล้วทำผิดต่ออ๋องชือเจิ้ง

นางเพียงแค่ไม่ได้เป็นคนมีอะไรแอบแฝง ดังนั้นจึงดูไม่ออกว่าอ๋องซือเจิ้งเป็นห่วงจริงหรือเป็นห่วงหลอก ๆ ตอนนี้คงทำได้เพียงดูเป็นขั้น ๆ ไป

เพียงแต่หวังว่าอ๋องชือเจิ้งจะเห็นว่าอ๋องเหลียงเป็นญาติแท้ ๆของเขา เห็นแต่ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร

นางเตรียมใจพร้อมแล้วมาปรึกษาหารือกับไต้เท้าหย้วนพ่านในการรักษาลำดับต่อไป หย้วนพ่านฟังคำของนาง ถึงแม้นว่าจะไม่ได้เข้าใจมากนัก แต่ก็ถามมาหนึ่งประโยค “เจ้าคิดว่าจะรักษาอ๋องเหลียงได้ดีใช่ไหม”

หลีโม่คิดอึดใจนึง “ขอให้เพียงควบคุมไว้ได้ ไม่เป็นหนักกว่าแต่เดิม การควบคุมไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่”

ไต้เท้าหย้วนพ่านคิดหนัก เงยหน้าขึ้นมาพูดต่อ “ ได้ ข้าเชื่อใจเจ้า ถึงแม้จะไม่มีเหตุผลใด และคำที่เจ้าพูดมานั้นออกจะดูไร้สาระอยู่มาก แต่ว่าเจ้าเป็นคนที่ทำให้อ๋องเหลียงฟื้นคืนจากความตายได้ จากจุดนี้ข้าจะสนับสนุนในการตัดสินใจของเจ้า และรับผิดชอบกับผลที่จะตามมา”

หลีโม่รู้ดีว่าที่ไต้เท้าหย้วนพ่านพูดคำนั้นออก เพื่อตอกย้ำความรับผิดชอบให้กับนาง เดิมทีนางอยากโน้มน้าวเขาไม่ให้เข้าไปยุ่ง แทนที่จะทำได้ ไม่คิดว่าเขาจะให้การสนับสนุนและรับผิดชอบเช่นนี้ ให้ความมั่นใจเป็นอย่างมาก “มีผู้ใหญ่คอยสนับสนุนแบบนี้ นางต้องทำให้เต็มที่”

ก็ไม่รู้ว่าอ๋องซือเจิ้งไปคุยกับฮองเฮาอย่างไร สรุปคือ ในเวลาที่เขาเดินออกมาจากตำหนัก ก็พูดด้วยสีหน้าเข้ม “เจ้าเตรียมตัวให้พร้อม จะให้คนส่งอ๋องเหลียงออกไปเดี๋ยวนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม