พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 308

ตอนที่ 308 ล้วนพูดจริงจากใจทั้งสิ้น

หลีโม่รู้สึกว่าอ๋องหลี่ชินอาจรู้ว่าความเป็นมาของไทฮองไทเฮา จึงกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ไทฮองไทเฮาดูเหมือนจะรู้เรื่องราวทั้งหมดดี นางเป็นใครมาจากไหนหรือ?”

อ๋องหลี่ชินกล่าว “พื้นเพเป็นคนในเมือง พ่อแม่ของนางเป็นหลงเซียงมาก่อน เจ้าไม่รู้หรือ?”

“ข้าไม่ได้รู้มากนัก เพียงแค่รู้สึกว่านางเก่งกาจทีเดียว” หลีโม่ตอบ

อ๋องหลี่ชินพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว ข้าเติบโตมากับนางตั้งแต่เล็ก นางไม่มีสิ่งใดไม่รู้ แต่อารมณ์ฉุนเฉียว ไม่ดีอยู่บ้าง”

หลีโม่จำได้ว่าเมื่อก่อนอ๋องหลี่ชินเคยกล่าว ‘ลมชัก’ สองคำนี้เอาไว้ ฉวยโอกาสที่ทุกคนได้ร่วมมื้ออาหารกันครานี้ถามออกไป “ท่านอ๋องรู้ว่าลมชักหมายความว่าอย่างไรหรือไม่?”

อ๋องหลีชินตอบ “ข้ารู้ ตอนข้ายังเล็กเคยเรียนตำราแพทย์กับไทฮองไทเฮา นางเคยสอนศัพท์ทางแพทย์อยู่หลายคำ นางกล่าวว่าเป็นคำในบ้านเกิดของนาง”

“บ้านเกิดของนาง? ไม่ใช่ว่านางเป็นคนในเมืองรึ?”

อ๋องหลี่ชินมองนางอยู่ชั่วพริบตา “นางกล่าวไว้เช่นนี้ เจ้ามีข้อสงสัยใดให้ไปถามนาง ข้าไม่ถามหรอก หากพูดถึงบ้านเกิดนาง นางจะเล่าได้ทั้งคืน ปากนางจะไม่สามารถหยุดได้”

หลีโม่สบตากับหูฮวนซีเพียงชั่วครู่ ดูท่าแล้วอ๋องหลี่ชินจะไม่ได้เกินในภูมิลำเนาเดียวกัน

ความจริงหลีโม่ไม่รู้ตื้นลึกว่าอ๋องหลี่ชินจะไม่โกหกหรือไม่ การถูกความผิดปกครอบงำเช่นนี้ การโกหกอย่างแรกจะทำให้เขาอึดอัด

“เอาเถอะ ต้องการเล่นพูดสัตย์จริงท้าประลองหรือไม่?” อ๋องหลี่ชินถามขึ้น

หูฮวนซียิ้มตอบ “ดี พวกเราเล่นกันเถอะ ถ้าเช่นนั้นไปเตรียมแผ่นป้าย เขียนชื่อของตน”

เย็นเออร์กับเตาเหล่าต้าจึงไปจัดการให้ ชั่วประเดี๋ยวเดียวชื่อของแต่ละคนก็เขียนเสร็จเรียบร้อย

แผ่นป้ายกองอยู่ตรงหน้าหลี่ซ้วยหยุ่น กลับเอาชื่อลง หลี่ซ้วยหยุ่นสุ่มดึงขึ้นมาแผ่นหนึ่ง แผ่นที่เขียนชื่อของเซียวเซียว

นางเปิดแผ่นป้ายออก มองไปที่เซียวเซียว

หูฮวนซีเข้าไปดูใกล้ๆ “เอาล่ะ เริ่มจากแม่ทัพเซียว ท่านแม่ทัพเลือกพูดความจริงหรือท้าประลองดีล่ะ?”

ซือถูเย้นกล่าวประโยคหนึ่งขึ้นมาทันใด “ไม่มีการท้าประลอง มีแต่ต้องพูดความจริง”

หลีโม่หรี่ตามองเขา เล่นใหญ่ขนาดนี้เลยรึ? ดี ข้าชอบนัก

ผู้ชมมองไปที่เซียวเซียวอย่างเฝ้ารอ ในมือของซือถูจิ้งถือถ้วยเหล้าเอาไว้ แววตาไม่เปลี่ยนไปเลย

“ใครจะถาม?” หูฮวนซีถามขึ้น

ซือถูเย้นไม่มีแผนสำหรับปล่อยตัวเซียวเซียวไปในคำคืนนี้แน่นอน “ข้าถาม”

เซียวเซียวเงยหน้าทองเขา “ข้าไม่เล่น”

“เจ้าต้องเล่น เคารพการละเล่น คือการเคารพต่อตัวเจ้าเอง” หลีโม่กล่าว

เซียวเซียวเหลือบมองหลีโม่ “ข้าสามารถเลือกผู้ถามได้หรือไม่?”

“ได้!”

“ไม่ได้!”

หูฮวนซีบอกว่าได้ ซือถูเย้นและหลีโม่กลับบอกว่าไม่ได้ หูฮวนซีแอบประหลาดใจ นางไม่เข้าใจความหมายของหลีโม่ แต่จากแววตาของนางนั้นดูออกว่ามีความหวัง ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนคำ “ไม่ได้”

อ๋องหลี่ชินกลับขมวดคิ้วถาม “ทำไมจึงไม่ได้? ได้สิ และไม่ยอมให้เลือกท้าประลอง เดิมทีก็...”

เมื่ออ๋องหลีชินกำลังวางแผนแสดงกฎของการพูดความจริงออกไป หลีโม่ก็กล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ได้”

นางเชื่อว่าคนที่นั่งอยู่นี้ล้วนรู้เรื่องเหล่านั้นของเซียวเซียวและซือถูจิ้ง ควรถามคำถามนี้

หากแต่ว่าเซียวเซียวกลับนำเอาอำนาจในการถามคำถามยกให้ซือถูจิ้ง “องค์หญิงถาม”

ซือถูจิ้งรู้สึกเหนือความคาดหมาย นางเงยหน้ามองเซียวเซียว ภายในสายตาไม่สั่นไหว แต่ผู้ถูกเรียกกลับเศร้าลงเล็กน้อย

หลีโม่มองดูซือถูจิ้ง หวังว่านางจะใช้ความกล้า ถามเซียวเซียวว่ายังรักนางหรือไม่

ซือถูจิ้งอยู่ภายใต้การเฝ้ารอคอยของผู้ชม กลับถามประโยคเดียวเพียงแผ่วเบา “อยู่ด่านชายแดนมาหลายปี จัดการทุกอย่างได้ดีหรือไม่?”

เซียวเซียวตอบกลับเสียงแผ่ว “ดี!”

ซือถูจิ้งพยักหน้ารับเก้ๆ กังๆ “อือ คนต่อไป”

นางชำเลืองมองเซียวเซียวชั่วพริบตา เซียวเซียวกลับยังมองนางอยู่ นางหลบสายตา เร่งรัดหลี่ซ่วยหยุ่น “คนต่อไปแล้วเพคะ”

ซือูเย้นและหลีโม่สบตากันอย่างผิดหวัง

ครานี้ หลี่ซ่วยหยุ่นจับได้ชื่อของตน นางวางลงบนโต๊ะด้วยท่าทีเก้อเขินเล็กน้อย “ใครจะถามดีเล่า?”

“ข้าถาม!” อ๋องหลี่ชินส่งเสียงขึ้นมาทันที

ทุกคนล้วนมองไปที่หลี่ซ่วยหยุ่น หลี่ซ่วยหยุ่นยิ้มเก้อ “ท่านอ๋องถามเถอะ”

อ๋องหลี่ชินมองหลี่ซ่วยหยุ่น “ถ้าหากวันใดวันหนึ่ง ข้าต้องห่างเมืองไปเที่ยวสำรวจป่าเขาลำธารแคว้นต้าโจว เจ้าจะยินยอมเคียงข้างไปด้วยกันกับข้าหรือไม่”

ทุกคนมองไปที่หลี่ซ้วยหยุ่น ไม่คาดคิดว่าอ๋องหลี่ชินจำถามนางอย่างตรงไปตรงมาถึงเพียงนี้ เคียงข้างไปกับเขา นี่ไม่ใช่ว่าแฝงความหมายลึกซึ้งว่าทั้งสองไปกันได้ยาวไกลรึ?

หลี่ซ้วยหยุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าไม่รู้”

“นี่คือการพูดสัตย์จริงนะ” เฉินหลิ่วหลิ่วพูดขึ้น

หลี่ซ้วยหยุ่นมองอ๋องหลี่ชิน “ก่อนนั้นไม่เคยคิดเลย ดังนั้นจู่ๆ ท่านถามข้าเช่นนี้ ข้าไม่รู้จริงๆ และนี่คือความจากใจข้า”

“จากนี้ต่อไป เจ้าลองคิดพิจารณาคำถามนี้ดูเสีย ได้หรือไม่?”

หลี่ซ้วยหยุ่นส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากหลีโม่ หลีโม่ทำเป็นว่ามองไม่เห็น

หลี่ซ้วยหยุ่นเพียงตอบกลับไปว่า “ได้ ข้าจะลองพิจารณาดู”

อ๋องหลี่ชินถามคำถามน่าตื่นเต้นเช่นนี้ ทำเอาการละเล่นนี้ดูสนุกขึ้นมา

ครั้งนี้หลี่ซ้วยหยุ่นดึงได้แผ่นป้ายชื่อของเซียวโธ่ ทำเอาเฉินหลิ่วหลิ่วลุกขึ้นมา ชนส้มจนล้มระเนระนาด “ข้าอยากถาม”

ซูชิงเผยยิ้ม “เจ้านี่ไม่ใจร้อนเกินไปหน่อยรึ?

เฉินหลิ่วหลิ่วกลับไม่สนใจ จ้องมองเซียวโธ่ ใช้ความกล้าถามออกไป “เซียวโธ่ เจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่?”

หลิ่วหลิ่วใจซื่อตรงกล้าหาญ ทุกคนล้วนรู้ดี แต่ไม่มีใครคิดว่านางจะถามเช่นนี้ต่อหน้าคนมากมายถึงเพียงนี้

หลีโม่กังวลอยู่บ้าง เซียวโธ่ผู้นี้ปากแข็ง ถามเขาเช่นนี้อาจไม่ได้รับคำตอบที่น่ายินดีนัก

ผลสุดท้าย เซียวโธ่ส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่แต่ง”

ใบหน้าเฉินหลิ่วหลิ่วซีดลง กลับถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เพราะเหตุใด? ข้าดีไม่พอหรือ”

เซียวโธ่คิดอยู่พักหนึ่ง “จะว่าดีก็ดี แต่เจ้ามุทะลุนัก ไม่มีหญิงสาวที่ไหนเป็นเช่นเจ้า”

องค์ชายทั้งสิบสองของตระกูลเฉินลุกขึ้นยืน เดินไปอยู่ข้างกายเซียวโธ่ เฉินหลงตบลงบนบ่าของเซียวโธ่ รุกล้ำถามออกไป “เซียวโธ่ พวกเราออกไปคุยกันหน่อย” พี่น้องตระกูลเฉิน แต่ละคนนวดหมัด ถูมือกัน

ต้องการจัดการเซียวโธ่

เฉินหลิ่วหลิ่วตบโต๊ะ “อย่าทำให้มากความ นอกจากข้า ไม่มีผู้ใดสามารถรังแกเขาได้”

สมุนพี่น้องเห็นน้องสาวโกรธกลับไปนั่งที่อย่างว่าง่าย

เซียวโธ่ได้ยินเช่นนั้นมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้าง “เหตุใดเจ้าจึงรังแกข้าได้? ข้าจะไม่โดนเจ้าแกล้ง เจ้านี่แปลกพิลึกจริง”

ซือถูจิ้งจับเซียวโธ่เอาไว้ “แน่ล่ะ เจ้าเงียบซะ คนต่อไป! คนต่อไป!”

เฉินหลิ่วหลิ่วนั่งลง รอบดวงตาแดงก่ำ หลีโม่มองนางอยู่ น่าเห็นใจนัก

เฉินไท่จูนค่อยๆ หันไปมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่ากำลังส่งสัญญาณเตือน สัญญาก่อนหน้านั้นของนางล่ะ?

หลีโม่เปลี่ยนสายตาอย่างละอาย เซียวโธ่ผู้นี้เหมือนกันหินก็ไม่ปาน คมมีดมิอาจทะลุเข้าไปได้

ดูท่าแล้ว ครานี้นางต้องละอายต่อเฉินไท่จูนเสียแล้ว

และครานี้ หลี่ซ้วยหยุ่นจับได้ชื่อของซือถูเย้น

ทุกคนมองซือถูเย้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ซือถูเย้นตอนนิ่งๆ “ถามได้ตามสบาย ประการแรกข้าไม่มีความลับ ประการที่สองไม่มีเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว ประการที่สามไม่มีเรื่องที่ไม่สามารถบอกผู้ใดได้”

ผู้ถามคือซูชิง เขายังไม่ทันได้ถามก็หลุดหัวเราะออกมาเองเสียก่อน

เฉินหลิ่วหลิ่วเหมือนลืมความอับอายและความเสียใจเมื่อครู่ไปซะแล้ว ถามด้วยความสนอกสนใจ “ซูชิง เจ้าจะถามอันใดกัน? เหตุใดจึงหัวเราะเช่นนั้น รีบถามซิ ข้าก็อยากหัวเราะเช่นกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม