พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 30

ตอนที่ 30 ฟื้นแล้ว

ชื่อถูเย่ฟังที่กุ้ยไท่เฟยพูดแล้ว ก็อธิบายว่า “ท่านแม่ ฝีมือการฝังเข็มของเสี้ยหลีโม่ แม่นยำนัก เดิมทีหลานชายก็ได้จากไปแล้ว โชคดีที่นางเข้าวังมาช่วยให้ฟื้นไว้ใด้ทัน ลูกคิดว่า ฝีมือการแพทย์ของนาง..... “

เสียไท่เฮาไอ ขัดจังหวะพูดของชือถูกเย่ กุ้ยไท่เฟยรีบพูดสวนทันที “พูดจาไร้สาระ ฝีมือหมอหญิงเล็กๆ ไหนเลยจะสู้หมอหลวงที่เก่งกาจได้ อย่าได้เลอะเทอะ รีบจำตัวส่งกลับไป อย่าให้มานอนตากลมอยู่อย่างนี้ “

หลีโม่ก็เข้าใจขึ้นมาในทันทีว่า กุ้ยไท่เฟยไม่ใช่จะมาขัดอ๋องซือเจิ้ง นางมาเพื่อปกป้องอ๋องซือเจิ้ง ทำให้อ๋องเหลียงตกที่นั่งลำบาก ที่ไม่พอใจคือไทเฮา ไท่เฮาเองก็ไม่ค่อยเชื่อฝีมือรักษาอ๋องเหลียงจากหมอหญิง นางคิดว่าคงสู้ฝีมือหมอหลวงไม่ได้

กุ้ยไท่เฟยเป็นห่วงว่าลูกชายตัวเองจะทำผิดต่อไท่เฮา ดังนั้นจึงใช้อำนาจในตำแหน่งตนเองบีบบังคับให้ส่งอ๋องเหลียงกลับไป เกรงว่าจะต้องรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้น

หลีโม่เห็นได้ชัดเจนถึงความซับซ้อนที่เกิดขึ้นในวัง เดิมที่นางคิดว่าฮองเฮาเห็นด้วยกับการที่นางจะรักษาให้อ๋องเหลียง ปัญหาที่เหลือคือรักษา ไม่ได้คิดเลยว่าฮองเฮาจะไม่เห็นด้วยกับนาง แล้วให้อ๋องซื้อเจิ้งมาร่วมมือกับนาง ด้วยเหตุนี้เลยจะยืมมือไท่เฮามากำจัดแทน

นางเงยหน้าขึ้น เห็นเพียงสีหน้าสง่างามของซือถูเย่เต็มไปด้วยหมอกควัน

ชือถูเย่พูด  “คนยังไม่ฟื้นขึ้นมา ก็จะย้ายไป หนทางที่พาเขามาก็ลำบากเขามากแล้ว เสี้ยหลีโม่พูดว่าเขาใกล้จะฟื้นขึ้นมาแล้วเพียงรออีกสักครู่ ให้เขาฟื้นขึ้นมาค่อยคิดต่อ”

กุ้ยไท่เฟยลอบมองสีหน้าไท่เฮา สีหน้าไท่เฮาไม่บอกอะไร ไม่เพียงแค่ไม่พูด เพียงแค่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เฉย ๆ ยื่นมือออกมาลูกหน้า

อ๋องเหลียง

กุ้ยไท่เฟยพูด “ จะล่าช้าไม่ได้ รีบเอากลับไป เสี้ยหลีโม่พูดว่าจะสามารถฟื้นขึ้นมา แล้วหมอหลวงพูดว่ายังไง”

พูดจบ นางก็มองไปที่ไต้เท้าหย้วนพ่าน “อ๋องเหลียงจะฟื้นขึ้นมาไหม”

ไต้เท้าหย้วนพ่านลังเลเล็กน้อย แล้วตอบว่า “กุ้ยไท่เฟย ท่านอ๋องเหลียงสลบไปเพียงหนึ่งชั่วโมงได้ ควรที่จะฟื้นได้แล้ว”

จริงๆ แล้วเขาไม่รู้ แต่เขาก็ได้รับปากกับหลีโม่ไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือเต็มที่ ตอนนี้คงพูดได้เพียงเท่านี้”

ไท่เฮาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “แม้กระทั่งไต้เท้าหย้วนพ่านยังพูดย่างนี้ อย่างนั้นก็รอไปอีกสักสิบห้านาที อีกสิบห้านาทีถ้าไม่ฟื้น ก็ยกกลับตำหนักทันที”

หลีโม่ร้อนรนอย่างเงียบ ๆ ใครเขากำหนดเวลาอย่างนี้ให้ฟื้นกัน บางคนหลับสลบไป ก็หลับไปเป็นวัน มันแล้วแต่สภาพร่างกายคน

หลังจากไท่เฮาพูดจบ ก็มองที่หลีโม่ “ เจ้าคือว่าที่เจ้าสาวของอ๋องเหลียงจากจวนเฉิงเสี้ยงเสี้ยหลีโม่ใช่ไหม”

คำของนางไม่แฝงอะไร แล้วก็ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่หลีโม่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นได้ถึงสายตาที่รังเกียจ

หลีโม่ตอบ “ทูลไท่เฮา ข้าน้อยคือเสี้ยหลีโม่”

“อาจารย์ของเจ้าเป็นใคร” ไท่เฮาถามอีก เสียงเริ่มแสดงความไม่พอใจ

ปัญหานี้ ไม่มีใครถามมาก่อน แม้กระทั่งหลีโม่เองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะอธิบายปัญหานี้อย่างไร

ในความสับสนวุ่นวายที่ห้องสมุดของข้าเคยเห็นหนังสือเทคนิคทางเข็มทองคำ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือรุ่นต่อรุ่น คนเขียนเดิมแช่เสี้ย ในหนังสือมีการเขียนประวัติเสี้ย แต่ไม่ครบทั้งหมด นางเป็นพระมเหสีของประเทศเหลียง แต่ว่าสุดท้ายแล้วตายหรือไม่ตาย นางไม่รู้

นางตอบว่า “อาจารย์ของข้าน้อยเป็นคนสืบทอดมาจากต้นตระกูลเสี้ยประเทศเหลียง”

“ต้นตระกูลเสี้ยหรือ” เสียงของหลีโม่เพิ่งสิ้นสุดลง ก็ได้ยินเสียงพูดคนร้องตื่นตระหนก และมองนางด้วยสายตาที่สงสัย

กุ้ยไท่เฟยพูดเสียงแข็ง ” เจ้ากล้าพูดว่าเจ้าเป็นคนสืบทอดจากต้นตระกูลเสี้ย ต้นตระกูลเสี้ยมีบรรทุกมาเป็นร้อยกว่าปี เจ้าปีนี้เพิ่งอายุเท่าไหร่ ถึงแม้เจ้าจะเป็นคนสืบทอดจริง ไร้ยางอายจริง ๆ เจ้าคิดว่าวังเป็นสถานที่อะไร เป็นที่ที่เจ้าจะมาหลอกได้หรือ “

กุ้ยไท่เฟยยังอยากพูด แต่ซือถูเย่ใช้มือห้ามไว้ พูดบีบคั้นฮองเฮา “ ฮ่องเต้เคยพูดไว้ เรื่องแต่งงานของข้าขึ้นอยู่กับท่านแม่และฮองเฮา ข้าเพียงแต่อยากทางฮองเฮาหนึ่งประโยค ก่อนหน้านี้ที่พูดไว้ เชื่อได้ไหม”

ฮองเฮาพูดว่า “ข้าเกรงว่าจะทำให้ท่านอ๋องน้อยใจ”

ไท่จื่อรีบร้อนพูด “ท่านแม่ ท่านลุงชอบ ก็ให้ท่านลุงรับเสี้ยหลีโม่ไปก็จบ”

ฮองเฮามองไปที่ไท่เฮา สีหน้าแสดงความตัดสินใจอะไรไม่ได้ “ท่านแม่ ท่านคิดว่าเรื่องนี้.....”

ไท่เฮาพูดเสียเบา ๆ “อาเย่ชอบ เสี้ยหลีโม่ก็เป็นคนมีชื่อ ไม่มีอะไรได้ไม่ได้ ถ้าจะให้พูด ปีนี้อาเย่ก็อายุ25ปีแล้ว ควรออกเรือนนานแล้ว”

กุ้ยไท่เฟยสีหน้าขาวซีด ร้องเสียงเบา ๆ “ท่านพี่”

ไท่เฮามองทางแล้วตอบกลับเบา ๆ “น้องสาว เจ้ารอคอยที่จะให้อาเย่ออกเรือน วันนี้เรื่องนี้เป็นผลแล้ว เจ้ามีอะไรไม่ยินดีหรือ หรือว่าเจ้าคิดว่าที่ข้าตัดสินใจมันไม่เหมาะสม”

กุ้ยไท่เฟยสายหน้า สีหน้ายังขาวซีด “น้องไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“ไม่ได้หมายความอย่างนั้นก็ดี ไท่เฮามองที่หลีโม่ “ว่าจะเป็นว่าที่หวังเฟยของอ๋องซือเจิ้ง งั้นก็ให้นางพักผ่อนเสียก่อน ค่อยกลับตำหนักไป”

หลีโม่โล่งอกไปที นางรู้ว่าห้องลงทัณฑ์นางก็คงตายสถานเดียว ดีที่ชือถูเย่ช่วยนางไว้

นางมองไปที่ชือถูเย่ ด้วยสีหน้าสับสน ถึงแม้ว่าจะรู้สึกขอบคุณ แต่ยังมีความรู้สึกโหวงเหวงเข้ามาเต็ม ๆ

องครักษ์ห่างออกจากนางไป นางหมุนตัวกลับ เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินไต้เท้าหย้วนพ่านร้องเสียงตกใจ “ท่านอ๋องฟื้นแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม