พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 304

ตอนที่ 304 มองดูความครื้นเครง

ไทฮองไทเฮาขอให้หลีโม่ออกไปรอด้านนอกก่อน นางต้องการคุยกับซือถูเย้น

หลังจากหลีโม่ลาออกไป อาเซ๋อกูกูที่อยู่ด้านนอกเห็นเธอเดินออกมา

พิจดูเส้นเชือกเตาเปาที่พันอยู่ที่แขนนาง “ของสิ่งนี้มีประโยชน์มากทีเดียว อยากให้ข้าสอนเจ้าใช้หรือไม่”

เมื่อคืนหลีโม่ได้รู้แล้วว่าสายเชือกเตาเปาวิเศษมาก ตอนนี้ได้ฟังอาเซ๋อบอกเล่าว่ายังใช้ทางอื่นได้อีก ตาเบิกกว้างเป็นประกาย “อาเซ๋อกูกูโปรดชี้แนะ”

อาเซ๋อตอบรับ “ข้าเคราะห์ร้ายกับสายเชือกเตาเปาอยู่ไม่น้อย นานมาแล้วของโบราณเช่นนี้เคยเล่นงานข้า”

ในโถงราชวัง

ไทฮองไทเฮาเห็นสีหน้าซือถูเย้นไม่ค่อยดีนัก จึงให้เขานั่งลง “เจ้าคิดว่าข้ามองดูพระมารดาของเจ้ากลั่นแกล้งหลีโม่อย่างเงียบๆ คือการช่วยนางหรือ?”

ซือถูเย้นไม่แม้แต่เงยหน้ามอง “มิใช่ นางมิอาจรังแกเสี้ยหลีโม่ได้”

“รู้ก็ดี เสี้ยหลีโม่ไม่ได้คำนับข้า นางกลับขอให้เสี้ยหลี่โม้คำนับนาง ตรงจุดนี้สามารถกล่าวอะไรออกไปสักคำเพื่อเสี้ยหลีโม่ก็ย่อมได้ หากแต่ข้าต้องการเห็นว่าหญิงผู้นี้สามารถปรับตัวผ่อนหนักผ่อนได้หรือไม่ ในพระราชวังแห่งนี้ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใดก็รอดพ้นสายตาเสด็จแม่ของเจ้าไปได้ยาก หญิงผู้นี้ไม่เอ่ยสักคำ ซ้ำยังคำนับลงไป ข้านับถือนาง เจ้าคิดว่าในใจนางไม่แค้นเสด็จแม่เจ้ารึ? นางแค้นอยู่มาก แต่นางเป็นผู้น้อย หากขนบยังทำให้เสียหาย วันหน้าจะถูกผู้อื่นติเตียนเอาได้”

ซือถูเย้นตอบเยือกเย็น “หากทำกับนาง ผิดขนบอันใดไม่นับว่ามากเกินไป”

“เจ้าไม่สนใจ มีอะไรที่ซือถูเย้นใยดีบ้างรึ? หลายปีมานี้ตั้งแต่เรื่องรบยันเรื่องบ้านเมือง ตั้งแต่ในเมืองจนถึงในวัง ท่านอ๋องอย่างเจ้าเคยกลัวผู้ใด? เคยเกรงผู้ใด? รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด? เพราะเจ้ารบสำเร็จ เพราะเจ้ามีอำนาจ เพราะทุกคนล้วนรู้ดี เจ้าได้รับการพึ่งพาจากฮ่องเต้ ได้รับความรักทะนุถนอมจากข้า ในมีอำนาจถือไว้อยู่ในมือ ควบคุมผู้คน ควบคุมทุกคนในแคว้นต้าโจวแห่งนี้ที่ล้วนถวิลหาราชบัลลังก์ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ไยดีต่อสิ่งใดได้ หากนางแต่งงานกับเจ้า ใช้อำนาจเจ้าในทุกส่วน นางจะตายลงในไม่ช้า อาเจี๋ย ข้าจะบอกกับเจ้าเพียงไม่กี่คำ เพื่อเตือนเจ้า นางไม่ใช่เจ้า หากเจ้าคิดว่าวิธีของตนจะทำให้นางมีอำนาจมากขึ้น มันจะยิ่งทำลายนาง”

ซือถูเย้นขบคิดความหมายที่นางพูด เริ่มเข้าใจมากขึ้น

คำที่ไทฮองไทเฮาได้กล่าวเตือนเขา อย่าเพียงเพราะรักนาง ทำให้นางมีอำนาจเช่นเดียวกับเขา ที่เขามี นางก็จักต้องมีเช่นกัน

เมื่อคุยกับซือถูเย้นในที่แห่งนี้เรียบร้อย ไทฮองไทเฮาเรียกหลีโม่เข้าเฝ้าในวิหารหยกหรูอี้

สถานที่ที่นางอาศัยอยู่เฉพาะกาลในวัง

อาเซี๋ยปิดประตูจากด้านนอกไม่ได้เข้าไป

ไทฮองไทเฮาถอดผ้าคลุมพระพักตร์ออกอย่างนุ่มนวล เผยใบหน้า

หลีโม่มองไทฮองไทเฮา แทบไม่เชื่อสายตาของตน

ใบหน้านั้นทำไมจึงเยาว์วัยเช่นนี้? อย่างมากคงห่างจากซือถูจิ้งไม่มากนัก

ซือถูจิ้งอายุราวๆ ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด แต่ซือถูจิ้งคือหลานสาวของนางนะ

“ตกใจมากใช่หรือไม่?” ไทฮองไทเฮามองดูสีหน้าของนาง ถามขึ้นเรียบๆ

หลีโม่ส่ายหน้า แม้แต่หายใจยังรู้สึกยากเย็น “นี่…ข้าตกใจอยู่บ้าง”

ไทฮองไทเฮาแย้มหัวเราะ “ไม่มีอะไรน่าตกใจ เจ้าไปปฏิบัติหน้าที่พิเศษอยู่นานหลายปี ใยมิเคยเห็น?”

สองขาหลีโม่อ่อนแรงลงจริงๆ นางทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ ตกใจอยู่นานมิอาจเลี่ยงที่จะปิดปากเอาไว้ได้

“ท่าน….รู้ได้อย่างไร” หลีโม่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ไทฮองไทเฮาจ้องมองนาง “ตั้งแต่เจ้ามีชีวิตจนตายลงกระทั้งเจ้าปรากฎตัวมาในที่แห่งนี้ ข้าล้วนรู้ดี ทุกเรื่องของเจ้าผ่านสายตาข้าทั้งหมด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ข้ายื่นมือเข้าไปช่วยชีวิตเจ้า”

หลีโม่ตกใจอย่างมาก ไทฮองไทเฮาคือใครกันแน่?

“เจ้าไม่เจ้าเป็นต้องรู้จักข้าอย่างลึกซึ้ง เจ้าจงจำไว้ว่า จวนหลวงแห่งนี้หรือพระราชวังล้วนเป็นเหวดิ่งลึก ผู้ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอาจดิ่งลง ผู้ไม่มีใจอันแข็งแกร่งมิอาจรอดได้ ผู้ที่ไม่มีความอดทนเช่นกัน ทราบดีหรือยัง?”

หลีโม่พยักหน้าระรัว “ข้าจะจำไว้”

แม้แต่ที่มาที่ไปของนางล้วนรู้อย่างชัดแจ้ง นางจะกล้าพูดไม่เป็นคำพูดหรือ? มากไปกว่านั้น สิ่งที่นางบอกล้วนถูกต้อง ชัดแจ้งว่าอยู่ในรั้วในวังต้องระมัดระวังในทุกๆ เรื่อง

แต่หลีโม่ไม่เข้าใจประโยคนั้นที่นางกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม