ตอนที่ 27 โน้มน้าวอ๋องซือเจิ้ง
หลีโม่พูด “ไม่เอาแล้ว ของคุณมามา วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้กินอะไรเลย ถ้ากินมากเกินไป เดี๋ยวจะไม่ย่อย แบบนี้พอแล้ว”
“งั้นก็ได้! “มามาเรียกคนมาให้เก็บไป แล้วก็สั่งคนให้ชงชา แล้วตัวเองก็ออกไปยืนรอด้านนอกตำหนัก
ชือถูเย่มองหลีโม่ด้วยสายตาประหลาด ผู้หญิงนางนี้ไม่ธรรมดา ทำให้หยางมามาที่อยู่กับฮองเฮามาหลายปีจากที่เป็นคนเย็นชา ก็ถูกนางใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็เปลี่ยนไป คนข้างตัวที่อยู่มาด้วยหลายปีไม่มีใครทำได้
หลังจากหลีโม่กินเสร็จ ก็ไปถามไต้เท้า หลีโม่ว่า “ ไต้เท้า ข้าอยากรู้อาการที่กำเริบสองครั้งของอ๋องเหลียงก่อนหน้านี้”
หย้วนพ่านพยักหน้า แล้วก็อธิบายอาการที่กำเริบทั้งสองครั้งให้นางฟัง รวมไปถึงอาการที่ตามมาจากการรักษา และความคิดของเขา
หลังจากที่หลีโม่ฟังเสร็จ ก็พอรู้อาการเบื้องต้นของอ๋องเหลียงว่าเป็นอย่างไร
นางคิดแล้วคิดอีก เงยหน้าขึ้นมามองชือถูเย่ “ท่านอ๋อง สภาพของอ๋องเหลียงในตอนนี้ ร้ายแรงที่สุดคงจะเป็นปอดอักเสบ ปอดอักเสบนั้นจะเกิดอาการอย่างรวดเร็วภายในสองถึงสามชั่วโมง จะมีผลต่อการหายใจ หากฮองเฮาไม่ยอมให้ลงเข็มรักษาปัญหาการหายใจของอ๋องเหลียง ถ้าใช้การรักษาแบบก่อนหน้านี้ของพวกเราต่อไป ก็จะทำให้อ๋องเหลียงต้องทนกับความทุกข์ทรมานอีกนาน”
ซือถูเย่คิดไม่ถึงว่าการหายใจเข้าจะทำให้ปอดอักเสบยิ่งรุนแรง ไม่หยุดที่จะเอาคิ้วชนกัน “แล้ววิธีที่จะให้ยืดการรักษาต้องทำอย่างไร”
หลีโม่ตอบ “ให้ออกซิเจน”
“อะไรนะ” ซือถูเย่ฟังนางไม่เข้าใจ “ให้ออกซิเจน”
“ออกซิเจน ออกซิเจนก็คือ.... “ หลีโม่พยายามที่คิดหาคำอธิบายที่ง่ายที่สุด เพราะดูแล้วว่าอ๋องชือเจิ้งไม่ใช่คนที่จะมีความอดทนสูงนัก “ออกซิเจนคืออากาศที่เราหายใจเข้าไปในร่างกาย ตอนนี้อ๋องเหลียงขาดออกซิเจน ทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายได้ หากออกซิเจนไม่พอก็จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้น การให้ออกซิเจนเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด หลังจากนั้นค่อยสลายความอักเสบ สุดท้ายก็จะจัดการกับปัญหาที่เกิดกับร่างกายเขาได้”
ไต้เท้าหย้วนพ่านเริ่มที่จะสนับสนุนหลีโม่ แต่พอได้ฟังเรื่องออกซิเจนอะไรในอากาศนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไร้สาระ อดไม่ได้ที่จะตอบโต้ขึ้นมา “อากาศก็คืออากาศ ยังมีอะไรในอากาศ หรือว่าอากาศนั้นยังแบ่งได้อีกหลายชนิด”
หลีโม่อยากจะอธิบายเรื่องการเกิดบรรยากาศ แต่ว่าตอนนี้คงจะไม่ทันเวลา อยากให้เขาเข้าใจค่อนข้างจะยากอยู่ จึงพูดว่า “หากไต้เท้าหย้วนพ่านเชื่อในคำพูดข้า เชื่อว่าข้าจะไม่ทำร้ายอ๋องเหลียง เพราะหากว่าอ๋องเหลียงเกิดอะไรขึ้น ชีวิตข้าก็ยากจะรักษา ที่ข้าให้ท่านมา ก็หวังว่าจะได้ท่านมาสนับสนุนช่วยเหลือในแผนการรักษา”
ไต้เท้าหย้วนพ่านยื่นอยู่ในที่นั้นก็นาน ดูไปก็ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ทว่าในใจก็ต้องมีจุดป้องกันไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงไม่กล้าเรียกอ๋องเหลียงให้มาเป็นพยาน
แต่ว่า ฟังหลีโม่พูดแบบนี้ และมองในตาที่ซื่อสัตย์ เขาก็รู้สึกสับสน สงสัยอยู่เล็กน้อย เขาก็พูดว่า “ ว่าแต่ เจ้าจะให้ออกซิเจนอย่างไร เจ้าพูดว่ามันอยู่ในอากาศ แค่หายใจก็ได้แล้วใช่หรือไม่ เจ้าคงไม่พูดว่าเจ้าหยิบอากาศมาแล้วก็จะกลายเป็นออกซิเจนหรอกนะ มันออกจะไร้สาระไปหน่อย”
หลีโม่ก็คิ้วขมวด จริงๆ แล้วนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่ง ที่นี่ไม่มีวิธีที่จะแยกออกซิเจนออกจากอากาศ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการแยกออกซิเจนคือการแยกอุณหภูมิด้วยจุดเดือดของก๊าซแต่ละชนิดในอากาศอย่างไรก็ตามนางไม่มีวิธีลดอุณหภูมิต่ำกว่า 183 องศา
นางนึกได้ถึงป่าเขา ผู้คนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจกับปริมาณออกซิเจนในอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจะมีจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงสำหรับไปสูดอากาศ ให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในร่างกาย แน่นอนว่า ไม่ดีเท่าเครื่องออกซิเจนที่หมอใช้ แต่ว่า จากสถานการณ์ตรงนี้ คงมีวิธีนี้วิธีเดียว
แต่ทว่า ตอนนี้ถ้าจะเคลื่อนย้ายอ๋องเหลียงไปที่ภูเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ นางคิดอยู่สักครู่ ในวังมีสวนดอกไม้จะต้องมีพืชจำนวนมากและพืชเป็นสิ่งที่ผลิตออกซิเจนได้มากที่สุด
พูดจบ เขาก็หมุนกลับเข้าไปในตำหนัก
หลีโม่เหมือนยกภูเขาออกจากอกแล้วครึ่งนึง ก่อนหน้านี้คิดว่าจะทำให้ฮองเฮากับอ๋องซือเจิ้งทะเลาะกัน อ๋องชือเจิ้งอาจจะไม่พอใจให้นางเข้าไปช่วยอ๋องเหลียง แต่ว่าตอนนี้เข้าเห็นสภาพของอ๋องเหลียงค่อนข้างวิกฤติ แบบนี้ นางก็ไม่ห่วงที่จะต้องช่วยอ๋องเหลียงแล้วทำผิดต่ออ๋องชือเจิ้ง
นางเพียงแค่ไม่ได้เป็นคนมีอะไรแอบแฝง ดังนั้นจึงดูไม่ออกว่าอ๋องซือเจิ้งเป็นห่วงจริงหรือเป็นห่วงหลอก ๆ ตอนนี้คงทำได้เพียงดูเป็นขั้น ๆ ไป
เพียงแต่หวังว่าอ๋องชือเจิ้งจะเห็นว่าอ๋องเหลียงเป็นญาติแท้ ๆของเขา เห็นแต่ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร
นางเตรียมใจพร้อมแล้วมาปรึกษาหารือกับไต้เท้าหย้วนพ่านในการรักษาลำดับต่อไป หย้วนพ่านฟังคำของนาง ถึงแม้นว่าจะไม่ได้เข้าใจมากนัก แต่ก็ถามมาหนึ่งประโยค “เจ้าคิดว่าจะรักษาอ๋องเหลียงได้ดีใช่ไหม”
หลีโม่คิดอึดใจนึง “ขอให้เพียงควบคุมไว้ได้ ไม่เป็นหนักกว่าแต่เดิม การควบคุมไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่”
ไต้เท้าหย้วนพ่านคิดหนัก เงยหน้าขึ้นมาพูดต่อ “ ได้ ข้าเชื่อใจเจ้า ถึงแม้จะไม่มีเหตุผลใด และคำที่เจ้าพูดมานั้นออกจะดูไร้สาระอยู่มาก แต่ว่าเจ้าเป็นคนที่ทำให้อ๋องเหลียงฟื้นคืนจากความตายได้ จากจุดนี้ข้าจะสนับสนุนในการตัดสินใจของเจ้า และรับผิดชอบกับผลที่จะตามมา”
หลีโม่รู้ดีว่าที่ไต้เท้าหย้วนพ่านพูดคำนั้นออก เพื่อตอกย้ำความรับผิดชอบให้กับนาง เดิมทีนางอยากโน้มน้าวเขาไม่ให้เข้าไปยุ่ง แทนที่จะทำได้ ไม่คิดว่าเขาจะให้การสนับสนุนและรับผิดชอบเช่นนี้ ให้ความมั่นใจเป็นอย่างมาก “มีผู้ใหญ่คอยสนับสนุนแบบนี้ นางต้องทำให้เต็มที่”
ก็ไม่รู้ว่าอ๋องซือเจิ้งไปคุยกับฮองเฮาอย่างไร สรุปคือ ในเวลาที่เขาเดินออกมาจากตำหนัก ก็พูดด้วยสีหน้าเข้ม “เจ้าเตรียมตัวให้พร้อม จะให้คนส่งอ๋องเหลียงออกไปเดี๋ยวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...