ตอนที่ 289 ชุ่ยยุ่นเป็นพยาน
หลี่ซ่วยหยุ่นเย้ยหยันนาง ปากเผยอ “กูกูอย่างเพิ่งรีบร้อน ข้าไม่ได้ให้เจ้าไปให้ร้ายแก่นายหญิงแก่ เจ้าก็รู้ดี ทั้งหมดเป็นแผนการของเสี้ยเฉิงเสี้ยงและนายหญิงแก่ ใช่มั้ยล่ะ? ข้าก็แค่ให้เจ้าพูดความจริงเท่านั้นเอง”
ชุ่นยุ่นประชดว่า “สมองของเสี้ยนจู่นี่ดีจริงๆ ดูเหมือนว่า วันนี้ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว ข้าขอตัวล่ะ”
หลี่ซ่วยหยุ่นก็ไม่รีบร้อย พูดช้าๆว่า “ก็ดี กูกูกลับไปก่อน เอ้อแล้วก็ ถ้าว่างก็กลับไปหาครอบครัวเจ้าบ้างนะ”
ชุ่ยยุ่นหันหัวกลับมาควับ จ้องมองหลี่ซ่วยหยุ่น “เจ้าทำอะไรพวกเค้า?”
หลี่ซ่วยหยุ่นโบกปัดมือ “ข้าไม่ทำอะไรกับคนไม่เกี่ยวข้องหรอก กูกูถามเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้วนะ ไม่อยากรู้หรือว่าครอบครัวตนเองถูกผีดิบกัดไปหรือยัง? ตอนที่พบพี่ชายของเจ้า เป็นช่วงเดียวกันกับตอนที่ฆ่าผีดิบล้างเมือง เหลียงไท่ฝู้เป็นคนสั่งให้ทุบพี่ชายเจ้าตายไปแล้ว”
ชุ่ยยุ่นโกรธพูดว่า “เจ้าเหลวไหล!”
“จะเหลวไหลหรือไม่ กูกูกลับไปดูเองก็รู้ คืนนั้นผีดิบออกอาละวาด ที่ถนนหยวนชางมีคนถูกกัดเป็นพันคน ครอบครัวเจ้า โชคร้ายหมด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะใคร? ในใจเจ้ารู้ดี นายหญิงแก่รู้ว่าครอบครัวเจ้าอยู่ที่ถนนหยวนชาง แต่ก่อนลงมือนางไม่เคยบอกเจ้า ให้เจ้าได้ไปบอกครอบครัวเจ้า เพราะนางกลัวเสียแผน”
“ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาทำให้ข้าผิดใจกับนายหญิง ” ชุ่ยยุ่นตะโกน แต่ตานางเริ่มแดง ตัวเริ่มสั่น
หลี่ซ่วยหยุ่นผายมือ หยางมามาก็เอาสมุดรายชื่อเล่มหนึ่งมา “นี่คือรายชื่อคนที่ถูกทุบตายในคืนนั้น เจ้าดูเอาเอง ว่ามีครอบครัวเจ้ามั้ย? นี่เป็นรายชื่อที่ท่านอ๋องส่งมา ไม่ผิดแน่”
ชุ่ยยุ่นรีบดึงสมุดรายชื่อมา เปิดดู มือสั่นจนเปิดหน้ากระดาษไม่ได้ ตอนที่เห็นรายชื่อญาติตนเองนั้น นางตัวแข็งทื่อ สมุดรายชื่อตกลงจากมือนาง
น้ำตาไหลนอง นางทรุดลงนั่งยองยอง กอดเข่าร้องไห้
ชีวิตนางไม่ได้แต่งงาน เพราะติดตามนายหญิงแก่ นางไม่อยากจะอยู่ดีมีสุขอะไร นางไม่เหมือนหลานหยู้ นางแค่อยากทำเพื่อครอบครัว
หลี่ซ่วยหยุ่นลุกขึ้น ค่อยๆพยุงนางลุกขึ้น แล้วพูดว่า “กูกูทำใจเถอะ พี่ชายเจ้าไปแล้ว แต่หลานชายหลานสาวเจ้ายังอยู่ พวกเขาถูกกัด แต่ถูกส่งตัวไปเขตกักกันโรคแล้ว เจ้าไปดูพวกเขาเถอะ ข้าบอกทางนั้นไว้แล้ว ว่าให้เจ้าเข้าไปได้”
เมื่อพูดจบ นางก็ใช้สายตาสั่งให้หยางมามาไปส่งนาง
ชุ่ยยุ่นขาอ่อนแรง ก็ล้มลงคุกเข่า นางไม่สนว่าจะจริงมั้ย แต่นางก็ไม่อยากจะหาเรื่องหลี่ซ่วยหยุ่น ก็เลยพูดแบบเสียงคัดจมูกว่า “เสี้ยนจู่ ท่านมีวิธีรักษาคนติดโรคใช่มั้ย? คุณหนูใหญ่ยังไม่ตายใช่มั้ย?”
หลี่ซ่วยหยุ่นจับขมับ ถอนหายใจ พูดด้วยสายตาเศร้าๆว่า “ชุ่ยยุ่น ตอนนี้เสี้ยหลีโม่เป็นตายร้ายดีก็ยังไม่รู้ ข้าอยากให้นางมีชีวิตอยู่ยิ่งกว่าใครเสียอีก”
ชุ่ยยุ่นกูกูนึกถึงคำที่มือสังหารมันพูดไว้ ในทะเลกว้างใหญ่ มีโอกาสรอดยาก
นางก็ร้องไห้อย่างหมดหวัง
“ลุกขึ้นเถิด พี่ชายเจ้ามองเจ้าอยู่บนสวรรค์ เขาตายตาไม่หลับ เขาถูกทุบจนตาย เจ้าน่าจะรู้ดีนะภาพแบบนั้น ” หลี่ซ่วยหยุ่นกล่าว
ชุ่ยยุ่นนึกถึงภาพที่แม่ชีถูกทุบตาย นางก็ใจไม่ดี ตัวสั่นขึ้นมาอีก
“ข้ารับปาก ว่าข้าจะไปให้ปากคำที่สิงปู้ แต่ขอให้ท่านหาคุณหนูใหญ่ให้พบ ช่วยครอบครัวข้า ” ชุ่ยยุ่นกูกูโขกหัวคำนับยกใหญ่ ร้องไห้ระงม
“ไปเถอะ จะพาเจ้าไปดูญาติๆ ” หยางมามาพูด
ต้องให้นางเห็นกับตา นางถึงจะใจเด็ดไปเปิดโปงนายหญิงแก่และเฉิงเสี้ยง เพราะว่า พวกนั้นเป็นคนที่นางซื่อสัตย์ด้วยมาครึ่งชีวิต
ถ้าไม่เจ็บแค้นถึงขีดสุด นางก็ทำไม่ลง
หยางมามาพาชุ่ยยุ่นไปยังเขตกักกันโรค นางเห็นหลานชายกับหลานสาวตนเองอยู่ในนั้นโดยไม่มีคนช่วยเหลือ อาการกำเริบแล้ว เมื่อเห็นชุ่ยยุ่นไปหา หลานนางก็ได้แต่มองมา แล้วก็อาการคลั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...