ตอนที่ 271 เกิดเหตุในวิหาร
ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยจ้องไปที่เขา “เจ้าว่าอย่างไรนะ”
หลิงหลงฮูหยินกลับหันหลังเดินกลับไป "หากว่าฮูหยินไม่ต้อนรับข้า ข้าขอลาดีกว่า"
ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย กล่าวกลับไปอย่างเย็นชา “เจ้าพูดให้ชัดเจน แม่นางตระกูลหลินอย่างไรกัน? คนก่อนเพิ่งเลิกราก็แต่งกับถัดไปเลยหรือ? ”
หลิงหลงฮูหยินจัดระเบียบผมเล็กน้อย หากเปรียบกับความลนลานของซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย นางจิตใจสงบกว่ามาก “ฮูหยินไม่รู้หรือ? จวนเฉิงเสี้ยงอยากจัดการเรื่องมงคลเช่นนี้อีกคราแล้ว การแต่งงานครานี้คือหลานสาวแม่นางหลินของหลินซื่อหลาง”
ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยชำเลืองตามอง “ข้าไม่เชื่อเจ้า ตัวเจ้าพูดจาเหลวไหล”
“เชื่อหรือไม่ก็เอาเถอะ ข้าตั้งใจมาถึงนี่ไม่ใช่เพื่อโอ้อวด เพียงแค่อยากจะบอกบางเรื่องกับเจ้า อย่างไรเจ้าก็เคยมีความจริงใจต่อเสี้ยโล่เยว่ แต่อย่าถูกผู้ใดหลอกอีกเลย เรื่องขอจวนเฉิงเสี้ยงกับตระกูลหลิน หลายคนที่เมืองหลวงรู้กันหมด มีเพียงแต่เจ้าที่หลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ยังไม่รู้เท่านั้น”
ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยยกยิ้มเย็น “เจ้าเป็นคนอย่างไรข้าจะไม่รู้หรือ? จะมีน้ำใจมาชี้แนะข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ”
หลิงหลงฮูหยินส่ายหัว “เจ้าชอบดูแคลนผู้อื่นแต่ไม่อาจให้ผู้อื่นดูแคลนเจ้าได้ ข้าก็ไม่สามารถขัดขวางเจ้าได้เช่นกัน”
เมื่อพูดจบก็หันหลังกลับขึ้นเกี้ยว
หัวใจของซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ รู้สึกตระหนกอยู่ในใจ เขาให้สัญญาอย่างจริงใจว่าตนต้องการแต่งงาน ทำไมคุณหนูตระกูลหลินจึงได้ปรากฏตัวออกมาได้?
เป็นเช่นนั้นไม่ได้ เฉินหลิงหลงตั้งใจมาหาเขาเป็นแน่ หากแยกความต่างของพวกเขา เฉินหลิงหลงเป็นเพียงผู้น้อย เลือดเย็นไม่น่าไว้วางใจ งานการไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น
ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยคิดเช่นนั้น แต่ภายในใจกลับไม่สงบนิ่ง นางไม่มีทางหลอกตนเองและผู้อื่นได้ เหตุเพราะนางรับรู้ได้ว่าเสี้ยห้วยจุนหมางเมินต่อนาง
” เข้ามา! ” นางพูดขึ้นเสียงไปที่ประตู
” ขอรับ “บ่าวรับใช้เข้ามาคำนับ
” เจ้าลองไปสืบดูที คุณหนูสกุลหลินได้แต่งงานกับเฉิงเสี้ยงหรือไม่ “ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยออกคำสั่ง
บ่าวรับใช้ตอบรับคำสั่ง “ขอรับ! ”
เขตแพร่ระบาด
ในวิหารมีคนผู้ติดเชื้อผีดิบอยู่หนึ่งตนชื่อว่าหลี่เอ้อ ถูกกักขังมาเป็นเวลาเจ็ดวันแล้ว ชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี ที่ชีวิตที่กำลังไปสู่ความตาย บิดาจากโลกไปก่อนที่ควรจะเป็น มารดาเลี้ยงจนเติบใหญ่มาอย่างดิ้นรนทุลักทุเล
สภาพของเขาเหมือนกับหวางหยูก็ไม่ปาน พี่ชายที่จบชีวิตลงในแบบเดียวกัน
หลี่เอ้อกัดท่านลุงเอ้อฉู่ของเขา ท่านลุงของเขาตายลงหลังจากอาการป่วยสิบวัน ลู๋ซื่อมารดาของหลี่เอ้อหวาดกลัว และนางรู้ดีว่าลูกชายของนางจะต้องตาย ดังนั้นในคืนนี้จึงมาขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพหลี่ โปรดมองว่าพวกเราสกุลเดียวกันได้หรือไม่ ให้นางเข้าไปดูลูกสักนิด ให้เข้าไปป้อนน้ำให้ลูกชายด้วยมือของนางเอง
แม่ทัพหลี่ดูหยาบกระด้างหากแต่ใจอ่อน เดิมทีใต้เท้ามีคำสั่งลงมาว่าห้ามชาวบ้านเข้ามาในวิหาร แต่เมื่อเห็นลู๋ซื่อคุกเข่าร้องไห้อย่างเศร้าโศก ซ้ำยังพร่ำคิดถึงแต่ลูกชายที่รักสุดหัวใจ จึงละเว้นให้นางเข้าไป
ตอนนั้นเสี้ยหลีโม่กำลังจัดการสั่งยาอยู่พอดิบพอดี สั่งการให้หมอยาของกรมฮุ่ยหมินแบ่งยาเอาไว้ เขาหันกลับมาเห็นลู๋ซื่อกำลังเดินเข้าไปในวิหารก็กล่าวออกไปทันใด” ช้าก่อน คนนอกมิอาจเข้าไปได้”
แม่ทัพหลี่กล่าวตอบ “ไม่เป็นอันใดหรอกจะดูแลอยู่ไม่ห่าง มีเชือกผูกเอาไว้ ไม่ต้องกลัวไป”
เสี้ยหลีโม่ส่ายหน้า "ไม่ เข้าไปไม่ได้ มันจะต้องตื่นขึ้นมาแน่ ผู้ติดเชื้อผีดิบกำลังมากยากจะจัดการ พอตื่นขึ้นมาก็ดึงรั้นจนเชือกจนหลุด"
เสี้ยหลีโม่รู้ว่าคนที่รักลูกจนขาดใจหากได้เห็นลูกต้องพบความลำบาก จะยอมได้เจอหน้าเพียงสบตาได้เยี่ยงไร หากตอนนี้ยายังไม่พัฒนา นางก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ใดก็ตามได้รับอันตรายได้ ก่อนหน้านั้นหวางหยูได้กระทำพลาดไปแล้วหนหนึ่ง ทำให้พี่หวางและองครักษ์จินถูกกัด นางจะไม่ยอมใจอ่อนอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...