พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 305

ตอนที่ 305 เยี่ยมเยือนท่านพ่อ

คุกสิงปู้คุ้มกันอย่างแน่นหนา กำแพงทองแดงเหล็กกล้าแทบไม่มีลมพัดผ่านได้

ทุกคดีที่ถูกจับกุมในสิงปู้ล้วนเป็นนักโทษคดีร้ายแรง จากจวนเฉิงเสี้ยงที่สง่าผ่าเผย

เสี้ยไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งเขาจะถูกขังไว้ในที่แห่งนี้

สิงปู้วิพากษ์เขาสามสิบกว่าคดี แต่เขาไม่ยอมรับแม้แต่คดีเดียว

ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อราษฎร์บังหลวงจะถูกตัดสินประหารตัดคอไปแล้ว

เขาก็ยังไม่ยอมรับ แม้สักคำเดียว

เหตุเพราะเขาเป็นเฉิงเสี้ยเสี้ยง เพียงเขาไม่อยากยอมรับ

ศีรษะของเขาก็จะยังอยู่บนลำคออย่างปลอดภัย

แม้นว่าสิงปู้จะถ่วงนั้งเขาไวเป็นร้อยปี แม้นว่าจะต้องอยู่ในคุกแห่งนี้ตลอดชีวิต

ดีกว่าตกอยู่ในความตาม

ไต่สวนอยู่หลายวัน เขาไม่รู้สถานการณ์ด้านนอกมากนัก

สิ่งเดียวที่รู้คือโรคระบาดผีดิบมียารักษาแล้ว

ดังนั้นเขาจึงเข้าใจผิดไปว่าเสี้ยหลีโม่ตายแล้ว

มารดาของเขารักษาหายแล้วและยังมีชีวิตอยู่

เฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่รู้ว่าเฉินหลิงหลงพาเสี้ยโล่เยว่หนีไป

เขาคิดว่าเพียงตนเองอดทนแบกรับเอาไว้ได้ มารดาจะมาช่วยเขาออกไปแน่นอน

จวบจนตอนนี้เขาได้เพียงเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป

หากวันนั้นไม่ทำหลี่ซ่วยหยุ่นพิกลพิการ แล้วฆ่าเธอซะ บัดนี้คงไม่ทันการแล้ว

แต่ขณะนั้นเขาสามารถตัดแขนตัดขานางได้ อย่างน้อยทำลายร่องรอย

เช่นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดได้เห็นนางอีก

เพราะอ๋องอานชินเคยมาที่นี่ เฆี่ยนเขาอย่างสาหัส

ขณะที่ถูกตีเขาคิดว่าตนจะตายอาจจะตายด้วยน้ำมือของอ๋องอานชิน

เขาใช้ชีวิตอยู่ภายในขุมประตูแห่งความตาย ใจยังคงระลึกถึงความหวัง

ผู้ใดได้มาเห็นต้องยกย่องนับถือ

สิงปู้ไม่สามารถใช้บทลงโทษกับเขาได้อีก แต่มิได้ละเว้นเช่นกัน

สามวันเบิกตัวขึ้นศาล ทุกวันไต่สวน ล้วนเป็นอับอายไม่มีชิ้นดี

เนื้อหนังมังสาไร้ความระทม หาก จิตวิญญาณทรมานแสนสาหัส

อ๋องอานชิงมีคำสั่งลงมา ให้เขากินสามมื้อต่อวัน แต่ในทุกๆ มื้อล้วนเป็นอาหารสุนัข

หนึ่งวันดื่มน้ำได้เพียงสองอึก ต่อลมหายใจให้มีชีวิต ชีวิตที่ราวกับตายทั้งเป็น

ความอดทนของเสี้ยห้วยจุนเป็นที่ประจักษ์

เขามองความยากลำบากทั้งหมดนั้นเป็นบททดสอบของเทพเจ้าที่บันดาลให้แก่เขา

หากแต่ว่า

มันลิขิตไว้แล้วว่าจะมีผู้หนึ่งจะนำวิญญาณที่ผูกอาฆาตมาสู่เขาที่กำลังเรียกร้องขอชีวิ

หลีโม่เข้ามาในคุกด้วยตนเอง ไม่ได้ให้ซือถูเย้นมาด้วย

นางใส่ชุดเรียบๆ แสดงถึงตำแหน่งหวางเฟย

การแต่งตัวของนางมิอาจสู้หยกเขียวของผู้น้อย บนศีรษะปักเพียงปิ่นทอง

บนใบหน้ามิตบแต่ง เผยใบหน้าราชนิกุล

ใบหน้าเฉกเช่นนี้เหมือนกับเสี้ยหลีโม่เมื่ออดีตอย่างมาก

เสี้ยหลีโม่ผู้นั้นที่ถูกทำร้ายอย่างทารุณจนถึงความตาย

นางใช้ใบหน้านี้ต่อรองเป็นหนี้ชีวิตต่อบิดาของนาง

ห้องขังมืดมิดอับชื้นไร้แสงสว่างเล็ดลอด

มีเพียงตะเกียงไฟน้ำมันบนกำแพงเท่านั้นที่ส่องแสงสลัว

ไม่เพียงพอให้เห็นภาพชัดแจ้ง

หลีโม่ห้อมล้อมอยู่ในความมืด บนยอดกำแพงหนาของคุกรูระบายอากาศเล็กๆ สองรู

รักษาอากาศหายใจให้คงอยู่ ได้ยินแต่เพียงเสียงลมที่ลอดผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ นี้

บัดนี้ปรากฏเสียงร้องสะอึกสะอื้นแสนเจ็บปวด

เสี้ยเอนตัวนอนอยู่บนฟางชื้นแฉะ ปัสสาวะหรือสิ่งปฏิกูลอยู่ข้างกองฟาง

เฉิงเสี้ยงเสี้ยตกระกำอยู่ในสภาวะเช่นนี้ น่าเวทนาสงสาร

แต่หลีโม่ไม่สงสารเขา ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้

เป็นสิ่งที่เขาต้องรับเคราะห์กรรมทั้งหมด

คนเหล่านั้นที่ถูกเขาฆ่าตาย เสี้ยหลีโม่คนเก่า เสี้ยฮ่าวหราน

ชาวบ้านเหล่านั้นที่ตายลงในสถานการณ์โรคระบาดผีดิบ

เขาได้ชดใช้แทนพวกเขาแล้ว

มิหนำซ้ำปีศาจร้ายตนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ผู้ล่วงลับจะไปสู่สุคติได้อย่างไร?

เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่เนืองๆ ลืมตาขึ้นทันใด เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ผู้คุมแน่

เพราะปกติเสียงฝีเท้าของผู้คุมนักโทษนั้นบุ่มบ่ามและไร้มารยาท

แสงสลัวริบหรี่บนกำแพง ทำให้เขาเห็นเสี้ยหลีโม่ยืนอยู่นอกรั้วเหล็กกั้น

นางคิดว่าตนตาฝาด ขยับไปข้างหน้าอีกก้าว หรี่ตามองอย่างระมัดระวัง

เป็นนางจริงๆ ใบหน้านั้นที่เขาเกลียดชัง

“ทำไมแกยังไม่ตายอีก?” เขาอดเสียดายไม่ได้

คิดไปว่าแผนนั่นอย่างน้อยๆ ก็ทำให้หลีโม่ตายไปซะ

ความผิดหวังอย่างรุนแรงทำให้เขาเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว

ความโมโหค่อยๆ ก่อตัวขึ้นบนใบหน้าสกปรก

“โชคดีของเฉิงเสี้ยง ข้ายังมีชีวิตอยู่ดี” หลีโม่มองเขาอย่างนิ่งสงัด

ในแววตาไม่สั่นไหวสักเพียงนิด นางแค่มาดูเขาพังพินาศ ไม่ได้ยึดติดอาฆาตแค้น

“แกมาทำสิ่งใด?”

เสี้ยห้วยจุนลากขาที่อ๋องอันชินเฆี่ยนจนกระดูกหักคลานมาด้านหน้า ยิ้มเยาะ

“อยากมาชมเสียงหัวเราะของข้ารึ? เสี้ยหลีโม่ ยังไงฉันก็เป็นบิดาผู้ให้กำเนิดแก

ฉันพินาศอับโชค ลูกอย่างแกจะไม่ได้พานพบเกียรติยศใด”

หลีโม่ยกยิ้มไม่ใยดี ในสายตาฉายแววเยือกเย็น “ผิดแล้ว

เสี้ยหลีโม่ลูกของเจ้าได้ตายไปแล้ว ข้าไม่ใช่ลูกของเจ้า”

เสี้ยห้วยจุนแสยะยิ้ม “แม้

แกจะปฏิเสธเป็นพันครั้ง มิอาจเปลี่ยนเลือดเนื้อเชื้อไขที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของแกได้

เสี้ยหลีโม่ เพียงว่าในตระกูลหากผู้หนึ่งรุ่งอีกหนึ่งโรจน์ ผู้หนึ่งร่วงอีกหนึ่งโรย

แกคิดว่าข้าล้มลง องค์รัชทายาทจะแต่งงานกับแกรึ? อย่าอ่อนต่อโลกไปหน่อยเลย

ถึงคราวแกก็เป็นแค่หญิงหม้ายไร้ญาติ

หลีโม่หัวเราะแผ่วเบา “เสี้ยงเสี้ยอยู่ที่แห่งนี้มิรู้เรื่องรู้ราว

เมื่อวานข้าแต่งงานกับใต้เท้าแล้ว

ตามศักดิ์แล้วเสี้ยงเสี้ยสูงศักดิ์ผู้นี้ต้องรับคำนับจากข้า

น่าเสียดายเสี้ยงเสี้ยอยู่ในคุกในตาราง หากคำนับได้สักครา ข้าคงสบายใจ

แต่อย่างไรเสีย เสี้ยงเสี้ยก็คงมิอาจรับไว้”

“ว่าอย่างไรนะ?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยตกใจ หรี่ตามองนางในแสงอันริบหรี่ ภาพอันพร่ามัว

พิจารณาดูอย่างละเอียดจนได้เห็นเกล้ามวยผมของนาง เขายิ้มเยาะ

“ถ้าเช่นนั้นก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง”

หลีโมยิ้มมุมปาก “ไม่เพียงแค่เรื่องมงคลเรื่องนี้

ในเมืองเพลานี้มีเรื่องน่ายินดีอีกหลายเรื่อง เป้าหมายเดียวของข้าที่มา

คือแบ่งปันเรื่องราวมงคลเหล่านี้แก่เฉิงเสี้ยงเสี้ย

“ไม่จำเป็น ข้าไม่อยากฟัง” เขาตอบอย่างไร้ความรู้สึก

หลีโม่กลับพูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย “เรื่องแรก

นายหญิงจวนเฉิงเสี้ยงตายในเขตแพร่ระบาด ตายอย่างน่าสงสารอยู่มากทีเดียว

ถูกชาวบ้านใช้หินทุบจนตาย”

“แกพูดอันใด?” เสี้ยห้วยจุนเปลี่ยนสีหน้า ดวงตาเบิกกว้าง แววตาของเขาดูน่ากลัว

“เรื่องต่อมา คนรักของเจ้าเฉินหลิงหลง

กวาดเอาแก้วแหวนเงินทองในจวนเฉิงเสี้ยงหนีไปเสี้ยโล่เยว่เสียแล้ว

“หญิงทรพิษ ข้ากะแล้วว่านางเชื่อไม่ได้” เสี้ยห้วยจุนด่าฉาดใหญ่ ใบหน้าบิดเบี้ยว

หลีโม่มิอาจหุบยิ้มลงได้ “เรื่องที่สาม

เจ้าหวังอยู่เสมอว่ามารดาของข้าจะต้องไม่ได้พบได้เจอกับความสุข แต่น่าเสียดาย

อ๋องอานชินได้พบรักกับมารดาข้าพอดิบพอดี

ต้องการสู่ขอนางเป็นมเหสีของอ๋องอานชิน”

เรื่องนี้หลีโม่ปั้นเรื่องขึ้นมาเอง

หากแต่ทำให้เสี้ยห้วยจุนสะทกสะท้านอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาจ้องหลีโม่อย่างอาฆาตเอาเป็นเอาตาย ไล่ทั้งสองข้าวตกลง

ใบหน้าซูบเซียวลงเพียงวูบเดียว หลี่ซ่วยหยุ่น ข้าควรฆ่าให้ตายไปเสียจริงๆ

การตายของมารดาสู้ไม่ได้กับการโจมตีอย่างรุนแรงเช่นนี้

กลับไม่ใช่ว่าไม่เจ็บปวดกับการตายของมารดา

หากแต่เขาไม่มีทางยินดีกับการแต่งงานของอ๋องอานชินและหลี่ซ่วยหยุ่นได้

“ข้าจะสาปแช่งพวกมันทุกคืนวัน พวกมันจะต้องไม่ตายดี” เสี้ยห้วยจุนกัดฟันกรอด

หลีโม่ยิ้มเย็น “หากสาปแช่งแล้วเกิดประโยชน์ เสี้ยงเสี้ยก็คงตายไปนานแล้ว

เจ้ารู้หรือไม่? ชาวบ้านชาวเมืองข้างนอกกำลังเฝ้ารอดูเจ้าตายมากมายเท่าใด?

พวกเขาเผาพริกเผาเกลือ เฝ้าถามฟ้าดิน เมื่อใดจะเอาตัวเจ้า

“ข้ายังไม่ยอมรับคำให้การ สิงปู้ยังมิได้ตัดสินโทษ ผู้ใดแพร่ข่าวลือออกไป?”

ความโกรธถาโถมเสี้ยห้วยจุน

“เสี้ยงเสี้ยอย่าไร้เดียงสาหน่อยเลย แม้จะยังไม่ยอมรับผิดแต่หลักฐานชัดเจน

เสี้ยงเสี้ยคิดว่าท่านอ๋องจะปล่อยเลยตามเลยหรือ?

แม้แคว้นต้าโจวกฎหมายของต้าโจวจะเป็นลายลักษณ์ชัดเจน

แต่เพียงราชสำนักชั้นสูงในแคว้นตัดสินโทษ แม้ไม่ยอมรับก็มิอาจตัดสิน

หากแต่จะทำให้เจ้าตายอยู่ในคุกอับแสงไร้ตะวันได้ มิใช่เพียงท่านอ๋อง ยังเป็นข้า

ล้วนทำมันได้”

คำของหลีโม่ ดับไฟแห่งความหวังสุดท้ายของเขาให้มอดลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม